หวั่น ‘โควิด’ ปะทุ เร่งฉีดกลุ่มเสี่ยง จบในสงกรานต์

ไทยพบติดเชื้ออีก 2.6 หมื่นราย เสียชีวิต 67 คน โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ เร่งประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเสี่ยง 608 ฉีดวัคซีน อย่างน้อย 70%  ก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ลำปางอาการหนัก คลัสเตอร์เรือนจำติดโควิดกันระนาว

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2565 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 26,234 ราย ติดเชื้อในประเทศ 26,123 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 26,068 ราย, มาจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 55 ราย, มาจากเรือนจำ 75 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 36 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 20,013 ราย อยู่ระหว่างรักษา 250,265 ราย อาการหนัก 1,615 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 640 ราย

เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 67 ราย เป็นชาย 31 ราย หญิง 36 ราย อายุ 60 ปีขึ้นไป 50 ราย มีโรคเรื้อรัง 16 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 1 ราย ขณะนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 3,503,264 ราย มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 3,228,284 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 24,715 ราย

ส่วนยอดฉีดวัคซีนวันที่ 25 มี.ค. 297,875 โดส ยอดฉีดสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.64 จำนวน 128,399,428 โดส ขณะที่สถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 479,965,820 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 6,142,930 ราย 

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ กทม. 3,128 ราย, นครศรีธรรมราช 1,356 ราย, ชลบุรี 1,305 ราย,  สมุทรปราการ 875 ราย, สมุทรสาคร 759 ราย, สงขลา 727 ราย, นครปฐม 691 ราย, ร้อยเอ็ด 657 ราย, นนทบุรี 652 ราย และพัทลุง 581 ราย

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งประชาสัมพันธ์สื่อสารทำความเข้าใจกลุ่มเสี่ยง 608 ให้ได้รับวัคซีนในวงกว้าง พร้อมให้ปูพรมฉีดวัคซีน โดยตั้งเป้าฉีดเข็มกระตุ้นแก่ผู้สูงอายุให้ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 70% ก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขจัดโครงการรณรงค์ฉีดวัคซีนในกลุ่ม 608 เรียกว่า “SAVE 608” ใช้เวลาทั้งหมด 10 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 21-31 มีนาคมนี้ เพื่อฉีดวัคซีนครอบคลุมกลุ่ม 608 ให้ครอบคลุมมากที่สุด โดยมีการเตรียมวัคซีนประมาณ 3 ล้านโดส สำหรับกิจกรรมบริการฉีดวัคซีนแบบเชิงรับและเชิงรุกก่อนเทศกาลสงกรานต์ ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ขณะนี้ วัคซีนที่มีอยู่ในขณะนี้มีเพียงพอ

ที่จังหวัดลำปาง พบการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ เกิดขึ้นภายในเรือนจำกลางลำปาง กรมราชทัณฑ์ซึ่งเป็นเรือนจำขนาดใหญ่ ตั้งอยู่กลางเมืองลำปาง เขต ต.หัวเวียง อ.เมืองฯ เขตเทศบาลนครลำปาง มีผู้ต้องขังอยู่ภายในเกือบ 2,000 คน โดยพบผู้ต้องขังป่วยติดเชื้อรายแรก เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมโรคของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางลำปาง ได้เข้าไปควบคุมด้วยวิธี Bubble and Seal เพื่อคัดกรองโรคและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคอย่างใกล้ชิด ก็พบผู้ต้องขังทยอยป่วยเพิ่มขึ้น สะสมจำนวน 206 ราย ซึ่งรายล่าสุดพบป่วยเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2565

นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดและการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนภายในเรือนจำกลางลำปางแห่งนี้ว่า เป็นอีกหนึ่งคลัสเตอร์ที่มีการเร่งควบคุมโรคและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ซึ่งทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและทางผู้บัญชาการเรือนจำกลางลำปาง กรมราชทัณฑ์ ได้ร่วมกันเข้าควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้วขณะนี้ขอให้ประชาชนมั่นใจ โดยจะไม่มีการแพร่ระบาดออกมาสู่ภายนอก และจะควบคุมโรคเพื่อให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดและการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้ต้องขังอยู่ในภาวะเสี่ยงสูงเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็มีการคัดกรองโรค และแยกโรค หากพบว่าใครเสี่ยงสูงหรือป่วย ก็ต้องแยกตัวออกมาเฝ้าระวังในจุดที่ดูแล ณ โรงพยาบาลสนามในแดนกักขังกลาง ส่วนใครที่เสี่ยงต่ำ หรือไม่มีความเสี่ยง ก็อยู่ภายในแดนกักขังเรือนนอน ซึ่งเป็นแนวทางการคัดกรองโรค และการควบคุม รักษาแบบ Bubble and Seal

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาพื้นที่ จ.ลำปาง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ได้พบการระบาดอย่างหนักภายในทัณฑสถานบำบัดพิเศษลำปาง กรมราชทัณฑ์ ตั้งอยู่ในเขต อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ซึ่งเป็นเรือนจำขนาดใหญ่ของภาคเหนือตอนบน ที่ใช้กักขังผู้ต้องโทษในคดียาเสพติด มีผู้ต้องขังติดเชื้อไปมากถึง 1,011 ราย ซึ่งสถานการณ์ก็กลับไปเป็นปกติแล้ว หลังหายป่วยไปครบทุกราย เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 กระทั่งมาพบการระบาดอีกครั้งภายในเรือนจำกลางลำปาง ซึ่งถือว่าเป็นการระบาดครั้งแรกนับตั้งแต่มีการระบาดของโรคโควิด-19  ซึ่งล่าสุดไม่พบผู้ต้องขังป่วย แต่ก็ยังคงเฝ้าระวังต่อเนื่อง โดยผู้ต้องขังที่ป่วยตั้งแต่เริ่มการระบาด ก็ทยอยหายป่วยสะสมไป 194 ราย และหากไม่มีคนป่วยเพิ่ม สถานการณ์ก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติต่อไป โดยคาดว่าผู้ต้องขังที่ยังป่วยอยู่จะได้รับการดูแลรักษา จนทยอยหายป่วยหมดภายในสัปดาห์หน้า ส่วนเจ้าหน้าที่ภายในเรือนจำกลางลำปางที่ป่วยติดเชื้อ 13 ราย รักษาหายแล้ว 9 ราย อยู่ระหว่างรักษา 4 ราย

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทั้งจังหวัดลำปาง พบว่ามีจำนวนเพิ่ม โดยสัปดาห์นี้มียอดทะลุหลักพันติดต่อกัน โดยวันที่ 26 มี.ค. พบผู้ป่วยรายใหม่ 1,115 ราย มีผู้ป่วยสะสม 25,930 ราย หายป่วย 759 ราย อยู่ระหว่างรักษา 6,721 ราย.