ลุ้นแพ็กเกจแก้สินค้าแพง ค่าไฟฟ้าจ่อขึ้นทั้งระบบ

แพงทั้งแผ่นดิน “บิ๊กตู่” เรียกถกทีมเศรษฐกิจ จับตาแพ็กเกจแก้ปัญหาราคาสินค้า คนไทยกระอักกันอีกรอบ "กกพ." จ่อปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่ทั้งระบบ เตรียมรับค่าไฟฟ้าแพงหูฉี่ขึ้นเรื่อยๆ ผลพวงลูกโซ่ต้นทุนก๊าซธรรมชาติ ฝ่ายค้านแนะนำกำไร กฟผ.-กฟน.มาช่วยลดค่าใช้จ่าย ปชช.-งดเก็บภาษีต้นทางชั่วคราว

เมื่อวันจันทร์ เวลา 14.00 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เรียกถกทีมเศรษฐกิจ อาทิ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน นายอาคม  เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน โดยใช้เวลาหารือประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที  คาดว่าเป็นการหารือถึงสถานการณ์ด้านพลังงาน สินค้าราคาแพง และความก้าวหน้าความร่วมมือระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย

ทั้งนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 22  มี.ค. กระทรวงการคลังจะเสนอแพ็กเกจร่วมกันกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ต่อที่ประชุม เพื่อแก้ไขปัญหาราคาสินค้า รวมทั้งพิจารณาลดภาษีนำเข้าแม่ปุ๋ยเคมี ที่นำมาผสมเป็นสูตรใช้ในประเทศ  เพื่อให้ต้นทุนในการซื้อปุ๋ยของเกษตรกรลดลง ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จะดูเรื่องโควตาการนำเข้าวัตถุดิบทางการเกษตร

วันเดียวกัน นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก เปิดเผยว่า กกพ.กำลังทำโครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่ทั้งระบบ ซึ่งอาจจะมีการปรับค่าไฟฟ้าฐานจากปัจจุบันอยู่ที่ 3.76 บาท/หน่วย เนื่องจากเป็นรอบที่ต้องมีการปรับประจำอยู่แล้ว 3-5 ปีต่อครั้ง และค่าไฟฟ้าฐานปัจจุบันใช้มาตั้งแต่ปี 2558 เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้พลังงานมากขึ้นจึงต้องมีการพิจารณาใหม่ ซึ่งคาดว่าภายในเดือนหน้าจะมีการประกาศออกมาเพื่อรับฟังความคิดเห็น และจะสามารถกำหนดใช้ได้ภายในกลางปี 2565

"ค่าไฟฟ้าฐานมีแนวโน้มสูงขึ้น จากการปรับในหลายครั้งก็มีการขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อสะท้อนโครงสร้างพื้นฐานในการผลิตไฟ รวมถึงการใช้เชื้อเพลิง แต่ครั้งล่าสุดนี้ยอมรับว่าอาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้ไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรม หรือมีมิเตอร์ไฟสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ากิจการขนาดใหญ่ หรือ TOU เนื่องจากจะมีการเกลี่ยอัตราเรียกเก็บไฟฟ้าในช่วงความต้องการใช้ไฟสูง (พีก) และนอกช่วงเวลาดังกล่าว (ออฟ-พีก) ใหม่ ให้สะท้อนการใช้งานจริง แต่ยืนยันว่าสำหรับผู้ใช้ไฟบ้านจะไม่ได้รับผลกระทบกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแน่นอน" นายคมกฤชกล่าว

นายคมกฤชกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ กกพ.ยังได้มีการติดตามราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) เนื่องจากปัจจุบันราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในตลาดจร (สปอต) ซึ่งอาจจะกระทบมายังราคาค่าไฟแน่นอน เนื่องจากต้องยอมรับว่าประเทศไทยเปิดการนำเข้าแอลเอ็นจีเสรีช้าเกินไป ปัจจุบันจึงมีสัญญาระยะยาวน้อย รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานในการกักเก็บ อาทิคลังก็มีไม่เพียงพอ  ปัจจุบันจึงต้องใช้แหล่งสปอตเข้ามาช่วย ซึ่งถ้าเปิดเสรีตั้งแต่ปี 2562 เชื่อว่าปัจจุบันก็จะมีราคาก๊าซที่ลงตัว  ขณะที่ปัจจุบันนั้นหลายเจ้าที่ได้สิทธิ์นำเข้าเสรี (ชิปเปอร์) ก็ยังกังวลต่อราคาอยู่

 “ล่าสุด บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) จะเร่งนำเข้าแอลเอ็นจีมานั้น กกพ.ก็ต้องการให้เอกชนทุกค่ายที่ได้รับสิทธิ์รีบนำเข้ามาโดยเร็ว แม้ว่าจะนำไปใช้กับโครงการของตัวเองก็ตาม แต่ก็เป็นการลดภาระของระบบที่จะไม่ต้องใช้จากที่นำเข้าของส่วนกลางซึ่งเป็นที่ต้องการของอีกหลายเจ้า หากเอกชนสามารถนำเข้ามาเองได้ ส่วนกลางก็ไม่จำเป็นต้องดูแล และอาจจะทำให้ราคาต้นทุนพลังงานจากส่วนกลางนั้นถูกลงด้วย ซึ่งถือว่าเป็นผลลัพธ์ทางอ้อม" นายคมกฤชกล่าว

นายคมกฤชระบุด้วยว่า แนวโน้มค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ในช่วงต่อไปคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน สะท้อนการใช้ต้นทุนก๊าซธรรมชาติมาผลิตไฟจากเริ่มต้นที่ 8% ในช่วงปี 54 จนถึงปี 64 ที่เพิ่มขึ้นเป็น  33% และปัจจุบันเพิ่มขึ้นมากกว่า 40% แล้ว จึงทำให้แนวโน้มค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่จะต้องตรึงหรือลดค่าเอฟทีนั้น จำเป็นต้องจะมีคนเข้ามาแบกรับต้นทุนตรงนี้  แต่ขณะที่รัฐโดยกระทรวงพลังงานได้เปลี่ยนโครงสร้างการผลิตไฟไปที่การรับซื้อจากโครงการพลังงานของ สปป.ลาว เพิ่มขึ้น ก็มองว่าเป็นผลดีเนื่องจากเป็นการผลิตไฟที่ต้นทุนราคาคงที่

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ให้คำแนะนำเพียงให้เปิดแอร์ที่ 27 องศาฯ ควบคู่เปิดพัดลม และไม่ใช้เตารีด ไดร์เป่าผมในห้องที่เปิดแอร์ และหมั่นล้างแอร์  รวมถึงใช้รถเท่าที่จำเป็น ก่อนหน้านี้แม้จะเป็นเรื่องดี แต่เป็นเรื่องที่เก่ามาก และจะไม่สามารถช่วยประชาชนให้มีชีวิตรอดจากภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ในภาวะเช่นนี้ได้ 

 “ขอเสนอว่าราคาไฟฟ้าเจรจาขอลดค่าความพร้อม  สำหรับโรงไฟฟ้าที่สร้างเสร็จแต่ไม่ได้ผลิตไฟฟ้าเพราะกำลังการผลิตล้นเกิน ซึ่งปัจจุบันมีกำลังการผลิตเกินกว่า  40% โดยขอให้เก็บค่าความพร้อมลดลง ค่าไฟจะได้ลดลง และหยุดการให้ใบอนุญาตไฟฟ้าจนกว่าการใช้ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้น เพราะทุกวันนี้ยังให้ใบอนุญาตผลิตไฟฟ้ากันอยู่เลย ทั้งที่การผลิตไฟฟ้าล้นเกินมาก ลดส่วนต่างของไฟฟ้าที่ซื้อจากโรงไฟฟ้าของเอกชนในราคาถูก แต่ กฟผ.นำมาขายให้ประชาชนในราคาที่แพงเพื่อลดราคาไฟฟ้านี้ ทั้งนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ (กฟผ.) มีกำไรสะสมประมาณสามแสนล้านบาท การไฟฟ้านครหลวงมีกำไรสะสมประมาณ แสนล้านบาท ทั้งสองแห่งเป็นหน่วยงานของรัฐ ซึ่งน่าจะนำมาช่วยลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในช่วงลำบากนี้ การเจรจาหาแหล่งก๊าซราคาถูกเพื่อลดราคาไฟฟ้า เพราะประเทศไทยใช้ก๊าซในการผลิตไฟฟ้าถึงประมาณ 70%  เรื่องเหล่านี้พลเอกประยุทธ์สามารถทำได้ทันทีและจะช่วยประชาชนได้ ดีกว่าจะมาบอกแต่เรื่องเก่าๆ ที่ประชาชนทราบอยู่แล้วและไม่ได้ช่วยอะไร" นายพิชัยระบุ

ด้านนายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ผู้อำนวยการกองการสื่อสาร พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยขอเสนอให้รัฐบาลออกมาตรการงดการเก็บภาษีต้นทางชั่วคราว เพื่อลดต้นทุนและต่อลมหายใจประชาชน เมื่อยืนได้แล้วรัฐค่อยเก็บภาษีปลายทางในภายหลัง มิเช่นนั้น ประเทศไทยจะต้องเจอกับสภาวะข้าวของแพงแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่มีทางที่จะกลับไปแก้ปัญหาที่ต้นทางได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พ่อนายกฯขู่เช็กบิล! พรรคร่วมโดดประชุมครม.-นักร้อง/ขอพระเจ้าอยู่ต่ออีก17ปี

"เพื่อไทย" คึก! 3 นายกฯ ร่วมทีมขึ้นรถไฟสัมมนาพรรคที่หัวหิน "นายกฯ อิ๊งค์" ขอ  สส.ไม่แบ่งขั้ว-อายุ ยอมรับ 3 เดือนโฟกัสงานรัฐบาล

หัวลำโพงคึกคัก! 'อิ๊งค์' นำทีม พท. สัมมนาหัวหิน ตื่นเต้นขึ้นรถไฟรอบ 20 ปี

’แพทองธาร‘ นำทีม ’เพื่อไทย’ ขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ มุ่งหน้าสัมมนาหัวหิน ‘เศรษฐา-โอ๊ค-เอม’ ร่วมด้วย ตื่นเต้นนั่งรถไฟรอบ 20 ปี