‘ธรรมนัส’ขู่‘รมต.’ ซักฟอกอาจไม่รอด

“บิ๊กตู่” บอกดินเนอร์พรรคเล็ก มาเจอแบบสุภาพบุรุษ ตามคาด “บิ๊กน้อย” นั่งหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย  ลั่นจุดยืนอยู่ข้างประชาชน หวังกวาด ส.ส. 100 ที่นั่ง “ธรรมนัส” ไม่ไปหากรัฐบาลเชิญกินข้าว พร้อมขู่ รมต.บางคน ซักฟอกระวังจะไม่รอด

เมื่อวันที่ 18 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงบรรยากาศการร่วมรับประทานอาหารค่ำกับพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเล็ก เมื่อค่ำวันที่ 17 มี.ค.ที่สโมสรราชพฤกษ์ว่า ไม่เห็นว่าจะมีอะไร เป็นการพบปะพูดคุยกันธรรมดา และไม่ได้เป็นการไปพูดเรื่องการเมืองกัน ไปพูดกันว่าเขามีข้อเสนออะไรบ้าง เกี่ยวกับโครงการที่จะดูแลช่วยเหลือประชาชนในฐานะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และในฐานะรัฐบาลก็รับฟังมา

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า หลายเรื่องอยู่ในแนวทางที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ ถือโอกาสได้เล่าให้พวกเขาได้ฟังว่าตรงนี้ทำแล้ว หรืออะไรที่ติดขัดอยู่ ส่วนตัวแทนพรรคเล็กก็มีข้อแนะนำ ซึ่งเป็นประโยชน์ ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล เราให้เกียรติซึ่งกันและกัน แค่นั้นเอง ไม่ใช่ประเด็นอะไรทั้งสิ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีสัญญาใจในอนาคตกันหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธว่า ไม่ต้องมีสัญญาอะไรหรอก มากินข้าวคือมากินข้าว แล้วการมาครั้งนี้คือมาเจอกันแบบสุภาพบุรุษ เข้าใจหรือไม่ ถ้าเป็นนักการเมืองต้องเป็นนักการเมือง เพราะทุกคนคาดหวังให้มีการปฏิรูปทางการเมือง ฉะนั้นการปฏิรูปทางการเมืองต้องปฏิรูปที่ตัวเราก่อนใช่หรือไม่ ระบบคือระบบ ไปว่ากันตรงโน้น แต่ตัว ส.ส.ทุกคน ต้องมุ่งหวังทำงานเพื่อประชาชน

เมื่อถามว่า ไม่ต้องห่วงเรื่องการหักหลังกันอีกใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ร้องว่า “โอ๊ะ” ก่อนเดินออกจากโพเดียมทันที โดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า พรรคเศรษฐกิจไทย (ศ.ท.) มีหัวหน้าพรรคอย่างเป็นทางการแล้ว การนัดรับประทานอาหารครั้งต่อไปจะเชิญมาร่วมวงด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถามดังกล่าวและเดินขึ้นห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้าทันที

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงเรื่องนี้เพียงสั้นๆ ว่า อาหารอร่อยดีๆ

วันเดียวกัน มีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการเตรียมพร้อมเลือกตั้งของบรรดาพรรคการเมืองต่างๆ โดยเฉพาะพรรค ศ.ท. โดยในช่วงสายมีการจัดประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคเศรษฐกิจไทย ที่ศูนย์ประชุมยูทาวเวอร์ ถ.ศรีนครินทร์ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก นอกจากแกนนำพรรค ส.ส. นำโดย พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ยังมีอดีต ส.ส.มาร่วมด้วย อาทิ นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย, นายไพร พัฒโน อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.), นายปีเตอร์ ไมอ๊อกชิ นักแสดง

ขณะเดียวกัน นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. และนายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทรักธรรม ยังได้เดินทางมาแสดงความยินดีกับ พล.อ.วิชญ์ด้วย

โดย พล.อ.วิชญ์กล่าวว่า ตัดสินใจไม่นาน เพราะเป็นคนง่ายๆ และเมื่อเวลาตัดสินใจทำอะไรจะเป็นคนที่จริงจัง รวมทั้งทุกอย่างเป็นเรื่องของโชคชะตาในชีวิตของเรา เมื่อถึงเวลาจะต้องทำให้ได้ เขาบอกให้มาทำ ก็ต้องมาทำ

เมื่อถามว่า ในเมื่อรัก พล.อ.ประวิตร ทำไมถึงแยกตัวออกมาจาก พปชร. พล.อ.วิชญ์ยืนยันว่า "ผมก็รักกันอยู่ ไม่มีอะไร ผมอยู่กับพี่ป้อมมาเป็นสิบปี ไม่เป็นไรหรอก เขาคือพี่ชายผมแท้ๆ”

ซักว่า ศ.ท.จะทำงานร่วมกับ พล.อ.ประวิตรตลอดไปหรือไม่ พล.อ.วิชญ์ ตอบว่า แน่นอนอยู่แล้ว และมั่นใจว่าจะดูแล ร.อ.ธรรมนัสได้ไม่มีปัญหา

 จากนั้นที่ประชุมใหญ่วิสามัญ ศ.ท. ได้มีมติเลือก พล.อ.วิชญ์ เป็นหัวหน้าพรรค ร.อ.ธรรมนัส เป็นเลขาธิการพรรค,  นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ เป็นนายพรรคเบียน และ น.ส.ธนพร ศรีวิราช ภรรยา ร.อ.ธรรมนัส เป็นเหรัญญิก และกรรมการบริหารพรรค 18 คน

จากนั้น พล.อ.วิชญ์แถลงภายหลังการประชุมว่า รู้ว่าสื่อจะถามอะไร ถามว่าเราอยู่ฝ่ายไหน ขอตอบว่าพรรคมีความชัดเจนอยู่ข้างประชาชน ถ้าประชาชนได้ประโยชน์เราสนับสนุน หรือถ้าทำอะไรไม่ได้ประโยชน์ ดึงไปเป็นพรรคพวก เราไม่เอา และถ้าวันหน้าเรามีจุดยืนที่ดีกว่านี้ เราเข้าไปบริหารหรือจัดการอะไรขอบอกว่าเราทำจริงทุกอย่าง

เมื่อถามว่า อยู่ข้างประชาชนหมายถึงอยู่ฝ่ายรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.วิชญ์ กล่าวทันทีว่า "ถ้ารัฐบาลทำดี เราก็อยู่ ถ้าไม่ดี เราจะอยู่ทำไม หมายถึงทุกรัฐบาลนะ ถ้าทำดีผมและพรรคสนับสนุนแน่นอนไม่ต้องห่วง ขอตอบตรงๆ แค่นี้"

เมื่อถามอีกว่า การตั้งเป้า ส.ส.ไว้ที่ 100 เสียง จะดำเนินการอย่างไร รวมถึงกระแสข่าว พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. จะมาเป็นที่ปรึกษาพรรคจริงหรือไม่ หัวหน้าพรรค ศ.ท. ตอบว่า พล.อ.พัชรวาทไม่มาอยู่พรรคแน่นอน ส่วนเรื่องจำนวน ส.ส.ที่จะได้ 100 เสียง เพราะความเป็นอันหนึ่ง อันเดียวของพรรค และคิดว่าการประชุมได้เห็นทิศทางของพรรคแล้ว น่าจะได้ส.ส.เกิน 100 คน ซึ่งไม่ใช่การทะเยอทะยาน เพราะคนที่ยืนอยู่กับตน ตรงนี้เชื่อว่าสามารถทำได้

เมื่อถามถึงการร่วมงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลในครั้งหน้า พรรคจะเข้าร่วมหรือไม่ หัวหน้าพรรค ศ.ท.ตอบว่า "ผมกินข้าวไม่ค่อยได้ตอนเย็น ตอนเย็นผมไม่ได้ทานข้าว ตอนนี้พุงยื่นแล้ว ชัดมั้ย ส่วนจะไปหรือไม่ได้ไป ผมไม่ได้พูด ผมแค่บอกว่าทานข้าวเย็นไม่ได้"

ส่วน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวถึงกรณี พล.อ.วิชญ์ระบุว่าจะได้ ส.ส.เกิน 100 คนว่า เพราะเราทำการบ้านมาตลอด ไม่ได้มีเวลามาใส่ใจเรื่องรัฐบาล เราใส่ใจว่าเราจะทำอะไร อย่างสถานการณ์โควิด-19 ที่ไม่รู้จะจบเมื่อไหร่ เราจะทำอย่างไรให้ประชาชนอยู่รอด

ร.อ.ธรรมนัสยังกล่าวถึงกรณีหากถูกเชิญไปร่วมงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลว่า ต้องถามหัวหน้าพรรคก่อน แต่ตนไม่ไป

ซักว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องได้เจอ พล.อ.ประยุทธ์บ้างหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า เจอมาหลายครั้งแล้ว แต่ตนไม่ค่อยมีเวลาอยู่กรุงเทพฯ เพราะลงพื้นที่ต่างจังหวัดตลอด

เมื่อถามย้ำว่า มีคนจับตาความสัมพันธ์ระหว่าง ร.อ.ธรรมนัสกับนายกฯ ยังดีอยู่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า เพราะเป็นแบบนี้ บ้านเมืองเลยยังอยู่อย่างนี้ ขณะที่ประชาชนเดือดร้อนทั้งแผ่นดิน จะมาจับตาว่าใครรักใคร มันไม่ใช่ มันไม่ใช่ว่าใครจะมารักใครตอนนี้ แต่เรื่องประชาชนเดือดร้อนสำคัญกว่า

เมื่อถามว่า ในการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ ศ.ท.ระบุจะอยู่ข้างประชาชนเหมือนเป็นการแทงกั๊กหรือไม่ เลขาธิการพรรค ศ.ท.อธิบายว่า ไม่ได้เป็นการแทงกั๊ก ตนมีความชัดเจนว่า รัฐมนตรีคนใดที่ทำให้เกิดความเสียหายกับบ้านเมือง เราไม่โหวตให้แน่นอน ไม่มีการกั๊ก

เมื่อถามอีกว่า ดูเหมือนว่าเสียงของพรรคจะมีเยอะ จนทำให้รัฐมนตรีหวั่นหรือไม่ เลขาธิการพรรค ศ.ท.ระบุว่า “คุณทำดีหรือยังล่ะ หลายคนมอง ศ.ท.เป็นอากาศ มนุษย์เราวันหนึ่งขาดอากาศจะตายทันทีนะ มีใครอยู่ได้บ้างหากขาดอากาศ" ต่อข้อถามว่าใครที่เห็นว่าพรรคเป็นอากาศ เลขาธิการพรรค ศ.ท.ขู่ว่า “ไม่ทราบ แต่ขอให้ระวังจะไม่รอด” ซักต่อว่าใครที่ปรามาสแบบนี้ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ขอขอบคุณที่ให้ความสำคัญกับตนมาก อย่างพืช สัตว์ ขาดอากาศก็ตาย สื่อว่าชัดเจนไหมครับแบบนี้

ถามว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า ศ.ท.ตั้งเป้าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสยอมรับว่า เราต้องเป็นรัฐบาลสิ ทำไมต้องเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ทำไมเราไม่เป็นพรรคหลักล่ะ

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของพรรครวมไทยสร้างชาติ ล่าสุด นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค พปชร. ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวจะลาออกจากพรรค พปชร. ภายในสัปดาห์นี้ว่า ไม่มี เอาข่าวมาจากไหน ตนยังอยู่พรรค พปชร. ส่วนที่มีข่าวว่าจะไปร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น ยืนยันว่าไม่มี แล้วถ้าถึงเวลามีอะไรสื่อก็รู้เอง แต่ตอนนี้ไม่มี

นายธีระชัย แสนแก้ว สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของพรรครวมไทยสร้างชาติว่า ขอให้สังเกตดูตัวดูชื่อนักการเมืองที่เปิดตัวเข้าร่วมพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ละคนจะเห็นชัดเจนว่าเป็นไปตามที่ได้พูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่าเป็นแค่เหล้าเก่าในขวดใหม่ ไม่มีอะไรน่าสนใจหรือเป็นความหวังให้พี่น้องประชาชน

เมื่อวันศุกร์ นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรค ปชป.ภาคเหนือ เปิดเผยว่า ปชป.มีความพร้อมในการเตรียมผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ภาคเหนือทุกเขตเลือกตั้ง ส่วนหนึ่งคืออดีต ส.ส.เดิมของพรรค ที่ทุกคนได้ยืนยันว่าจะยังอยู่กับ ปชป. โดยยังเชื่อมั่นในจุดยืนและอุดมการณ์ของพรรค

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส. และรองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงกระแสข่าว ปชป.จัดสัมมนา ส.ส.และกรรมการบริหารพรรครองรับการยุบสภาว่า ไม่ได้จัดสัมมนาเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการยุบสภาแต่อย่างใด และขณะนี้ไม่มีใครบอกได้ว่าจะยุบสภาเมื่อไหร่ เป็นเรื่องของการปั่นกระแสยุบสภาเพื่อหวังผลทางการเมืองของบางฝ่าย หรือเป็นการคาดการณ์มากกว่า คนที่จะยุบสภาได้ มีคนเดียวคือนายกฯ ซึ่งออกมายืนยันแล้วว่ายังไม่มีความคิดเรื่องยุบสภา

น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทยที่กำลังจะจัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาติ มณฑาทิพย์ ฮอลล์ อ.เมืองฯ  จ.อุดรธานี ในวันที่ 20 มี.ค.ว่า ขณะนี้กรรมการบริหาร แกนนำพรรค ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ของพรรค รวมทั้งแฟนคลับพรรค พร้อมใจกันเปลี่ยนกรอบรูปโปรไฟล์งานครอบครัวเพื่อไทย : บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม ในโซเชียลมีเดียกันอย่างคึกคัก นำโดยหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม เพื่อตอกย้ำให้เห็นถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน.