ดินเนอร์‘พรรคเล็ก’คึกคัก

“อนุทิน” ชี้เพื่อความสง่างาม เจ้าภาพเอเปกควรเป็นรัฐบาลอำนาจเต็ม บอกอยากให้อยู่ครบวาระ แต่ยุบเมื่อไหร่ก็ไม่กังวล “ดินเนอร์พรรคเล็ก” คึกคัก “บิ๊กตู่” ควง “ลุงป้อม-อนุพงษ์” คุยใกล้ชิด ไร้เงา “เศรษฐกิจไทย” ของกลุ่มธรรมนัส “ชัชวาลล์” ขอนายกฯ แก้ปัญหาปากท้องชาวบ้าน "เสี่ยโต” พาลูกชายเปิดตัวสมาชิก พปชร. แอ่นอกรับงานคุมท้องถิ่น ปัดตอบนายทุนพรรคคนใหม่ “ปชป.”เลือดไหลไม่หยุด “ไพร พัฒโน” ไขก๊อกอีกราย “ราเมศ” ย้ำไม่กังวล มั่นใจความเป็นสถาบันทางการเมือง

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 17 มี.ค. ตั้งแต่ช่วงเช้า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม นัดพรรคเล็กร่วมรับประทานอาหารค่ำวันที่ 17 มี.ค. ที่สโมสรราชพฤกษ์ ว่าจะไปร่วม โดยจะเป็นผู้ฟังและให้กำลังใจ ทำอย่างไรให้รัฐบาลทำงานได้ มีความมั่นคง เพราะมีปัญหาอีกหลายอย่างที่ต้องแก้ ปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาที่แก้ไม่ได้ และขอให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ ส่วนที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุช่วงเวลาหลังเอเปกเหมาะสมยุบสภานั้น คนที่ยุบสภาได้คือนายกรัฐมนตรี ซึ่งส่วนตัวยังทำงานอย่างเต็มที่ วันนี้สภายังมีรัฐบาลยังบริหารอยู่ก็ต้องทำงาน

ถามถึงการเป็นเจ้าภาพประชุมเอเปกควรเป็นรัฐบาลเต็มรูปแบบ ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เห็นด้วย เมื่อเราไปเจรจาความกับใครหรือไปประชุมที่ไหน หากส่งมือสองมือสามมาเราชอบหรือไม่ ถ้าเราไม่ชอบความรู้สึกก็เหมือนกัน ซึ่งถือเป็นหน้าตาของประเทศ และความเชื่อมั่นของประชาคมโลกที่มีต่อประเทศไทยและเป็นสิ่งที่เราควรเสริมสร้างความเข้มแข็ง หากประเทศไทยทำได้ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่มีความขัดแย้งมีสงคราม อีกทั้งประเทศเหล่านั้นที่เป็นสมาชิกเอเปก หากทำให้ผู้นำประเทศเหล่านั้นมาประชุมได้ ก็ไม่มีอะไรเสียหาย จึงเป็นเรื่องที่ดี ตนคิดว่านายกฯ ตั้งใจทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้น และถ้าเราทำสำเร็จได้ ก็จะเป็นผลดีของทั้งโลก

 “รัฐบาลควรอยู่ครบวาระก็ดี แสดงให้เห็นถึงความมั่นคงของระบบการเมือง ความมั่นคงของการทำงานพรรคร่วมรัฐบาล แต่มาถามในปีที่ 3 มันก็เหมือนกัน เพราะเมื่อหลังปีที่ 3 ทุกอย่างก็ต้องพร้อม แต่เราทำงานทุกวันให้ดีที่สุด จะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะยุบเมื่อไหร่” นายอนุทินกล่าว

ส่วนนายสุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ ยืนยันได้ประกาศตั้งแต่แรกแล้วจะไม่ได้เดินทางไปร่วมรับประทานอาหารด้วย รวมถึงตอนนี้อยู่ระหว่างลงพื้นที่ จ.เลย เพื่อนำข้าวที่ได้รับมอบจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มามอบให้กับประชาชน เพราะการเอาข้าวไปแจกให้ประชาชนมีประโยชน์มากกว่าไปร่วมรับประทานอาหาร เนื่องจากเราเป็นผู้แทนของประชาชน และมีชาวบ้านโทรศัพท์มาบอกให้ตนลงพื้นที่ ส่วนพรรคอื่นจะไปร่วมรับประทานอาหารหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ ไม่ได้พูดคุยกัน และถือเป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรคตัดสินใจว่าจะไปหรือไม่ไป

ต่อมาที่สโมสรราชพฤกษ์ เวลา 17.45 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.พรรคพลังประชารัฐ และในฐานะผู้ประสานงานพรรคเล็ก ได้เดินทางมาถึงเป็นคนแรก เพื่อมาดูแลความเรียบร้อย ตามมาด้วยนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา มาถึงเวลา 18.55 น. รวมทั้งนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา​,  นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย, นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการบริหารพรรค พปชร., นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ต่างทยอยเดินทางมาถึง ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ติดภารกิจ

ดินเนอร์พรรคเล็กคึกคัก

ส่วนพรรคเล็กที่มาร่วมงาน ประกอบด้วย พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคไทรักธรรม พรรคเพื่อชาติไทย พรรคพลังธรรมใหม่ พรรคชาติพัฒนา พรรคพลังชาติไทย พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคพลังท้องถิ่นไท พรรคประชาภิวัฒน์ พรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรครักษ์ผืนป่าฯ พรรคเศรษฐกิจใหม่ และพรรคพลเมืองไทย โดยมีหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคเข้าร่วม มีการจัดโต๊ะยาวเพียงโต๊ะเดียวให้บรรดาพรรคเล็กได้นั่งใกล้ชิดกับ พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พร้อมเปิดโอกาสให้พูดคุยอย่างเต็มที่

เวลา 20.29 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางมาถึงสโมสรราชพฤกษ์ โดยมีนายสุชาติมารอรับพาเดินเข้าไปในงาน ซึ่งบรรยากาศงานเลี้ยงมีพรรคร่วมที่รออยู่ทั้ง 16 พรรค ขาดนายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ ติดภารกิจต่างจังหวัด ได้แจ้งกับ พล.อ.ประวิตรแล้ว เช่นเดียวกับนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ติดภารกิจต่างจังหวัด ส่งนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนามาแทน ส่วนพรรคเศรษฐกิจไทย ที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เป็นแกนนำไม่ได้มาร่วม เนื่องจากยังไม่มีหัวหน้าและเลขาธิการพรรค

นายชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไทย กล่าวว่า พรรคได้สะท้อนปัญหาของประชาชนเพื่อให้นายกรัฐมนตรีลงไปช่วยเหลือผ่านการจัดสรรงบประมาณให้กับท้องถิ่น อบต.และ อบจ.เนื่องจากมองว่าจะช่วยเหลือประชาชนได้รวดเร็วมากกว่ารองบกลาง เช่น การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบในปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจ ราคาสินค้า ราคาน้ำมันแพง เสนอขอการช่วยเหลือลดค่าครองชีพค่าก๊าซหุงต้ม สิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเมนูอาหารภายในงาน อาทิ กระเพาะปลาสด ปลาหิมะ เกี๊ยวกุ้ง ติ่มซำ ของหวานบัวลอยน้ำขิง

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายอภิชัย เตชะอุบล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้เดินทางไปยื่นหนังสือลาออกจากพรรค ปชป.ต่อ กกต. แล้วเดินทางกลับทันที เพื่อเตรียมตัวไปยื่นใบสมัครเป็นสมาชิกที่พรรคพลังประชารัฐ เวลา 16.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายอภิชัยลาออกจากสมาชิกพรรค ปชป. จะทำให้พ้นจากการเป็น ส.ส.ทันที และจะต้องมีการเลื่อนรายชื่อในบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปขึ้นมาคือ นายนราพัฒน์ แก้วทอง ซึ่งปัจจุบันเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเป็นรองหัวหน้าพรรค ปชป.ดูแลภาคเหนือ

ต่อมาเวลา 15.10 น. นายอภิชัยเดินทางมาที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพื่อสมัครเป็นสมาชิกพรรค โดยปฏิเสธให้สัมภาษณ์ กล่าวเพียงว่า “เดี๋ยวจะลงมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ"

จากนั้นเวลา 16.10 น. พรรค พปชร. โดยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง ในฐานะรักษาการเลขาธิการพรรค, นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค แถลงข่าวเปิดตัวนายอภิชัยและนายอรรถวุฒิ เตชะอุบล บุตรชายของนายอภิชัย สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค

นายสันติกล่าวว่า ถือเป็นโอกาสดีที่พรรค พปชร.ได้สมาชิกใหม่คือ นายอภิชัย พร้อมบุตรชาย ที่ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรค ซึ่งจะมาช่วยกันเติมเต็มการทำงานให้กับพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร

ส่วนนายอภิชัยกล่าวว่า ตนเล็งเห็นความสำคัญของการทำพรรคการเมืองที่มีคุณภาพและสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีความสุขในหลักความรับผิดชอบร่วมกัน มีผู้นำพรรคแสดงให้เห็นถึงการอุทิศและเสียสละส่วนตนให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศและทำการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดังนั้นตนจึงตัดสินใจเข้ามาสังกัดพรรค พปชร. นี่คือเหตุผล

ถามว่าก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวย้ายไปพรรคเศรษฐกิจไทย แต่ทำไมเปลี่ยนใจมาอยู่พรรค พปชร. นายอภิชัยกล่าวว่า ตนยังไม่เคยพูดจะไปที่นั่น มีแต่ข่าวออกไปยังไม่ได้พูดอะไรเลย 

ซักว่าเข้ามาใน พปชร.จะรับผิดชอบพื้นที่กรุงเทพฯ ใช่หรือไม่ นายอภิชัย กล่าวว่า ก็แล้วแต่ผู้ใหญ่จะมอบหมาย แต่เบื้องต้นที่คุยไว้ให้มาดูท้องถิ่น โดยเฉพาะ ส.ก. ที่จะมีการเลือกตั้งในเร็วๆ นี้ ซึ่งพปชร.จะส่ง ส.ก.ครบทั้ง 50 เขต และตัวผู้สมัคร ผู้ใหญ่ ก็คัดเลือกมาเกือบครบแล้ว ตนก็ดำเนินการต่อทันที และคาดว่าจะทำให้ พปชร.ได้ ส.ก.มากที่สุด

"ผมไม่มีประสบการณ์ในการทำงานในพื้นที่กรุงเทพฯ แต่ในฐานะบริหารธุรกิจมาค่อนข้างเยอะมาก จึงเชื่อว่าตรงนี้คงไม่ลำบาก ถ้าเรามีความตั้งใจจริงที่จะทำ" นายอภิชัยกล่าว

พอถามว่า มีกระแสข่าวเข้ามาเป็นนายทุนคนใหม่ของพรรค นายอภิชัยรีบร้อง “โอ๊ย อย่าไปพูดนายทงนายทุนอะไร" ส่วนชายที่มาสมัครสมาชิกพรรควันนี้ คาดว่าจะ ส.ส.ลงสมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานหลังให้สัมภาษณ์เสร็จ นายสันติได้สวมเสื้อพรรค พปชร. ให้กับนายอภิชัยและนายอรรถวุฒิ พร้อมจับมือเพื่อเป็นการต้อนรับ และได้ถ่ายภาพหมู่กับสมาชิกพรรค

ปชป.เลือดไหล'ไพร'ไขก๊อก

วันเดียวกัน นายไพร พัฒโน อดีตนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ และอดีตส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กเรื่องลาออกจากสมาชิกพรรค ปชป. พร้อมแนบหนังสือลาออก ลงวันที่ 11 มี.ค.2565 เอาไว้

ทั้งนี้ หนังสือระบุว่า “ผมเองก็เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในนามพรรคประชาธิปัตย์มาแล้ว 2 สมัย คือปีพ.ศ.2539 ถึง พ.ศ.2546 จึงเป็นเรื่องยากและยิ่งใหญ่มากในชีวิตของผมต่อการตัดสินใจครั้งนี้….. พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ผมรัก และยังรักอยู่จนถึงตอนนี้ แต่เส้นทางทางการเมืองบางครั้งมันไม่มีทางเลือกให้แก่เรามากนัก ผมได้โทรศัพท์แจ้งให้ท่านหัวหน้าอภิสิทธิ์ทราบเป็นคนแรกในการตัดสินใจครั้งนี้ แต่ไม่กล้าหาญเพียงพอที่จะโทรศัพท์ไปหาท่านหัวหน้าชวนที่ผมรักและเกรงใจแบบสุดๆ แต่ในที่สุดผมก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อย่างเป็นทางการเสียที”

ขณะที่นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการคณะกรรมการประสานงานองค์กรเครือข่ายภายนอกพรรค เเละคณะกรรมการกิจการสาขาตัวเเทนจังหวัดและสมาชิกพรรค พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ขณะนี้ถือเป็นนิมิตหมายอันดีเเละสดใสของพรรคในยุคกัปตันจุรินทร์ ซึ่งเป็นยุคเลือดเเท้จริงๆ ผสมกับเลือดใหม่และเลือดเก่าที่หลั่งไหลกลับบ้านเกิด จึงเป็นการเริ่มต้นยุคที่จะนำไปสู่ความมั่นคงเเละยั่งยืนในการสร้างรากฐานของสถาบันทางการเมืองของชาติ นอกจากนี้ ยังเป็นการทำให้เห็นความชัดเจนความไม่มั่นคงของเเต่ละตัวบุคคลได้เป็นอย่างดี โดยมาอาศัยพื้นที่ของพรรคเพื่อสร้างพื้นทางการเมืองด้วยเหตุผลส่วนตัว

นายภูมิสรรค์กล่าวว่า หลังจากนี้ไปพรรคน่าจะสามารถวางตัวเลือดแท้ เลือดใหม่ที่มีอุดมการณ์ทันสมัย ทำได้ไวทำได้จริง พร้อมเลือดเก่าที่คิดถึงพรรคและบ้านเมืองได้อย่างราบรื่นเเละมั่นคงในเเต่ละพื้นที่เลือกตั้ง และอีกหลายหน้าที่ในพรรคเเละตำเเหน่งในสภา รวมถึงในรัฐบาล ซึ่งจะทำให้การคาดการณ์ของทีมยุทธศาสตร์พรรคชัดเจนยิ่งขึ้น สำหรับการตั้งเป้าหมายที่นั่ง ส.ส.กว่า 80-100 ที่นั่งสำหรับการเลือกตั้งที่จะมาถึง โดยจะมีความชัดเจนขึ้นในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ส่วนการเข้า-ออกจากพรรคของบุคคลต่างๆ เป็นเรื่องปกติธรรมดาทุกยุคสมัย เพราะอุดมการณ์ไม่ได้เป็นการบอกกล่าวจากการเรียกร้องหรือคำพูด เเต่เป็นการพิสูจน์ใจเเละตัวตนของเเต่ละบุคคลอย่างเป็นที่ประจักษ์

 “อยากเรียนด้วยความเคารพถึงอีกหลายบุคคลที่กำลังจะออกไปให้เร่งตัดสินใจ เพื่อเห็นเเก่ส่วนรวม เห็นเเก่พรรค ที่อย่างน้อยเคยเป็นบ้านหลังหนึ่งหรือเเค่ที่อยู่อาศัยชั่วคราว” นายภูมิสรรค์กล่าว

เช่นเดียวกับนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป. ยืนยันว่า พรรคเคารพในการตัดสินใจของสมาชิกพรรคที่ได้ลาออก ซึ่งกรณีของนายอภิชัยก็ต้องเอาความจริงมาพูดกันว่าทุกคนทราบดีมานานแล้วว่านายอภิชัยมีการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองกับพรรคการเมืองอื่นมานานแล้ว อาจจะมีเหตุผลพิเศษที่ไม่ต้องการลาออกจากสมาชิกพรรคได้ คือหากลาออกจากสมาชิกพรรคก็จะหลุดจาก ส.ส.ทันที แต่ขณะนี้คงเห็นแล้วว่าอายุของสภาผู้แทนราษฎรเหลือไม่มาก ก็เลยตัดสินใจลาออกไปทำงานการเมืองกับพรรคการเมืองอื่น

 “พรรคเป็นสถาบันทางการเมือง ผ่านความเปลี่ยนแปลงมามากมายหลายสถานการณ์ สิ่งที่สำคัญที่พรรคดำเนินการมาตลอดคือมุ่งมั่นก้าวไปข้างหน้าเพื่อประชาชน ขณะนี้ต้องถือว่าการเลือกตั้งใหญ่กำลังจะมาถึง ทุกคนในพรรคมีความตั้งใจ ร่วมมือกันเพื่อก้าวไปข้างหน้า ทุกคนในพรรคคือส่วนสำคัญของพรรค การเปลี่ยนแปลง แปรเปลี่ยนของตัวบุคคลเกิดขึ้นได้เสมอ แต่พรรคประชาธิปัตย์จะต้องอยู่เพื่อทำงานให้กับประชาชนและประเทศตลอดไป ขณะนี้ทุกคนทุกฝ่ายเตรียมความพร้อมเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งที่จะมาถึง จึงมั่นใจว่าพรรคจะได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนมากขึ้นอย่างแน่นอน”โฆษกพรรค ปชป.ระบุ

ที่รัฐสภา นายสมชัย ศรีสุทธิยากร โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่..) พ.ศ.... กล่าวถึงกระแสข่าวที่ประชุมกมธ.วิสามัญฯ จะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง เพื่อปลดล็อกให้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ (ตศร.) และองค์กรอิสระ สามารถจัดตั้งพรรคการเมืองและเป็นสมาชิกพรรคได้ว่า ยืนยันเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง โอกาสที่จะบอกว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ ส.ว. จะสามารถจัดตั้งพรรคการเมืองได้นั้นปิดตาย เพราะ กมธ.วิสามัญฯไม่ยอมเด็ดขาด.