‘รัสเซีย’ยิง‘มิสไซล์ไฮเปอร์โซนิก’

กองทัพรัสเซียใช้มิสไซล์ไฮเปอร์โซนิกโจมตีในยูเครนเป็นครั้งแรกเพื่อทำลายคลังแสงใต้ดินในภาคตะวันตก ทหารรัสเซียและกองกำลังกบฏบุกเข้าในเมืองมาริอูโปลได้แล้ว "เซเลนสกี" เรียกร้องรัสเซียเจรจาสันติภาพยุติการรุกรานยูเครน ชี้ความสูญเสียของรัสเซียจะต้องใช้เวลาหลายชั่วรุ่นในการฟื้นฟู

สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานเมื่อวันเสาร์ที่ 19 มีนาคม 2565 ว่ากระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงในวันเดียวกันว่า กองทัพรัสเซียใช้มิสไซล์ไฮเปอร์โซนิก "คินซาห์ล" ในยูเครนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อทำลายคลังอาวุธใต้ดินขนาดใหญ่ที่ใช้เก็บมิสไซล์และกระสุนอากาศยานในหมู่บ้านดีเลียติน แคว้นอีวาโน-ฟรานคิฟส์ ทางภาคตะวันตกของยูเครนซึ่งมีพรมแดนติดกับโรมาเนีย

คำแถลงนี้เป็นการยอมรับครั้งแรกว่ามีการใช้อาวุธไฮเปอร์โซนิกใหม่ล่าสุดของรัสเซียในความขัดแย้งกับยูเครน ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เคยเรียกมิสไซล์ชนิดนี้ว่าเป็น "อาวุธในอุดมคติ" ซึ่งสามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเหนือเสียง 10 เท่า และสามารถเอาชนะระบบป้องกันภัยทางอากาศได้

หลายวันมานี้รัสเซียใช้การโจมตีทางอากาศหนักหน่วงขึ้น โดยขยายสมรภูมิสู่ภาคตะวันตก หลังจากการรุกโจมตีภาคพื้นดินในภาคเหนือและตะวันออกส่วนใหญ่ไม่คืบหน้า เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐรายหนึ่งกล่าวว่า ทหารรัสเซียยังอยู่ห่างจากกรุงเคียฟทางตะวันออก 30 กม. โดยกำลังเผชิญการต่อต้านอย่างดุเดือด ส่วนที่เมืองคาร์คิฟในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ทหารรัสเซียโอบล้อมเมืองอยู่ การรุกก็ไม่คืบหน้าเช่นกัน และที่เมืองเชอร์นิฮิฟในภาคเหนือ ชาวยูเครนกำลังปกป้องเมืองอย่างแข็งขัน

อย่างไรก็ดี เมื่อวันศุกร์ กระทรวงกลาโหมรัสเซียคุยว่า กองทัพรัสเซียและกองกำลังกบฏแบ่งแยกดินแดนแคว้นโดเนตสค์ที่เป็นพันธมิตร สามารถบุกทะลวงเข้าไปภายในเมืองท่ามาริอูโปลได้แล้ว หลังจากถล่มทางอากาศนานหลายวันติดต่อกัน และตอนนี้กำลังโอบล้อมและต่อสู้กับกองกำลังชาตินิยมยูเครนในเมือง ขณะที่นายกเทศมนตรีมาริอูโปลยืนยันกับบีบีซีว่ามีการยิงปะทะกันที่ใจกลางเมืองนี้

ข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซียอ้างคำแถลงของกระทรวงกลาโหมด้วยว่า มิสไซล์ของรัสเซียยังได้ทำลายศูนย์สอดแนมและวิทยุทหารของยูเครนด้านนอกเมืองท่าโอเดสซา นอกจากนี้ สื่อของยูเครนรายงานว่า รัสเซียถล่มทางอากาศครั้งใหญ่ถล่มศูนย์บัญชาการกองพลน้อยที่เมืองไมโคลาอิฟในภาคใต้เมื่อวันศุกร์ ฆ่าทหารยูเครนไม่ต่ำกว่า 40 นาย

อีกด้านหนึ่ง กู้ภัยยังพยายามค้นหาผู้รอดชีวิตจากใต้ซากปรักหักพังของโรงละครมาริอูโปลที่โดนระเบิดถล่มเมื่อวันพุธ ยูเครนกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือโจมตีของรัสเซีย แต่รัสเซียโทษว่ากองกำลังชาตินิยมขวาจัดของยูเครนวางระเบิดกันเอง สภาเมืองนี้เคยระบุว่าโรงละครแห่งนี้มีพลเรือนหลบภัยอยู่มากกว่า 1,000 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก เจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวว่า หลุมหลบภัยใต้ดินของโรงละครไม่ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด แต่ยังไม่แน่ชัดว่ามีคนอยู่ภายในเท่าใด

ในคำแถลงชี้แจงเมื่อวันศุกร์ สภาเมืองมาริอูโปลเปิดเผยยอดผู้บาดเจ็บล้มตายเป็นครั้งแรกว่า มีคนบาดเจ็บสาหัส 1 คนจากระเบิดครั้งนี้ แต่ไม่มีคนเสียชีวิต

ก่อนหน้านั้น ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี กล่าวว่า มีคนได้รับการช่วยชีวิตออกมาได้ 13 คน บางคนบาดเจ็บหนัก

ผู้นำยูเครนสื่อสารผ่านวิดีโอที่เผยแพร่ทางเฟซบุ๊กเมื่อเช้าวันเสาร์ กล่าวถึงความสูญเสียของรัสเซียว่า ตอนนี้ถึงเวลามาพบปะเจรจากันแล้ว "ถึงเวลาแล้วที่จะฟื้นฟูบูรณภาพเหนือดินแดนและความยุติธรรมของยูเครน มิเช่นนั้น ความสูญเสียของรัสเซียจะมากมายถึงขั้นที่คุณต้องใช้เวลาหลายชั่วอายุคนในการฟื้นฟู"

รัสเซียยอมรับเมื่อวันที่ 2 มีนาคมว่า มีทหารรัสเซียเสียชีวิตแล้วเกือบ 500 นาย แต่ยูเครนให้ตัวเลขเกินกว่านั้นหลายสิบเท่าโดยบอกว่ารัสเซียสูญเสียทหารแล้วนับหมื่นนาย เมื่อวันเสาร์ ยูเครนยังอ้างด้วยว่า นายพลรัสเซียคนหนึ่งเสียชีวิตในเหตุการณ์โจมตีสนามบินนอกเมืองเคอร์ซอนทางเหนือของไครเมีย เขาเป็นนายพลรัสเซียคนที่ 5 ที่เสียชีวิตนับตั้งแต่รัสเซียเริ่มรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์

ตัวแทนเจรจาของยูเครนและรัสเซียพูดคุยกันหลายรอบในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีรายงานว่ามีความคืบหน้าบางอย่างเกี่ยวกับสูตรทางการเมืองที่จะรับประกันความมั่นคงของยูเครน โดยไม่ให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกองค์การนาโต ผู้แทนเจรจาของรัสเซียเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ทั้งสองฝ่ายแสดงจุดยืนที่ใกล้เคียงความเป็นไปได้มากที่สุดของฝ่ายตนต่อข้อเสนอที่จะทำให้ยูเครนกลายเป็น "รัฐเป็นกลาง" ทว่า ยูเครนยังคงยืนกรานเงื่อนไขให้รัสเซียหยุดยิงทันทีและถอนทหาร ทำให้การพูดคุยยังไม่ข้อสรุปเช่นเดิม

ประธานาธิบดีปูตินยังคงแสดงความมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จใน "ปฏิบัติการทางทหาร" ครั้งนี้ เขาให้คำมั่นกับผู้สนับสนุนหลายหมื่นคนภายในสนามฟุตบอลที่กรุงมอสโกเมื่อวันศุกร์ว่า รัสเซียทำสำเร็จตามแผนทั้งหมดอย่างแน่นอน

รัฐบาลสหรัฐมีความกังวลว่ารัสเซียอาจหันไปขอความช่วยเหลือทางทหารและการเงินจากจีน เมื่อคืนวันศุกร์ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้สนทนาผ่านระบบวิดีโอทางไกลกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน นานเกือบ 2 ชั่วโมง เพื่อกดดันจีนไม่ให้ช่วยเหลือรัสเซีย ทำเนียบขาวเผยว่า ไบเดนเตือนสีว่าจีนจะเผชิญกับผลที่ตามมาหากส่งมอบอาวุธยุทโธปกรณ์ให้รัสเซียใช้ในยูเครน และการคว่ำบาตรจีนเป็นทางเลือกหนึ่ง

ทั้งจีนและรัสเซียต่างปฏิเสธว่า จีนไม่ได้พิจารณาให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่รัสเซีย จีนย้ำว่าจีนต้องการเห็นความขัดแย้งนี้ยุติลง.