ชิงผู้ว่าฯคึก‘อัศวิน’จ่อเปิดทีมงาน

ระเบิดศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ  กทม. เปิดตัวทีมงาน-ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.คึกคัก ปชป.โชว์ทีมหนุน "ดร.เอ้" ประกาศเรียกศรัทธาพรรคคืน "อุ๊งอิ๊ง" นำ "ครอบครัวเพื่อไทย" สู้ศึกชิงเก้าอี้สภาเล็กคุมงบแสนล้าน โวนโยบาย ส.ก.พท.ตอบโจทย์คน กทม. ด้าน "อัศวิน" จ่อเปิดตัว "กลุ่มรักษ์กรุงเทพ" สานต่องาน มั่นใจได้กลับมาแน่  "พปชร." หวังกระแสคนกรุงเปลี่ยนช่วงโค้งสุดท้าย ขณะที่ "วิโรจน์" เปิดนโยบายทะเลาะกับรั้วสนามหลวง​

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2565 เวลา 10.00 น. ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. แถลงลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. โดยกล่าวว่า ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งวันแรกจนถึงวันนี้ 5 ปี 5 เดือน 5 วัน ตนเป็นนักปฏิบัติ นักประสาน ได้ทำงานแก้ไขปัญหาทั้งเรื่องคลองจากน้ำสกปรก จนน้ำใสสะอาด นำเรือไฟฟ้ามาวิ่ง แก้ปัญหาน้ำท่วม สร้าง water bank หลายจุด เชื่อมต่อการสัญจรล้อ ราง เรือ สร้างโรงพยาบาลบางขุนเทียน รวมถึงด้านการศึกษา เพิ่มคุณภาพชีวิตของนักเรียน

“ที่ลาออกในวันนี้ ผมจะไปสมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผมไม่ได้ยึดติดอำนาจ แต่ต้องการมาทำงานที่ค้างอยู่ต่อให้เสร็จ รวมถึงทำสิ่งใหม่ๆ ที่ดีให้กับสังคมกรุงเทพฯ โดยมีกลุ่มรักษ์กรุงเทพ กลุ่มคนที่ต้องการเข้ามาทำงานเพื่อคนกรุงเทพฯ ไม่ใช่นักการเมือง จะมาสนับสนุน โดยจะมีการเปิดตัวผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ก. และเปิดนโยบายในวันที่ 28-29 มีนาคมนี้ ยืนยันว่าลงอิสระ ไม่ยุ่งกับพรรคการเมือง ผมเป็นตัวของตัวเอง อยากจะไปด้วยตัวเอง”

พล.ต.อ.อัศวินกล่าวอีกว่า ไม่กังวลกับผู้สมัครที่เปิดตัวไปแล้ว ทุกคนเป็นคนดี เป็นคนเก่ง เป็นเรื่องดีที่จะเป็นตัวเลือกที่หลากหลาย แต่ถ้าพี่น้องประชาชนหมดตัวเลือก หรือถ้ายังไม่ได้ตัดสินใจ ก็ขอให้หันมาหาอัศวิน ตนพร้อมทำต่อ “กรุงเทพฯ ต้องไปต่อ” ตนจะเปิดรับความคิดเห็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง บอกได้เลยว่า ทีมผู้บริหารที่ตนได้เป็นผู้ว่าฯ จะมีคนรุ่นใหม่ครึ่งหนึ่ง

ทั้งนี้ หลังจากแถลงเสร็จ พล.ต.อ.อัศวินได้เดินทางไปไหว้พระพุทธนวราชบพิตร พระประจำศาลาว่าการ กทม. และขึ้นรถเดินทางออกกลับทันที โดยกล่าวขอบคุณกองทัพสื่อมวลชนที่มาติดตามทำข่าว พร้อมทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า “ผมมาแน่”

 พล.ต.อ.อัศวินยังโพสต์เฟซบุ๊กระบุถึงการทำงานที่ผ่านมาในตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. ว่า กรุงเทพฯ เปลี่ยนไปแล้ว โดยขอให้การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงที่จะเดินหน้าต่อไป ไม่สะดุดหรือสิ้นสุดลง และหวังว่าจะมีโอกาสช่วยกันทำให้เมืองกรุงเทพฯ เดินหน้าเปลี่ยนแปลงต่อไป “กรุงเทพฯ ต้องไปต่อ”

น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.เขต 2 ปทุมวัน บางรัก สาทร และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า คำสั่งพรรคพลังประชารัฐในการแต่งตั้งศูนย์อำนวยการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พปชร. โดยพรรคมอบหมายให้นายอภิชัย เตชะอุบล เป็นผู้อำนวยการในการเลือกตั้งครั้งนี้ นอกจากนี้ยังได้ตั้ง พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น เป็นรองผู้อำนวยการศูนย์, ดร.ธวัชชัย ปิยะนนทยา เป็นโฆษกศูนย์, ดร.บุณณดา สุปิยพันธุ์ เป็นรองโฆษกศูนย์

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะรักษาการรองหัวหน้า พปชร. กล่าวว่า พปชร.ส่งผู้สมัคร ส.ก.เกือบทุกเขต ถือเป็นการทำพื้นที่ของสมาชิกพรรคและทีมงานต่างๆ ซึ่งจะมีผลไปถึงการเลือกตั้ง ส.ส. ส่วนผู้สมัคร ส.ก.ของ พปชร.จะสนับสนุนผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.คนไหนนั้น ต้องรอให้หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคพูดคุยกันก่อน ทั้งนี้ การไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ไม่ได้ทำให้ผู้สมัคร ส.ก.ของเราเคว้ง เพราะผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.บางคนก็ไม่ได้ลงสมัครในนามพรรค การเมืองวันนี้เปลี่ยนไปมาก

"อย่าไปยึดรูปแบบในอดีตกระแสของกทม.เป็นกระแสที่เปลี่ยนได้เร็ว ช่วงใกล้ๆเลือกตั้งอาจจะมีประเด็นอะไรทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ อย่าเพิ่งไปคาดเดาอะไรมาก ใจเย็นๆ ส่วนที่มีผู้สมัคร ส.ก.ของ พปชร.หลายคนสนับสนุนนายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.นั้น เป็นสิทธิส่วนตัว เพราะเราไม่ได้ส่งผู้สมัครอยู่แล้ว ใครรักใครชอบใครก็ว่ากันไป พวกใครพวกมัน" นายชัยวุฒิกล่าว

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ดูแล กทม., นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ร่วมเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่มีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรค และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย  เป็น ผอ.ศูนย์ฯ ภายใต้แนวคิด ประชาธิปัตย์ รวมใจเป็นหนึ่งเดียว "All for Democrat" โดยมีผู้สมัคร ส.ก.ทั้ง 50 เขต และอดีต ส.ส.กทม.ร่วมกิจกรรม โดยนายเฉลิมชัยกล่าวว่า เป็นวันที่รอคอย และเป็นวันที่ประชาธิปัตย์จะกลับมารวมใจกันอีกครั้ง เพื่อช่วย ดร.เอ้เป็นผู้ว่าฯ กทม.ให้ได้ ขอร้องและวิงวอนสมาชิกพรรคที่อยู่ทั่วกรุงเทพฯ และอยู่ทั่วประเทศไทย ต้องมารวมใจให้เป็นหนึ่ง ทำให้ผู้สมัครของพรรคเป็นผู้ว่าฯ กทม. เป็น ส.ก.ให้ได้ ตนเชื่อมั่นความเป็นหนึ่งเดียวจะเรียกคืนความเป็นประชาธิปัตย์ใน กทม.กลับคืนมาได้ พร้อมเรียกความเชื่อมั่นศรัทธาของคน กทม.ต่อประชาธิปัตย์กลับมาได้

ด้านนายสุชัชวีร์กล่าวว่า มีความชัดเจนผู้ว่าฯ มาพร้อมกับ ส.ก. ทำ กทม.ให้เป็นเมืองสวัสดิการ ต้นแบบอาเซียน และพวกเราทุกคนชัดเจน กทม.รูปแบบการปกครองท้องถิ่น ผู้ว่าฯ มาเดี่ยวๆ ไม่ได้ แต่ต้องมาพร้อมกับทีม ส.ก. ที่มีอุดมการณ์และมีวิสัยทัศน์ในแนวทางเดียวกัน

​ ที่บริเวณท้องสนามหลวง​ นายวิโรจน์​ ลักขณาอดิศร​ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคก้าวไกล​ แถลงข่าวรณรงค์ให้นำรั้วกั้นบริเวณท้องสนามหลวง​ออก โดยระบุว่า ตนไม่เห็นด้วย ​เพราะการทำรั้วแบบสิ้นคิดแบบนี้คือการทำลายเสน่ห์​ของสนามหลวงให้หมดสิ้น​ ทั้งเสน่ห์คนที่มาเล่นหมากรุก​ เปิดสภากาแฟ​ ​หรือแม้แต่เปิดเวทีไฮด์ปาร์ก จัดกิจกรรมทางการเมือง พูดประเด็นการเมืองและสังคม​ มันหายไปหมด​

ที่ดาดฟ้าชั้น 9 ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย, นางพวงเพ็ชร พวงละเอียด ผู้อำนวยการเลือกตั้ง ส.ก. พรรคเพื่อไทย ร่วมกันเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. 50 เขต และนโยบายที่จะใช้ในการหาเสียง ภายใต้สโลแกน Bangkok Bling (กรุงเทพฯ มั่งคั่ง) ทั้งนี้ พรรคยังจัดงานเปิดตัวนโยบายว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. โดยได้นำเสนอ 5 แนวนโยบายหลัก ได้แก่ 30บาทถึงที่หมาย, 50 เขต 50 โรงพยาบาล, 437 สถานศึกษา พัฒนาสร้างรายได้, กองทุนพัฒนาชุมชน 200,000 บาท, 50 เขต 50 ซอฟต์พาวเวอร์

นพ.ชลน่านกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยส่งผู้สมัครรับการเลือกตั้ง ส.ก.ทั้ง 50 เขต เพราะเห็นความสำคัญในบทบาทของ ส.ก. ในการกำหนดอนาคตของคน กทม. งบประมาณ 1 แสนล้านบาทต่อปี อยู่ที่การอนุมัติของสภา กทม. และยังทำหน้าที่สนับสนุน ตรวจสอบฝ่ายบริหารของ กทม. ทั้งนี้ พรรคได้คัดสรรผู้สมัครจากอดีต ส.ก. 8 คน อดีต ส.ข. 7 คน ซึ่งถือว่ามีประสบการณ์ในการทำงาน ที่เหลือจะเป็นคนรุ่นใหม่ มีวุฒิการศึกษาดีเยี่ยม

ภายหลังเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้ร่วมพูดคุยกับสื่อมวลชนตอนหนึ่งว่า ยืนยันจะลงพื้นที่ช่วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ทุกคน แต่หลังจากนี้ขอเคลียร์ตารางงานก่อน รวมไปถึงการลงพื้นที่ในต่างจังหวัดเพื่อรับสมัครสมาชิกครอบครัวเพื่อไทยด้วย

จากนั้นมีตัวแทนว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ได้นำเสนอนโยบายที่จะใช้ในการหาเสียงบนเวที เมื่อแล้วเสร็จพิธีกรได้สอบถามความคิดเห็นจากแกนนำพรรคที่มาร่วมฟังอยู่ด้านล่างเวที ตอนหนึ่งได้สอบถาม น.ส.แพทองธารว่ารู้สึกอย่างไร หลังได้รับฟังนโยบายของพรรคเพื่อไทย โดย น.ส.แพทองธารกล่าวว่า บรรยากาศงานอบอุ่นมาก ดีใจที่ได้เจอทุกคน เชื่อว่านโยบายของพรรคเพื่อไทยตอบโจทย์คน กทม. โดยเฉพาะค่าโดยสารรถไฟฟ้า 30 บาทถึงที่หมาย ซึ่งจะทำให้ประชาชนเดินทางได้สะดวกสบายขึ้น จะลดรายจ่ายของประชาชนได้อีกทาง และลดการติดขัดของจราจรได้.