จ่อคลอดมาตรการ ลดค่าครองชีพปชช.

"บิ๊กตู่" นั่งหัวโต๊ะทีมเศรษฐกิจ ถกแก้ปัญหาพลังงาน-ของแพง "พลังงาน-คลัง" สนองนายกฯ แถลงมาตรการลดภาระค่าครองชีพประชาชนสัปดาห์นี้ ครม.ไฟเขียวปลดล็อกเพดานเงินกู้กองทุนน้ำมัน ผอ.กองทุนฯ แจงตรึงดีเซลได้แค่สิ้น มี.ค. ยืดสุดต้น เม.ย.

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่ามีหลายเรื่องหลายวาระ ซึ่งทำเพื่อประชาชนทั้งนั้น หลายเรื่องต้องปรับแก้กฎระเบียบ หลายเรื่องเป็นการอนุมัติงบประมาณ การใช้จ่ายงบประมาณให้คุ้มค่าและคำนึงถึงรายได้ที่เรามีอยู่ ซึ่งวันนี้เราเจอปัญหาทั้งด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ และเรื่องสงครามที่เกิดขึ้น ถึงแม้ไทยจะเป็นประเทศที่เล็กและอยู่ไกล แต่อยู่ในห่วงโซ่ของเขา สินค้าต่างๆ ก็ผ่านไปผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นสินค้านำเข้า เมื่อต้นทุนสูง ราคาก็ย่อมสูงขึ้น เราสามารถดูแลประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับงบประมาณที่มีอยู่ ขอให้เข้าใจด้วย หลายคนมองว่ารัฐบาลไม่มีเงินอยู่แล้ว จะมีหรือไม่มี ต้องหาหนทางดูแลให้ได้ หาวิธีการที่เหมาะสม หากโจมตีกันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ยิ่งทำให้ทุกคนท้อแท้ คนทำงานก็ท้อแท้เหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายตนจะประชุมกับฝ่ายเศรษฐกิจว่าจะเดินหน้าอย่างไรในเรื่องนี้ เพราะเรื่องพลังงานยังมีการผันผวนอยู่มาก เนื่องจากสถานการณ์สู้รบยังมี และยังไม่จบในเวลาอันใกล้นี้  สิ่งที่เราเป็นกังวลคือเรื่องราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ราคาพลังงาน ปุ๋ย วัสดุต้นทุนต่างๆ ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งเราต้องให้ความสำคัญว่าจะทำอย่างไร

ต่อมาเวลา 14.30 น. ที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานการประชุมหารือเรื่องพลังงานและการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยภายหลังการหารือ  นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกหน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงพลังงาน กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ร่วมพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหา เพื่อหาช่องทาง และรูปแบบในการช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะจากราคาพลังงานรูปแบบต่างๆ ช่วยเหลือแรงงาน ลูกจ้าง และดูแลประชาชนผู้มีรายได้น้อย ตลอดจนผู้ได้รับผลกระทบมาก

นายธนกรกล่าวว่า นายกฯ ได้ให้แนวทางสำคัญในการทำงานเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบให้มากที่สุด ในรูปแบบและวิธีการที่เหมาะสม จากงบประมาณที่มีจำกัด ซึ่งต้องการให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด รวมทั้งแบ่งเป็นมาตรการระยะสั้นช่วยเหลือทันทีเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และระยะยาวช่วยเหลือให้การเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้มาตรการช่วยเหลือจะประกาศอย่างเป็นทางการอย่างเร่งด่วนตามการสั่งการของนายกฯ เมื่อทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการหารืออย่างรอบคอบรัดกุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในสัปดาห์นี้ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะแถลงมาตรการช่วยเหลือลดค่าครองชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนที่ทำเนียบรัฐบาล

ทางด้านนายสุพัฒนพงษ์เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.มีมติรับทราบการแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและพลังงาน ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) โดยขยายเพดานเงินกู้ของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จากเดิมที่กำหนดไว้ที่ 4 หมื่นล้านบาท เป็นไม่กำหนดเพดานการกู้เงินสำหรับกองทุนน้ำมันฯ โดยความสามารถของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสามารถที่จะกู้เงินได้ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท โดยวงเงินกู้เงินที่ ครม.ขยายเพิ่มให้จะทำให้ตรึงราคาน้ำมันดีเซลที่ระดับ 30 บาทต่อลิตรได้นานขึ้น

เมื่อถามว่า ราคาน้ำมันที่ปรับลดลงในช่วงนี้ทำให้เบาใจมากขึ้นหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า บริหารจัดการได้มากขึ้น แต่ขอดูสถานการณ์เป็นรายวัน เพราะตอนนี้การอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลต่อลิตรยังคงใช้เงินสูงอยู่ คือประมาณลิตรละ 7 บาท ทำให้ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ต้องประเมินสถานการณ์วันต่อวัน

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในการประชุม ครม.ครั้งนี้ ใช้เวลาหารือนานที่สุดคือเรื่องพลังงานที่ได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซียกับยูเครน โดยได้เชิญผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์ราคาน้ำมัน โดยช่วงหนึ่งผู้อำนวยการฯ ระบุว่า ราคาน้ำมันขณะนี้ผันผวนหนักมากในรอบ 13-14 ปี มีเหตุมาจากสงครามดังกล่าว ส่วนการชดเชยน้ำมันดีเซลในปัจจุบันชดเชยอยู่ที่ลิตรละ 7 บาท แต่หากราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงไปถึง 135 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จะต้องชดเชยลิตรละ 8 บาท ถ้าสถานการณ์น้ำมันยังเป็นอยู่อย่างนี้ ราคานี้จะตรึงได้ถึงสิ้นเดือน มี.ค. แต่ถ้าราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง จะตรึงต่อได้ถึงต้นเดือน เม.ย. อย่างไรก็ตาม เงินที่อุดหนุนดีเซลตรงนี้ส่วนหนึ่งมาจากเบนซิน

นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังได้พูดคุยถึงกรอบเงินของรัฐบาลที่เคยกู้มาก่อนหน้านี้ รวมทั้งสิ้น 1.5 ล้านล้านบาท ว่าขณะนี้เหลืออยู่เพียง 7 หมื่นล้าน โดยนายกฯ กล่าวกับที่ประชุมว่า เงินกู้ส่วนใหญ่ใช้ไปกับเรื่องสุขภาพ การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่ฝั่งตรงข้ามชอบพูดว่ารัฐบาลใช้เงินผิดประเภท ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ อยากให้ช่วยไปชี้แจงทำความเข้าใจด้วยว่าเราเอาไปใช้อะไรบ้าง และขอเน้นย้ำเรื่องการจัดซื้อให้มีความโปร่งใส อย่างเช่นเรื่องการจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ เพราะชีวิตประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ เราจะละเลยชีวิตประชาชนไม่ได้

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงราคาสินค้าที่มีแนวโน้มปรับขึ้นราคาจากผลกระทบของรัสเซียและยูเครนว่า ต้องยอมรับความจริงว่าสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาน้ำมันและวัตถุดิบเพิ่มสูง ซึ่งน้ำมันเป็นต้นทุนของการผลิตและให้บริการทุกประเทศในโลก และไทยก็เลี่ยงไม่พ้น ส่วนการดูแลสินค้าและบริการนั้น ถือหลักชัดเจนแล้วว่าต้องดูแลคน 3 กลุ่มให้เกิดดุลยภาพ คือเกษตรกร ผู้ประกอบการและผู้บริโภค ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มนี้ความต้องการย้อนแย้งกันอยู่ เกษตรกรต้องการขายผลผลิตได้ราคาดีที่สุด ส่วนผู้ประกอบการต้องได้ผลผลิตที่ราคาถูกเพื่อได้ต้นทุนในการผลิตต่ำ และผู้บริโภคอยากได้ราคาสินค้าถูก เราต้องทำอย่างไรให้สมดุล เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่หลายกระทรวงต้องช่วยกัน

 ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะพิจารณาไปตามข้อเท็จจริง ของภาคการผลิตส่วนไหนหากต้นทุนสูงจะเข้าไปดูว่าต้องทำอย่างไร จะดูแง่ราคาอย่างเดียวปลายทางไม่ได้ ต้องดูปริมาณด้วย ถ้าไปกดราคาจำหน่ายจนผลิตแล้วขาดทุนการผลิตก็จะหยุด สุดท้ายของจะขาดตลาด ดังนั้นจะตัดสินใจอะไรไปต้องอยู่บนผลประโยชน์ทั้ง 3 กลุ่มเป็นหลัก.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟ้องต้นตอหมอคางดำ

สภาทนายความฯ เตรียมฟ้องแพ่งบิ๊กเอกชน-หน่วยงานรัฐ ต้นตอ "เอเลี่ยนสปีชีส์"

‘เนวิน’รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดมิวสิคัลเทิดพระเกียรติ

“เนวิน” รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” โดยบุรีรัมย์ออร์เคสตรา แสดงความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.2567 สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์