กกต.เตือนก่อนฟัน! พท.ฝันโกยที่นั่งสส.

กกต.พร้อมเปิดรับสมัครผู้ว่าฯ-ส.ก. ยึดมาตรการป้องกันโควิด เตือนผู้สมัครฯ อย่าทำผิด กม.ห้ามหาเสียง จัดมหรสพ-งานรื่นเริง เพื่อไทยฟุ้งเลือกตั้งรอบหน้าแลนด์สไลด์ ขานรับบัตรสองใบ ขอเบอร์เดียวทั่วประเทศ กะฟัน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เกือบครึ่ง "การุณ" ท้า พท.ขับจะได้ไม่ต้องเลือกตั้งใหม่

เมื่อวันที่ 26 มี.ค.65 นายสำราญ ตันพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (ผอ.กกต.กทม.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเปิดรับสมัครการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.)และสมาชิกสภากรุงเทพมหานนคร (ส.ก.) ระหว่างวันที่ 31 มี.ค- 4 เม.ย. ว่า ทาง กกต.กทม.และกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ประสานงานร่วมกันมาโดยตลอดตั้งแต่ก่อนที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะเห็นชอบให้มีการเลือกตั้งแล้ว

"ยืนยันว่ามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากร สถานที่รับสมัคร และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ โดยสถานที่รับสมัครกำหนดไว้ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 เขตดินแดง กทม. ซึ่งคำนึงถึงความปลอดภัยและความเหมาะสม โดยเฉพาะการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเคร่งครัด รวมทั้งเรื่องความปลอดภัยและการรักษาความสงบเรียบร้อย เนื่องจากวันรับสมัครจะมีผู้สมัครและผู้สนับสนุนผู้สมัครเดินทางกันมาเป็นจำนวนมาก"

นายสำราญกล่าวว่า สำหรับการเลือกตั้ง ส.ก.เกิดขึ้นครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2553 ส่วนผู้ว่าฯ กทม. วันที่ 3 มี.ค. 2556 เวลา 12 ปีกับ 9 ปี ถือว่าเป็นระยะเวลาที่นานพอสมควรที่ไม่มีการเลือกตั้ง กฎหมายและระเบียบต่างๆ ขณะนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก เพราะฉะนั้นจึงมีความห่วงใยต่อผู้สมัครทุกคน ทาง กกต.กทม.ได้อำนวยความสะดวกด้วยการช่วยให้ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ การปิดป้ายหาเสียงต่างๆ เพื่อป้องกันการทำผิดกฎหมาย ส่วนวันรับสมัคร สิ่งที่เน้นย้ำมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสิ่งที่จะเกิดขึ้นเป็นประจำคือการจัดมหรสพ การจัดงานรื่นเริง แห่กลองยาว และการแจกจ่ายข้าวกล่อง หากผู้สมัครได้หมายเลขแล้ว การกระทำดังกล่าวจะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 65 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 ทันที

“ผู้สมัครและผู้สนับสนุนต้องพึงระมัดระวังการกระทำต่างๆ อย่างเคร่งครัด แม้บางครั้งอาจมองเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าสิ่งนั้นคือสิ่งของหรือทรัพย์ที่มีค่า จะเท่ากับว่าเป็นการให้ทรัพย์สินได้เช่นกัน ดังนั้น กกต.พยายามให้ความรู้และความเข้าใจเพื่อไม่ให้ผู้สมัครที่ผู้เสียสละมาทำหน้าที่เพื่อพัฒนากรุงเทพฯ ต้องทำผิดกฎหมาย เราจะดูแลให้ดีที่สุดในฐานะผู้ทำหน้าที่ควบคุมกติกา” ผอ.กกต.กทม.กล่าว         

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งครั้งหน้าด้วยกติกาบัตรสองใบ มั่นใจพรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส.แบบแลนด์สไลด์หรือไม่ว่า เรามั่นใจ เชื่อมั่นว่าประชาชนจะให้โอกาสกับพรรคเพื่อไทย เพื่อเป็นการให้โอกาสตัวเองในการฟื้นวิกฤตจากปัญหาที่รัฐบาลนี้ทำไว้ พรรคเพื่อไทยเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะมั่นใจนโยบายที่นำเสนอจะทำให้ประชาชนมั่นใจและเห็นภาพเป็นอนาคตของตัวเอง มั่นใจว่าเลือกเพื่อไทยแล้วสิ่งที่เป็นนโยบายสามารถนำไปสู่ความเป็นจริงได้ เป็นประชาธิปไตยที่กินได้ มั่นใจว่าบุคลากรของพรรคทั้ง ส.ส. ทีมงานของพรรค กลไกเครือข่ายที่อยู่กับประชาชน การสื่อสารทางการเมือง การสร้างการมีส่วนร่วม เช่นครอบครัวเพื่อไทย จะทำให้ประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทย

และสิ่งสุดท้ายคือกติกาบัตร 2 ใบ ไม่ว่าจะหมายเลขเดียวกันหรือไม่ จะได้ ส.ส.เพิ่มอย่างแน่นอน มั่นใจว่าจะได้คะแนนส.ส.บัญชีรายชื่อไม่ต่ำกว่า 30-40% ทุกอย่างที่กล่าวมา ทำให้มั่นใจเพื่อไทยแลนด์สไลด์แน่นอน มั่นใจว่าจะสามารถตั้งรัฐบาลได้ ถ้าเราได้ ส.ส.มาเกินกึ่งหนึ่งแล้ว ยากที่กลไกจะไปบิดเบือนเสียงของประชาชนอย่างแน่นอน ถ้าเขาจะเป็นรัฐบาล ก็เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งไปไม่ได้ ที่สำคัญเชื่อว่า ส.ว. 250 ท่านจะเคารพการตัดสินใจของประชาชน

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การจะแลนด์สไลด์หรือไม่นั้นอยู่ที่พี่น้องประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน เราพยายามจะนำเสนอแต่สิ่งที่ดีที่สุดเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน คือหน้าที่ของพรรคการเมือง แต่จากการลงพื้นที่และคุยกับเพื่อน ส.ส. มีความมั่นใจว่าจะได้เสียงสนับสนุนจากประชาชนจำนวนมาก และถ้าได้เสียงเพียงพอก็หวังว่าเราจะตั้งรัฐบาลได้โดยไม่ถูกขวางทางจาก ส.ว. 250 เสียงเหมือนการเลือกตั้ง 62 ที่ผ่านมา

ขณะที่นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก 'เก่ง การุณ' แนบภาพถ่ายตัวเองที่ยืนหันหลัง เห็นเสื้อที่สวมเป็นลายเสือ พร้อมกับเขียนข้อความว่า หน้าเนื้อ หลังเสือ #ดอนเมืองไม่ทิ้งกัน #การุณไม่ทิ้งใคร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากโพสต์ข้อความไปแล้ว มีผู้คนมาร่วมแสดงความคิดเห็นกรณีนายการุณที่โพสต์ข้อความก่อนหน้าระบายความรู้สึกในทำนองโดนบีบจากนักรบห้องแอร์ ที่อยากจะบีบให้ย้ายออกจากพรรคเพื่อไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้ที่มาแสดงความเห็นมีทั้งกลุ่มคนที่เห็นด้วยและเห็นต่างกับนายการุณ ที่น่าสนใจหนึ่งในคอมเมนต์ระบุว่า ถ้าแน่จริงลาออกไป

รายงานข่าวจาก กกต.แจ้งว่า สัปดาห์หน้าทางสำนักงาน กกต.เตรียมเสนอเรื่องให้ที่ประชุมพิจารณาว่าจะประกาศรับรองให้นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้ได้รับเลือกตั้งจากพรรคเพื่อไทย (พท.) เป็น ส.ส.กทม. เขตเลือกตั้งที่ 9 แทนตำแหน่งที่ว่างหรือไม่ เนื่องจากในวันที่ 30 มี.ค.นี้ จะครบกำหนดระยะเวลา 60 วันตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ นอกจากมีประเด็นคำร้องของนายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่นขอให้ตรวจสอบกรณีขึ้นป้ายหาเสียงว่า "รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ลดรายจ่ายประชาชน" เข้าข่ายกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73(5) ที่ระบุว่า หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคามใส่ร้ายด้วยความเท็จจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง หรือไม่แล้ว ยังมีกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่น กกต.ขอให้ตรวจสอบว่านายสุรชาติเป็นสมาชิกพรรค พท.หรือไม่ด้วย

ทั้งนี้ นายเรืองไกรยื่นร้องว่า จากการตรวจสอบเว็บไซต์ของสำนักงาน กกต.เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2565 พบว่า นายสุรชาติ เป็นสมาชิกของพรรค พท. ตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.2552 แต่จากการตรวจสอบกูเกิล พบข่าวเว็บไซต์มติชน เมื่อวันที่ 1 ก.พ.2563 หัวข้อ "สุรชาติ เทียนทอง" เข้าพิธีอุปสมบทมุ่งสู่ทางธรรม ป๋าเหนาะ - ส.ส.- แม่ยก ร่วมงานบุญอย่างคึกคัก จึงมีมูลเหตุตรวจสอบว่า การบวชเพื่อศึกษาธรรมะนั้น จะทำให้นายสุรชาติขาดจากความเป็นสมาชิกพรรค พท. ตามข้อบังคับพรรค พท. ข้อ 16(3) ประกอบข้อ 12(4) หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ข้อบังคับพรรคเพื่อไทย ข้อ 16(3) ระบุว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสิ้นสุดลง เมื่อขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 11 หรือข้อ 12 กรณีเว้นแต่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 12 (4) และเป็นการบวชตามประเพณีนิยม แต่ในระหว่างมีลักษณะต้องห้ามดังกล่าวจะใช้สิทธิในฐานะสมาชิกมิได้" และข้อ 12(4) ระบุว่า บุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้ เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้เป็นสมาชิก ดังนั้น หาก กกต.ตรวจสอบว่านายสุรชาติบวชเพื่อศึกษาธรรมะ จะเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกพรรค พท.สิ้นสุดลงหรือไม่ และการที่พรรค พท.ส่งนายสุรชาติลงสมัคร ส.ส. เมื่อวันที่ 30 ม.ค.2565 จะเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติ​ประกอบรัฐธรรมนูญ​ (พ.ร.ป.) ​ว่าด้วยพรรคการเมือง และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ด้วยหรือไม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สมชาย' กระทุ้ง กกต. ไล่บี้สอย สว. ที่มีลักษณะต้องห้าม

นายสมชาย แสวงการ อดีตสภาวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย มีเนื้อหาทำงาน จดหมายเปิดผนึก:ข้อเสนอสาธารณะถึงคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือกกต. เพื่อพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ของสว.กลุ่ม18 สื่อสารมวลชน และสวกลุ่มต่างๆทั้ง 20 กลุ่ม

'กรพด' ลั่น! ไม่เคยเข้าคุก ยินดีให้กกต.ตรวจสอบ เล็งฟ้องคนทำเสียหาย

ที่รัฐสภา ว่าที่ พ.ต.กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์ สว.กลุ่ม18 สื่อสารมวลชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)สั่งสอบห

ก้าวไกลเพ้อชนะยุบพรรค!

ใจดีสู้เสือ! "ชัยธวัช" เชื่อ "ก้าวไกล" มีโอกาสชนะสูง อ้างยิ่งศาล รธน.ปิดไต่สวน "คดียุบพรรค" ก็ยิ่งมั่นใจในคำแถลงปิดคดี ปลุกกองเชียร์ 7 ส.ค.