ยุบสภาตัดสินใจเอง บิ๊กตู่สวนไทม์ไลน์ป้อม/พรรคเล็กนัดถกหลัง17มี.ค.

“ประยุทธ์” ประกาศยุบสภาเมื่อไหร่ขึ้นกับสถานการณ์ ชี้ “พี่ป้อม” คาดหลังประชุมเอเปกแค่ความคิดส่วนตัว โอดในอดีตยามชาติมีปัญหาคนไทยรวมหัวใจเป็นหนึ่ง แต่ปัจจุบันกลับแตกแยก ยันให้เกียรติทุกคนไม่ว่าพรรคเล็กหรือใหญ่ ย้ำ 17 มี.ค.แค่ทานข้าวกระชับมิตร “พี่ป้อม” คิดไทม์ไลน์เอง เซ็งให้เลิกถามเรื่องธรรมนัส “พิเชษฐ” นัดพรรคเล็กคุยหลังมื้อราชพฤกษ์ วางอนาคตสู้ศึกเลือกตั้งบัตร 2 ใบ

เมื่อวันอังคาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการหารือกับพรรคเล็กว่าหลังเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปกเดือน พ.ย. จะมีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ ว่าเป็นเรื่องที่ พล.อ.ประวิตรท่านพูด และท่านได้ชี้แจงให้ทราบแล้ว โดย พล.อ.ประวิตรพูดในมุมของท่าน แต่ทั้งหมดเป็นเรื่องของนายกฯ ซึ่ง พล.อ.ประวิตรพูดเมื่อสักครู่นี้

ถามต่อว่าจะยุบสภาเมื่อไหร่ นายกฯ ตอบทันทีว่า เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น เป็นเรื่องของนายกฯ ที่จะตัดสินใจ นายกฯ ก็ต้องเก็บไว้ก่อน เป็นเรื่องของนายกฯ จะมาบอกก่อนทำไม ทำไมต้องรีบบอก

เมื่อถามว่า แสดงว่านายกฯ มีเวลาไว้ในใจแล้วหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า สถานการณ์จะเป็นตัวกำหนดทั้งหมด อยากให้ทุกคนคำนึงถึงว่าวันนี้อะไรสำคัญกว่าอะไร ประเทศชาติมีปัญหาสำคัญ ประชาชนเดือดร้อนถือว่าสำคัญกว่าอย่างอื่นหรือไม่ ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาตราบใดที่ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะที่ไม่ปกติ คนไทยทุกคนจะรวมพลังกันในการต่อสู้เพื่อเอาชนะจนอยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงทุกวันนี้ แล้ววันนี้เราจะแตกแยกกันไปถึงไหนกัน ปัญหาอะไรที่สามารถจะลดลงไปได้ก็ควรจะลดลงเสียบ้าง ขอร้องกันแค่นั้น ซึ่งก็ขอได้แค่นี้

ถามอีกว่า อาจมีการปรับเปลี่ยน โดยอาจเลื่อนการจัดประชุมเอเปกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยังไม่รู้ ยังไม่ทราบ เพราะยังไปไม่ถึงตรงนั้น ตอนนี้กำลังดูในเรื่องของการประชุมหลายเวทีด้วยกัน ซึ่งจะต่อเนื่องไปจนถึงการประชุมเอเปก ก็ต้องดูว่าจะประชุมได้หรือไม่ได้ จะประชุมกันอย่างไรก็แล้วแต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในรัสเซียและยูเครนขณะนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในวันที่ 17 มี.ค.ที่นัดทานข้าวกับพรรคร่วมเล็ก จะมีมิติอะไรเกิดขึ้นเป็นพิเศษหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เป็นการพูดคุยและเจอกัน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ซึ่งความจริงได้พูดคุยกับพวกเขาอยู่แล้ว และเจอกันหลายครั้งในสภา วันนี้ก็ถือว่าเป็นการมาเจอร่วมกัน ในฐานะที่เรามาร่วมแรงร่วมใจในการทำเพื่อประเทศชาติดีกว่า อย่างอื่นค่อยมาว่ากันทีหลัง

 “ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีอะไรที่เป็นประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความไม่รักไม่สามัคคี ไม่ให้เกียรติกัน มันไม่ใช่ ผมให้เกียรติเสมอ ผมเจอท่านถ้าท่านอาวุโสน้อยกว่าผม ท่านก็สวัสดีผม ถ้าอายุมากกว่าผม ผมก็สวัสดีท่าน ผมไม่เคยคิดว่าเป็นนายกฯ เป็นสุดยอดเสียเมื่อไหร่ ให้เกียรติ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

เมื่อถามย้ำว่า ไม่มีเรื่องที่พรรคเล็กเกิดความน้อยใจในตัวนายกฯ ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คนเรานั่นนะ มันก็ควรใจใหญ่ ทำตัวให้หัวใจมันใหญ่ขึ้นมาเสียหน่อย ไม่ใช่หัวใจเล็ก หัวใจที่เราจะต้องรู้จักให้เกียรติซึ่งกันและกัน ให้อภัยซึ่งกันและกัน ถ้าเป็นคนที่ควรให้อภัย

ย้ำกินข้าวอย่างเดียว

ถามอีกว่า การนัดรับประทานอาหารกับพรรคเล็กครั้งนี้ถือเป็นการฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนส่วนหนึ่งด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีอะไรหรอก ไปกินข้าว ไม่มีอะไร กินข้าวอย่างเดียว กินข้าวผิดด้วยหรือ และเมื่อถามว่าเหมือน พล.อ.ประวิตรส่งสัญญาณอะไรบางอย่างหรือเปล่า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มี กินข้าว

เมื่อถามว่า ระหว่างนี้คิดว่าการเมืองเป็นอุปสรรคในการทำงานของนายกฯหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ไปถามการเมืองเอาสิ ตนเองอยู่ฝ่ายบริหาร ให้ไปถามฝ่ายการเมืองนู้น

ถามต่อเนื่องว่า ในเรื่องการเช็กเสียงในสภา รัฐบาลยังคงมีเสถียรภาพอยู่ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็แล้วแต่เสียงในสภา บังคับใครไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าคิดว่าทำแล้วประเทศชาติจะดีขึ้นก็แล้วแต่ท่าน

เมื่อถามว่า ในการพูดคุยกับพรรคเล็ก พล.อ.ประวิตรได้ถามกับตัวแทนพรรคเล็กว่ามีแผนที่จะล้มนายกฯ หรือไม่ ตรงนี้วิตกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ให้มาล้มเถอะไป ใครจะล้มก็ล้มไปเถอะ ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ คิดว่าทุกคนมีวุฒิภาวะที่ดีเพียงพอ และให้เกียรติท่านทุกคนแล้วมันจะเกิดประโยชน์อะไรกับใคร ถามหน่อย วันนี้ทำงานมาเท่าไหร่ อะไรสำเร็จมาบ้าง ไปเทียบดูก็ได้ ไปเทียบมาเลย 8 ปี 10 ปีที่ผ่านมาไปเทียบผลงานมาเลย ประชาชนไปแยกแยะเอาเองก็แล้วกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในมุมการทำงานของ ครม. มีอะไรต้องปรับเปลี่ยนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ได้พูดคุยกับรัฐมนตรีทุกท่านทุกวันอยู่แล้ว นอกเหนือจากการประชุม ครม.ทุกวันก็ได้ติดต่อกับทุกคนโดยตรง ส่งไลน์คุยกับพวกท่านเรื่องโน้นเรื่องนี้ รับไปดูแลได้หรือไม่ แล้วก็มีการตอบกลับมาว่าได้ดูไปถึงตรงนั้นตรงนี้แล้ว ไม่ได้นั่งเจอกันเพียงสัปดาห์ละครั้ง เจอกันทุกวันทุกกระทรวง มีเรื่องเข้ามาก็ส่งไปว่าให้ช่วยกันทำตรงนั้นตรงนี้หน่อยว่าจะทำอย่างไร อะไรที่สามารถแนะนำได้ เพราะอยู่ข้างบนเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวงก็ได้ชี้แจงรายละเอียดแล้วว่าให้กระทรวงไหนทำอะไรไปแล้วบ้าง แล้วกระทรวงนี้ทำต่อแบบนี้ได้หรือไม่ ทุกอย่างต้องทำงานและบริหารแบบนี้ และยืนยันว่าถึงวันนี้ยังไม่มีเรื่องการปรับทัพหรือเสริมอะไรทั้งสิ้น

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ตอบคำถามสื่อมวลชนตามที่ พล.อ.ประยุทธ์มอบหมายถึงพรรคการเมืองขนาดเล็กต้องการให้มีรัฐมนตรี 1 คน เพื่อประสานงานรับความเห็นส่งต่อรัฐบาล นายกฯ เห็นด้วยหรือไม่ และคิดว่ารัฐมนตรีคนไหนเหมาะสม นายธนกรกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงว่ายังไม่ได้พิจารณาในเรื่องนี้ ที่ผ่านมาเป็นเรื่องสัดส่วนของ ส.ส.ที่เข้ามาของแต่ละพรรคในการจัดตั้ง ครม.ที่เห็นชอบร่วมกัน ซึ่งนายกฯ รับฟังความเห็นจาก ส.ส.ทุกพรรคเพื่อนำไปสู่การบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งจาก ครม. ส.ส.และความคิดเห็นจากประชาชนอีกหลายช่องทาง

ด้าน พล.อ.ประวิตรยอบรับถึงการระบุว่าจะยุบสภาหลังการประชุมเอเปก ว่า พูดเอง พูดว่าพอจบเอเปกแล้ว รัฐบาลก็ว่างแล้ว ถ้าจะยุบก็ยุบได้ตอนนั้น ส่วนจะยุบหรือไม่ยุบก็ขึ้นอยู่กับนายกฯ ไม่ใช่ว่าจะต้องไปถามใครมา นี่เป็นความคิดของตนเอง

เมื่อถามว่าจังหวะเวลานั้นถือว่าเหมาะสมที่จะยุบสภาใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "เออ ใครอยากที่จะให้ยุบก็ยุบได้" เมื่อถามย้ำว่าต้องดูเรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบก่อนหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ต้องดู

ผู้สื่อข่าวถามว่า การจะประคับประคองพรรครวมรัฐบาลให้ไปได้ถึงเวลานั้นยากลำบากหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ยากลำบาก ทุกคนโอเค และให้การสนับสนุนรัฐบาลกันหมด ส่วนการพูดคุยกับพรรคเล็กนั้นก็ไม่มีอะไร เขาก็แล้วแต่ตนเอง และในวันที่ 17 มี.ค.นี้ ทุกพรรคก็จะไปร่วมกันหมด เพราะเชิญทุกพรรคไปร่วมงาน ส่วนพรรคเศรษฐกิจไทยยังไม่ได้เป็นพรรค ยังไม่มีหัวหน้าพรรค แต่งานเลี้ยงเขาเชิญหัวหน้าพรรค แต่เมื่อเขาตั้งพรรคเสร็จแล้ว ต่อไปก็จะเชิญ

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากนี้ไปจะเข้ามาดูแลกลุ่มพรรคเล็กด้วยตัวเองหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ดูแลมาตลอด ดูแลมาตั้งแต่เริ่มต้น ย้ำว่าดูแลมาตลอด ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา แกนนำพรรคเศรษฐกิจไทยไม่เกี่ยว เพราะดูแลคนเดียว

เซ็งให้เลิกถามเรื่องธรรมนัส

เมื่อถามว่า มั่นใจว่าเสียงของพรรคเล็กไม่มีแตกแถว พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มี เมื่อถามย้ำว่าไม่กลัวว่า ร.อ.ธรรมนัสจะดูด ส.ส.กลับไปหรือ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ไม่มีๆ เลิกพูดเรื่อง ร.อ.ธรรมนัส" เมื่อถามว่าชื่อนี้ทำให้แสลงหูหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ก็ไปพูดกันเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ร.อ.ธรรมนัสจะพบกับ พล.อ.ประยุทธ์ได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็ไม่มีอะไร มีแต่สื่อพยายามให้เขาทะเลาะกันอยู่เรื่อย เดี๋ยวนี้ไม่ให้ตนเองทะเลาะกับนายกฯ แล้วหรือ ส่วนเรื่องจ้องล้ม พล.อ.ประยุทธ์นั้น ก็ไม่จริง ไม่มี ไม่มีหรอก รวมถึงเรื่องกอดกับ พล.อ.ประยุทธ์ในงานเลี้ยงแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลก็กอดกันอย่างนี้ทุกที

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงการยุบสภาหลังการประชุมเอเปกว่า ไม่ทราบ ว่าจะถาม พล.อ.ประวิตรเช่นเดียวกัน แต่ยังไม่ได้ถาม แต่การยุบสภาไม่มีไทม์ไลน์ ยุบเมื่อไหร่ก็ยุบได้ ซึ่งหากยุบสภาต้องจัดการเลือกตั้งระหว่าง 45-60 วัน แต่หากรัฐบาลอยู่จนครบวาระต้องจัดการเลือกตั้งเข้าใจว่า 30 วัน 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวในประเด็นนี้ว่า ทราบจากข่าวเหมือนกัน แต่เคยพูดมาแล้วว่าผู้ที่จะยุบสภาได้คือนายกฯ ต้องไปถามนายกฯ และเรื่องนี้ พล.อ.ประวิตรก็ไม่เคยพูดในที่ประชุม ครม.ต่อหน้าพรรคร่วมรัฐบาล แต่ในส่วนของพรรคเราเตรียมการเลือกตั้งทุกวัน ตั้งนานแล้วตั้งแต่เลือกตั้งปี 2562 เสร็จเพราะมันต้องพร้อมตลอด

เมื่อถามว่า วันที่ 17 มี.ค. พรรค ภท.ได้รับเชิญไปร่วมงานเลี้ยงระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์กับพรรคเล็กหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ได้รับคำเชิญแล้วตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. ระหว่างเปิดสนามบินเบตง นายกฯ ก็แจ้งให้ไปรับประทานอาหารด้วย ซึ่งก็จะไปพร้อมนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค ซึ่งไม่มีอะไรหรอก เป็นการไปพูดคุยระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อหาวิธีแก้ไขสิ่งที่เป็นปัญหาของบ้านเมืองในทุกวันนี้ให้ได้รับการแก้ไขโดยเร็ว รวมถึงสร้างความมั่นใจให้พี่น้องประชาชน และพี่น้องประชาชนไม่ควรมากังวล เสียอารมณ์กับพรรคร่วมรัฐบาลตีกันหรือไม่ ยืนยันว่ารัฐบาลยังสามารถบริหารประเทศได้อย่างแน่นอน

เมื่อถามว่า พรรคเศรษฐกิจไทยเป็นปัญหากับรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ พรรคเศรษฐกิจไทยเพิ่งตั้งขึ้นมา และผู้จัดตั้งรัฐบาลก็ยืนยันพรรคเศรษฐกิจไทยเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล และไม่เคยสร้างปัญหา ส่วนในวันที่ 17 มี.ค. มีการเชิญพรรคเศรษฐกิจไทยหรือไม่ ต้องไปถามเจ้าภาพจัดงาน โดย ภท.จะเป็นเจ้าภาพในเดือน เม.ย. โดยจะเชิญทุกพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเป็นสิ่งที่น่ากระทำ และการทานข้าวร่วมกันเดือนละ ไม่ถือว่าเยอะไป

ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวประเด็นยุบสภาหลังประชุมเอเปก ว่าไม่ทราบข้อเท็จจริง ถ้าจะให้ตอบคงต้องตอบว่าไปถามนายกฯ เพราะคนมีอำนาจยุบสภาคือนายกฯ ไม่อยู่ในฐานะที่จะตอบได้ และไม่ทราบว่าจริงหรือไม่จริงอย่างไร

เมื่อถามว่า คิดว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะควรหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ไม่มีความเห็น การยุบสภาหลายครั้งที่เกิดขึ้นมาในอดีตขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เราคาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้าไม่ได้ บางทีก็เป็นอุบัติเหตุทางการเมือง หรือจะเป็นจากเงื่อนไขอื่นๆ ที่นอกเหนือจากการคาดการณ์ บางทีเราก็คิดว่าไม่มี แต่สุดท้ายก็อาจมี หรือคิดว่าต้องมีแน่ สุดท้ายก็ไม่มีก็เป็นไปได้

นายจุรินทร์ยังกล่าวถึงการนัดรับประทานอาหารค่ำในวันที่ 17 มี.ค. ว่าได้รับทราบแล้ว และถือเป็นเรื่องที่ดี และสนับสนุนมาตั้งแต่ต้น เพราะพรรคร่วมรัฐบาลหรือแม้แต่พรรคที่สนับสนุนรัฐบาลก็ตาม ที่มารวมกันเป็นรัฐบาลล้วนแต่มีความสำคัญทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเล็ก กลาง ใหญ่ โดยได้มอบนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคเป็นตัวแทนพรรคไปร่วม ส่วนตนเองได้เรียนนายกฯ ไปแล้วว่าติดภารกิจที่ จ.แม่ฮ่องสอน เลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากได้นัดเกษตรกรจำนวนมาก และมีกำหนดก่อนหน้านี้นานแล้ว

ทั้งนี้ ก่อนประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ได้มอบสวนต้นไม้ในโหลแก้วเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 66 ปีนายจุรินทร์ และอวยพรว่า ขอให้ประสบความสำเร็จ เป็นพรรคร่วมช่วยกันทำงานต่อไป

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา​ (ชทพ.)​ กล่าวเพียงสั้นๆ  ถึงการนัดรับประทานอาหารในวันที่​ 17​ มี.ค. ว่ายังไม่แน่ใจเชิญทุกพรรคหรือเปล่า ถ้าเชิญมาก็ไป

ส่วนนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษาฯ ในฐานะหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) กล่าวเรื่องนี้ว่า จะไปร่วมงาน และอาจมีเลขาธิการพรรคไปด้วย ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไร

พรรคเล็กนัดถกหลัง 17 มี.ค.

นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พชปร. และหัวหน้ากลุ่ม 16 กล่าวว่า ภายหลังจากพรรคเล็กทานข้าวกับนายกฯ ในวันที่ 17 มี.ค. ถัดมาอีก 1 สัปดาห์ พรรคเล็กจะนัดรับประทานอาหารในกลุ่มกันเองอีกครั้งที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ ในนาม ส.ส.กลุ่ม 16 ที่มีความเป็นอิสระ ไม่ขึ้นอยู่กับใคร เพื่อหารือถึงแนวทางการเลือกตั้ง เพราะขณะนี้ทราบแนวทางชัดเจนว่าจะยุบสภาหลังประชุมเอเปก และเลือกตั้งเดือน ม.ค. จึงต้องมาวางแนวทางขับเคลื่อนร่วมกันจะไปแนวทางใด อาทิ ถ้าเป็นกติกาบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ที่พรรคเล็กเสียเปรียบ จะมารวมพรรคเพื่อความเป็นปึกแผ่น หรือแต่ละพรรคจะแยกไปรวมกับพรรคใด หรือถ้ามีการแก้กติกาคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยใช้ 100 หรือ 500 หาร พรรคเล็กจะดำเนินการอย่างไร รวมถึงหารือถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติในเดือน พ.ค. พรรคเล็กจะโหวตไปในทิศทางเดียวกัน โดยพิจารณาจากการตอบชี้แจง หากรัฐมนตรีคนใด ไม่สามารถชี้แจงข้อครหาได้ ก็จะไม่ยกมือให้ แต่ใครชี้แจงได้ ก็พร้อมจะยกมือให้

นายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรคกล้า กล่าวถึงการยุบสภาหลังการประชุมเอเปก ว่าเราได้เตรียมความพร้อมทำพื้นที่อยู่เรื่อยๆ จะยุบสภาเร็วหรือช้าเราก็มีความพร้อม

วันเดียวกัน นายวิษณุกล่าวถึงกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ออกมาระบุว่ามีขบวนการจ้องคว่ำกฎหมายลูกเพื่อให้เกิดเดดล็อกการเมือง นำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ว่าไม่ทราบ และการคว่ำกฎหมายลูกก็ไม่ทำให้เกิดเดดล็อก แต่จะเป็นตรงที่ทำให้ไม่มีกฎหมายลูก ถ้าจำเป็นต้องเลือกตั้งจะใช้กติกาอะไร อย่างไร แต่ที่พูดกันว่าจะได้กลับไปใช้บัตรใบเดียวนั้น เป็นไปไม่ได้ เว้นแต่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ขณะที่นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฯ กล่าวถึงการคว่ำกฎหมายลูกว่า ไม่ทราบ เพราะกระบวนการเดินไปแล้ว 

มีคณะกรรมการที่มาจากแต่ละสัดส่วนแล้ว ถ้ามีกระบวนการคว่ำในวาระสามจะทำให้การเดินไปสู่การเลือกตั้งที่จำเป็นต้องใช้กฎหมายลูกเกิดความเสียหาย ดังนั้น อย่าเพิ่งไปคิดอะไรมากเกินไป และปล่อยให้กระบวนการเดินไปให้เสร็จ และมั่นใจว่าจะทำให้เสร็จโดยเร็วที่สุด

เมื่อถามว่า มองเจตนาของ นพ.ชลน่านที่พูดเรื่องนี้อย่างไร นายสาธิต กล่าวว่า เป็นเพียงความเห็นและความเชื่อของแต่ละคนบนพื้นฐานข้อมูลที่ต่างกัน แต่ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายทำกฎหมายให้ราบรื่นเพื่อนำไปสู่การบังคับใช้ และเดินหน้าต่อไปในสถานการณ์ที่บ้านเมืองที่กำลังมีปัญหา และขอให้เคารพกระบวนการโดยไม่คว่ำร่างกฎหมาย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟ้องต้นตอหมอคางดำ

สภาทนายความฯ เตรียมฟ้องแพ่งบิ๊กเอกชน-หน่วยงานรัฐ ต้นตอ "เอเลี่ยนสปีชีส์"

‘เนวิน’รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดมิวสิคัลเทิดพระเกียรติ

“เนวิน” รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” โดยบุรีรัมย์ออร์เคสตรา แสดงความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.2567 สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์