ลิซ่า-โบเชลลีมาแน่ พิพัฒน์ลั่นคอนเฟิร์ม100%ค่าตัวรวม100ล้านบาท

"บิ๊กตู่" ส่ง รมว.วธ.มอบของขวัญขอบคุณ​ "รัสเซล โครว์" ช่วยโปรโมตท่องเที่ยวไทย "ลิซ่า-อังเดรอา" คอนเฟิร์มเคาต์ดาวน์ภูเก็ต "พิพัฒน์" เผยค่าตัว 100 ล้าน บวกจัดงานอีก 200 ล้าน ไทยติดเชื้อต่ำหมื่นต่อเนื่อง ดับ 56 ราย ชายแดนใต้ยังวิกฤต! ปัตตานีเจอผู้สมัคร อบต.ติดระนาว คลัสเตอร์คุกเมืองคอนส่อพุ่ง

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่​ 23 ต.ค. เวลา 14.00 น. ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มอบหมายนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ไปพบกับนายรัสเซล โครว์ นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง โดยมีเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยร่วมพูดคุย โอกาสนี้ รมว.วัฒนธรรมได้มอบของขวัญและช่อดอกไม้เพื่อแสดงการต้อนรับและขอบคุณนักแสดงฮอลลีวูด ที่ชื่นชมประเทศไทย คนไทย และโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ รวมทั้งยังเผยแพร่การท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆ ผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย

ขณะที่นายรัสเซล โครว์ ได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่มอบของที่ระลึกให้ พร้อมระบุว่า ชื่นชมเมืองไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะลักษณะนิสัย น้ำใจของคนไทย ที่ทำให้เวลาที่เดินทางไปไหนรู้สึกดีอยู่เสมอ โดยนายรัสเซล โครว์ เดินทางไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ รวมทั้งบางกระเจ้า รู้สึกประทับใจความสวยงามของธรรมชาติในประเทศไทย สำหรับอาหารไทยชื่นชอบ อาทิ แกงเผ็ด ข้าวซอย พะแนง ทั้งนี้ ยังชื่นชมกองถ่ายภาพยนตร์ไทยว่ามีฝีมือและมีคุณภาพ ระหว่างการพูดคุย นายรัสเซล โครว์ ยังได้เสนอข้อคิดเห็นจากการท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆ โดยแนะนำให้เพิ่มป้ายบอกทางภาษาอังกฤษในพื้นที่ต่างๆ ให้มากขึ้น โดยเฉพาะสถานที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้รับความสะดวก รวมทั้งยังสนใจสอบถามรายละเอียดวัฒนธรรมไทย ภาษาไทยที่ยังไม่เข้าใจ อาทิคำว่าขอบคุณมากกับขอบคุณครับ ด้วย

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลส่งเสริมอุตสาหกรรมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย โดยประเทศไทยถือเป็นจุดหมายปลายหนึ่งของคณะถ่ายทำภาพยนตร์จากทั่วโลก ด้วยความได้เปรียบทั้งความสวยงามของสถานที่ ความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานการถ่ายทำ อุปกรณ์ที่ทันสมัย และบุคลากรไทยที่มีความชำนาญ และคุณภาพ รวมทั้งมาตรการสนับสนุนของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม อาจมีการชะลอตัว จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั่วโลก นายกรัฐมนตรีเคยกล่าวถึงเสน่ห์ของประเทศไทย นอกจากความสวยงามของธรรมชาติและความหลากหลายทางวัฒนธรรม คือรอยยิ้ม และความเป็นมิตรของคนไทยที่พร้อมต้อนรับผู้มาเยือนอยู่ทุกเมื่อ
'ลิซ่า'คอนเฟิร์มแล้ว

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงความคืบหน้างานเคาต์ดาวน์ภูเก็ตว่า ลิซ่า BLACKPINK หรือ ลลิษา มโนบาล ศิลปินสาวชาวไทยชื่อดังระดับโลก ยืนยันว่าจะมาร่วมงานเคาต์ดาวน์ 2022 ที่ จ.ภูเก็ต รวมไปถึงอังเดรอา โบเชลลี นักร้องโอเปร่าชื่อดังของโลกชาวอิตาลีที่จะมาร่วมการแสดงบนเวทีด้วย ซึ่งยืนยันมาได้แน่นอนทั้งคู่ 100% เพราะคุยกับเอเยนซีและต้นสังกัดแล้ว แต่อยากให้รอสัปดาห์หน้าชัดๆ อีกรอบ เพราะต้องคุยเรื่องรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้ง เวลาการแสดง รูปแบบงาน สถานที่ และอื่นๆ

ส่วนขั้นตอนต่อไปหลังเซ็นสัญญา จะทำแผนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติรูปแบบงานและงบประมาณ เบื้องต้นงบประมาณที่เป็นค่าตัวทั้งคู่ประมาณ 100 ล้านบาท ส่วนงบที่ใช้จัดงานเบื้องต้นประมาณ 200 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าจะมีเอกชนเป็นสปอนเซอร์ให้จำนวนกี่ราย รวมถึงงบประมาณสนับสนุนด้วย

ด้านนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการที่ตนเองลงพื้นที่พบกับประชาชน ได้เสียงตอบรับอย่างดี ประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนให้เปิดประเทศ เพราะนอกจากจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวแล้ว ยังทำให้พ่อค้าแม่ค้า ร้านค้าต่างๆ สามารถกลับมาขายของ มีรายได้ทำให้เศรษฐกิจกระเตื้อง มีการเงินสะพัดกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน ทั้งนี้ มั่นใจว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานด้านสาธารณสุขได้มีการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันมิให้เกิดระบาดรอบใหม่ขึ้น ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนมั่นใจในตัวนายกฯ และรัฐบาล ในการเดินหน้าเปิดประเทศในครั้งนี้ว่าจะเป็นไปด้วยดี เพราะนายกฯ ได้มีการเตรียมแผนเปิดประเทศเรื่องนี้ไว้ตั้งนานแล้ว

ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9,351 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 9,206 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 8,666 ราย, มาจากการค้นหาเชิงรุก 540 ราย, มาจากเรือนจำ 139 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 6 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,850,482 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 10,098 ราย ทำให้มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,730,727 ราย อยู่ระหว่างรักษา 101,000 ราย อาการหนัก 2,432 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 546 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 56 ราย เป็นชาย 31 ราย หญิง 25 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 32 ราย มีโรคเรื้อรัง 17 ราย พบผู้เสียชีวิตมากสุดอยู่ใน กทม. 5 ราย ขณะที่ภาคใต้มีผู้เสียชีวิตรวมกัน 13 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 18,755 ราย

ส่วนยอดผู้ได้รับวัคซีนของประเทศไทยเมื่อวันที่ 23 ต.ค. มีการฉีดวัคซีนเพิ่มเติม 356,084 โดส รวมยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.ทั้งสิ้น 70,279,624 โดส สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 24 ต.ค. ได้แก่ กทม. 929 ราย, สงขลา 682 ราย, นครศรีธรรมราช 582 ราย, ปัตตานี 511 ราย, ยะลา 487 ราย, เชียงใหม่ 461 ราย, สมุทรปราการ 294 ราย, ชลบุรี 289 ราย, ขอนแก่น 269 ราย, นราธิวาส 265 ราย

ทางด้าน นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน กล่าวถึงกรณีบริษัท ซิลลิคฟาร์มา จำกัด ตัวแทนผู้นำเข้าวัคซีนโมเดอร์นา ได้ออกแถลงการณ์ว่า วัคซีนโมเดอร์นาจำนวน 560,000 โดส จะมาถึงไทยไม่เกิน 5 พ.ย.นี้ ว่าเท่าที่ทราบ คาดว่าจะเข้ามาถึงไทยก่อน 5 พ.ย. แบบทยอยเข้ามา จากนั้นจะกระจายให้กับ รพ.เอกชนรวมถึงสภากาชาดไทยอย่างเท่าเทียม แห่งละ 40% ของจำนวนการสั่งซื้อในแต่ละ รพ. อย่างไรก็ตาม วัคซีนโมเดอร์นาอีก 1.9 ล้านโดส จะมาราวเดือน ธ.ค. รวมกับล็อตนี้จะมีวัคซีนโมเดอร์นา 2 ล้านโดส เชื่อว่าจากจะจบปัญหาดรามาเกี่ยวกับวัคซีน
โควิดใต้ยังวิกฤต!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังน่าเป็นห่วง โดยยังมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง อย่างที่ จ.ปัตตานี พบผู้ป่วยรายใหม่ 619 ราย แต่ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ขณะนี้มีผู้ป่วยยืนยันสะสมแล้ว 33,675 ราย หายป่วยแล้ว 19,929 ราย เสียชีวิต 354 ราย นอกจากนี้ยังพบว่ามีแพทย์ติดเชื้อหลายราย ส่งผลให้แพทย์มีจำนวนไม่เพียงพอ ระบบสาธารณสุขของจังหวัดอยู่ในภาวะวิกฤต

ขณะเดียวกัน ภายหลังการรับสมัครเลือกตั้งนายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ปัตตานี ผู้สมัครได้เดินทางหาเสียงพบปะประชาชนอย่างต่อเนื่อง ปรากฏว่าพบผู้สมัครนายก อบต. และผู้สมัครสมาชิกฯ ได้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะไม่แจ้ง แต่กักตัวที่บ้าน ทำให้สาธารณสุขปัตตานีสั่งการให้มีการกักตัวพร้อมสอบสวนโรคค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเป็นเครือญาติ เพื่อนบ้าน หรือทุกพื้นที่ที่ผู้สมัครเดินหาเสียง รวมทั้งกำชับผู้สมัครทุกคนให้ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เนื่องจากการขัดต่อคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มีผลต่อการรับรองคุณสมบัติผู้สมัคร

เช่นเดียวกันกับ จ.ยะลา พบติดเชื้อเพิ่ม 532 ราย มีผู้เสียชีวิต 5 ราย

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 682 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รวมติดเชื้อสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย.64 นับรวมกับผู้ติดเชื้อในเรือนจำและจากต่างประเทศ 43,534 ราย เสียชีวิตสะสม 179 ราย นอนรักษาในโรงพยาบาล 5,500 ราย สาเหตุที่ยังพบผู้ติดเชื้อสูง มาจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในครอบครัวและการตรวจด้วยชุดตรวจ ATK ด้วยตนเอง ทั้งนี้ กลุ่มติดเชื้อมีแนวโน้มเพิ่มจากคลินิกกลั่นกรองโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจเฉียบพลัน (ARI) นอกจากนั้นมาจากกลุ่มเดิมๆ เช่น กลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน ชุมชน ตลาด ร้านค้า บริษัท และหน่วยงาน กลุ่มติดเชื้อยืนยันจากต่างจังหวัด

นายสุรพล กำพลานนท์วัฒน์ ประธานสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจท่องเที่ยว กรรมการโรคติดต่อ จ.สงขลา กล่าวว่า กลุ่มที่ติดเชื้อส่วนมากมาจากกลุ่มผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ช่วงครึ่งเดือนหลังสงขลาได้รับการจัดสรรวัคซีนเพิ่ม คาดสถานการณ์จะคลี่คลายในต้นเดือน พ.ย. ลดการติดเชื้อ ลดการเสียชีวิตลง เพราะได้มีการกระจายวัคซีนลงสู่หน่วยฉีดวัคซีนโควิดโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ฉีดวัคซีน 50,000 คนต่อวัน มั่นใจจะเปิดด่านชายแดนสะเดาและปาดังเบซาร์ในปลายปี 64

ที่ จ.นครศรีธรรมราช พบผู้ป่วยรายใหม่ 593 ราย (ในจังหวัด 577, รับจากต่างจังหวัด 5, เรือนจำกลาง 11 ) เสียชีวิตเพิ่ม 6 ราย สำหรับคลัสเตอร์เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช จากวันแรกที่พบผู้ติดเชื้อในแดน 6/1 เป็นผู้ต้องขังสูงอายุและอยู่ในกลุ่ม 7 โรคเสี่ยงสูง จำนวน 9 คน จากนั้นก็พบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งผู้ต้องขังในแดนนี้จำนวน 1,100 คน อาจจะมีผู้ติดเชื้อสูงถึง 1,000 คนก็เป็นได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตอกยํ้าดีลฮ่องกง ลิ่วล้อแจงแทนนาย ‘พรรคส้ม’ ยากเป็นรัฐบาล

ตอกย้ำดีลฮ่องกงเหลว! "ณัฐวุฒิ" ขยายความ "ทักษิณ" คุย "ธนาธร" แค่เล่าชะตากรรม ไม่มีการพาดพิง ม.112 กับก้าวไกล เผยตั้งแต่โหวต "พิธา"

‘อิ๊งค์’ โชว์30บ. เวทีผู้นำเอเปก

นายกฯ อิ๊งค์โชว์ผลงาน 30 บาทรักษาทุกที่ บนเวทีผู้นำภาคเอกชนเอเปก พร้อมชวนลงทุนด้านธุรกิจดูแลสุขภาพในไทย มั่นใจหลังให้นโยบาย “บีโอไอ”