เปิดศึกชิงพรรคเล็ก ‘ป้อม’เรียกมาหารือตัดหน้า ‘น้องตู่’งานเลี้ยง17มีค.ไม่เลื่อน

“ประยุทธ์” ลั่นไม่ทรยศแผ่นดิน มาเพื่อแก้ไขปัญหา วอนสามัคคีเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน ย้ำรัฐบาลซี้ปึ้กแม้คนละพรรคแต่ไม่ทะเลาะกัน “ธนกร” แจงนัด 17 มี.ค.ยังไม่มีเลื่อน ขณะที่ “ลุงป้อม” เรียกพรรคเล็กจัดแถวที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ย้ำไม่มีปรับ ครม. ส่วนยุบสภาปลายปีนี้แน่นอน  สั่งให้กินข้าวที่ราชพฤกษ์อย่างพร้อมเพรียง “พรรคเล็ก”  โอดไม่มีคนดูแลแจกกล้วย “ชลน่าน” ปล่อยแกะฝูงใหม่อีกรอบ ปูดมีแผนโหวตคว่ำร่างกฎหมายลูก

เมื่อวันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  พร้อมคณะ เดินทางถึงอาคารที่พักผู้โดยสาร ท่าอากาศยานนานาชาติเบตง จังหวัดยะลา เพื่อเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ขอให้เรารักสามัคคี เชื่อมั่นซึ่งกันและกัน วันนี้เราอยู่ท่ามกลางปัญหาที่ค่อนข้างจะรุนแรง โดยเฉพาะสถานการณ์ในต่างประเทศ ในภูมิภาค  สิ่งสำคัญที่สุดคือความร่วมมือ ความเข้าใจ การบิดเบือนอะไรต่างๆ ซึ่งคิดว่าไม่ใช่เวลานี้ ที่จะมาทำให้ประเทศชาติแตกความรักความสามัคคี

“ผมยืนยันรัฐบาลยังคงมีเสถียรภาพ ผมขอประกาศไว้ตรงนี้ และวันนี้ผมมากับรองนายกฯ รัฐมนตรี ส.ส. ซึ่งเป็นตัวแทนตรงกลาง และข้าราชการระดับสูงทุกกระทรวง ผมยืนยันว่ารัฐบาลมุ่งมั่นแก้ปัญหาให้ประชาชนทุกคนในประเทศนี้ให้ได้ ฉะนั้นทุกอย่างต้องใช้เวลา เราทำทั้งอดีต แก้ไข และทำปัจจุบันให้ดีขึ้น และสร้างอนาคตไว้เพื่อเศรษฐกิจใหม่ของเราทั้งหมด ผมคิดว่าวันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราต้องร่วมแรงร่วมใจ ร่วมรักสามัคคีกันให้ได้ โดยเฉพาะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เราจะแก้ปัญหาให้ผ่านไปได้อย่างไร แน่นอนรัฐบาลไม่มีความสุข ผมเองคิดทั้งเช้า  กลางวัน บ่าย เย็น ทุกวันว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร และได้หารือกับพรรคร่วมรัฐบาลและ ครม.มาตลอดอย่างต่อเนื่อง  วันนี้ถ้าเราย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2557-2558 จะเห็นว่ามีหลายอย่างเกิดขึ้นในประเทศไทยแล้ว” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ผืนดินแห่งนี้เป็นผืนดินแห่งความศักดิ์สิทธิ์ เป็นผืนดินที่ทุกคนได้อยู่อาศัยตั้งแต่ปู่ย่าตายาย เราทรยศต่อแผ่นดินนี้ไม่ได้โดยเด็ดขาด ขอฝากไว้ สิ่งสำคัญสุดคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งสำคัญสุดที่ทำให้ประเทศไทยอยู่มาได้ถึงทุกวันนี้ ฉะนั้นเราจะต้องทบทวนว่าจะอยู่กันอย่างไรต่อไป ความขัดแย้งมันมากขึ้นเรื่อยๆ ในโลกใบนี้ เราจะต้องอยู่ให้ได้ ต้องใช้สติปัญญาแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้ได้ ทุกคนต้องมีสติใคร่ครวญอย่างลึกซึ้งว่าเราจะต้องทำตัวอย่างไร ถึงจะผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไป ยืนยันจะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุดเพื่อตอบแทนแผ่นดินผืนนี้ จากนั้นนายกฯ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการสินค้า  OTOP และมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในกลุ่มเปราะบางพื้นที่จังหวัดยะลา โดยช่วงหนึ่งนายกฯ กล่าวพร้อมกับชี้ไปที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุขว่า "นี่คนละพรรค แต่ไม่ทะเลาะกัน" ขณะที่ประชาชนได้ตะโกนกลับไปว่า "คนละพรรคแต่ใจเดียวกัน" ซึ่งนายกฯ ได้ยิ้มพร้อมยกนิ้วโป้งให้ พร้อมกับกล่าวว่า "มันต้องอย่างนี้ รัฐบาลอยู่ด้วยกัน"

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านระบุถึงการห้ามนายกฯ ดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปี ควรยุบสภาหรือลาออกว่า  เชื่อว่าประชาชนคงเบื่อหน่ายเรื่องนี้เต็มที เพราะฝ่ายค้านพูดเรื่องนี้ซ้ำวนเวียนมาแล้วหลายต่อหลายรอบ เรียกร้องให้ยุบสภาหรือลาออกมาตลอด 7 ปี เพียงเพราะรับไม่ได้ที่ประชาชนไว้วางใจให้ พล.อ.ประยุทธ์เข้ามาบริหารประเทศ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน ทั้งๆ ที่ปัญหาเหล่านี้ เช่นการทุจริตคอร์รัปชันจนมีอดีตรัฐมนตรีต้องติดคุกแล้วถึง 2 คน มาจากสมัยรัฐบาลของพรรคตัวเอง แต่ก็ยังไม่สำนึก ยังอยากจะกลับมามีอำนาจอีก วาทกรรมระบบเผด็จการ รัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ ฝ่ายค้านพูดแทบจะทุกวัน ทั้งๆ ที่สมัยรัฐบาลตัวเองมีความพยายามยิ่งกว่าการสืบทอดอำนาจ ทำพรรคการเมืองเหมือนบริษัท ส่งมอบตำแหน่งให้คนในครอบครัวราวกับสมบัติผลัดกันชม  ซึ่งสิ่งเหล่านี้น่าอายยิ่งกว่า แต่กลับไม่เคยย้อนดูตัวเองบ้าง

'ธนกร' ยัน 17 มี.ค.ยังไม่เลื่อน

นายธนกรยังกล่าวถึงกระแสข่าว รัฐบาลจะเลื่อนการจัดงานเลี้ยงระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์กับพรรคเล็กในวันที่  17 มี.ค.ที่สโมสรราชพฤกษ์ออกไปก่อนว่า ยืนยันว่าไม่จริง กำหนดการทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องยกเลิก เพราะการทานอาหารร่วมกันจะยิ่งช่วยกระชับความสัมพันธ์มากยิ่งขึ้น และที่ผ่านมานายกฯ ไม่เคยเลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นพรรคใหญ่หรือพรรคเล็ก  เพราะทุกพรรคล้วนมีส่วนในการช่วยขับเคลื่อนประเทศในนามของรัฐบาลเหมือนกัน

ในขณะที่นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ  พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16  กล่าวว่า ได้รับโทรศัพท์แจ้งจาก ส.ส.พรรคเล็กว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรค พปชร.ให้เลื่อนการจัดงานเลี้ยงระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์กับพรรคเล็กในวันที่ 17 มี.ค.ออกไปก่อน รวมถึงงานเลี้ยงที่พรรคเล็กจะนัดกินข้าวกลางวันที่โรงแรมมิราเคิล ก่อนที่จะไปกินข้าวกับนายกฯ ตอนเย็นก็ถูกยกเลิกเช่นกัน เพราะ พล.อ.ประวิตรไม่สบายใจ เกรงว่าวงกินข้าวดังกล่าวจะยิ่งสร้างความแตกแยกในหมู่พรรคเล็กหนักขึ้น เพราะ นพ.ระวี  มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่  ไประบุว่าวงกินข้าวระหว่างพรรคเล็กกับนายกฯ เชิญพรรคเล็กทุกพรรค ยกเว้นนายสุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ  หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ที่ไม่ได้รับเชิญ เพราะเป็นฝ่ายเดียวกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำพรรคเศรษฐกิจไทย พล.อ.ประวิตรจำเป็นต้องตัดไฟแต่ต้นลม  ไม่ให้เกิดความขัดแย้งหนักขึ้น จึงให้ยกเลิกนัดหมายดังกล่าวไปก่อน 

นายพิเชษฐกล่าวว่า พล.อ.ประวิตรได้นัดพรรคเล็กไปกินข้าวเป็นนัดเร่งด่วนในวันที่ 14 มี.ค.นี้ เวลา 17.00  น.ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เพื่อทำความเข้าใจกันเป็นการเร่งด่วน และทราบว่า พล.อ.ประวิตรจะนัดหมายให้พรรคเล็กเข้าไปรดน้ำดำหัว พล.อ.ประยุทธ์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วย

นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทรักธรรม กล่าวเช่นกันว่า ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่ว่าขอเลื่อนนัดการรับประทานอาหารระหว่างพรรคเล็กในวันที่ 17 มี.ค.ออกไปก่อน แต่ในวันที่ 14 มี.ค.  เวลา 17.00 น. พล.อ.ประวิตรได้นัดพรรคเล็กไปกินข้าวและหารือกันที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ  5 จังหวัด ซึ่งไม่ทราบว่านัดพรรคเล็กทุกพรรคหรือแค่เฉพาะบางพรรค

นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อชาติไทย กล่าวว่า มีการประสานกันภายในกลุ่ม 16 ว่ามีการยกเลิกการรับประทานอาหารกับนายกฯ ในวันที่ 17 มี.ค. และวันที่ 14 มี.ค. เวลา  17.00 น. พล.อ.ประวิตรได้นัดกลุ่ม 16 และพรรคเล็ก รับประทานอาหารเย็นและหารือที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ ซึ่งคาดว่าจะมีพรรคเล็กไปร่วมงานประมาณ 20-30  คน

ด้าน นพ.ระวีกล่าวว่า ยังไม่ได้รับการประสานจากใครเรื่องการยกเลิกวงกินข้าวพรรคเล็กในวันที่ 17 มี.ค.นี้ จึงไม่ทราบว่ามีการยกเลิกนัดหมายดังกล่าวจริงหรือไม่

นายชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวเช่นกันว่า ยังไม่มีใครโทรศัพท์มาแจ้งยกเลิก หากมีการยกเลิกจริงก็จะแจ้งมาโดยตรง คงไม่มีการบอกผ่านใคร  เพราะคนที่โทรศัพท์แจ้งนัดหมายก็เป็น ทส.ของ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าที่นัดหมายแยกเป็น 2 วัน เพราะสถานการณ์โควิด-19 ก็ไม่อยากให้มีจำนวนคนมากนัก  

พรรคเล็กแห่พบลุงป้อม

ในเวลา 17.00 น. ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5  จังหวัด กลุ่มพรรคเล็กบางส่วน อาทิ นายสุรทิน, นายพีระวิทย์, นายคฑาเทพ, นายดำรงค์ พิเดช ส.ส.บัญชีรายชื่อ  พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย, นายสุภดิช อากาศฤกษ์  ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่, น.ส.ศิลัมพา เลิศนุวัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลเมืองไทย และนายพิเชษฐ ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 เดินทางมาที่มูลนิธิฯ เพื่อเตรียมเข้าพบ พล.อ.ประวิตร โดยมีพรรคเล็กอีกหลายพรรคไม่ได้เข้า อาทิ พรรคพลังธรรมใหม่, พรรคครูไทยเพื่อประชาชน  และพรรคประชาภิวัฒน์

ต่อมาเวลา 18.30 น. มีรายงานข่าวแจ้งว่า ในการหารือระหว่าง พล.อ.ประวิตรกับกลุ่มพรรคเล็กใช้เวลากว่า  1 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเพียงการพูดคุยไม่ใช่รับประทานอาหาร  โดยช่วงหนึ่ง พล.อ.ประวิตรได้ขอให้ ส.ส.พรรคเล็กนำข้าวสารไปแจกประชาชนที่เดือดร้อนในพื้นที่ นอกจากนี้ยังพูดถึงสถานการณ์ทางการเมือง โดยระบุว่าขอให้รอยุบสภาในช่วงปลายปีนี้ และไม่ได้พูดถึงเรื่องบัตรเลือกตั้ง รวมทั้งได้กำชับขอความร่วมมือให้ทุกพรรคไปร่วมรับประทานอาหารค่ำกับ พล.อ.ประยุทธ์ในวันที่ 17 มี.ค.โดยพร้อมเพรียงกัน

ขณะที่นายพีระวิทย์ระบุว่า พล.อ.ประวิตรได้สอบถามถึงการไปร่วมรับประทานอาหารกับ ร.อ.ธรรมนัส ว่าจะรวมกลุ่มเพื่อล้มนายกฯ หรือไม่ ซึ่งพรรคเล็กที่เข้าร่วมก็ต่างยืนยันว่าไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้แต่อย่างใด นอกจากนี้  พล.อ.ประวิตรยังยืนยันชัดเจนว่าจะไม่ปรับ ครม.แล้ว แม้นายกฯ ต้องการปรับก็ตาม เพราะถ้าทำก็อาจเกิดความขัดแย้งอีก

“ในวันที่ 17 มี.ค.เตรียมขอให้นายกฯ ช่วยดูเรื่องบำนาญผู้สูงอายุ ซึ่ง พล.อ.ประวิตรก็สนับสนุนว่าเป็นเรื่องที่ดี และยังสามารถนำไปต่อยอดในการหาเสียงได้อีกด้วย  รวมทั้งจะสอบถามนายกฯ ด้วยว่าจากนี้จะมีใครดูแล ส.ส.พรรคเล็ก เพราะที่ผ่านมามี ร.อ.ธรรมนัส แต่ตอนนี้ไม่มีจึงรู้สึกเคว้ง เวลาประชาชนเดือดร้อนก็ไม่รู้ว่าจะบอกใคร” นายพีระวิทย์ระบุ

ด้านนายสุรทินกล่าวว่า พรรคเล็กได้เล่าถึงปัญหาความน้อยเนื้อต่ำใจที่มีต่อนายกฯ ให้ พล.อ.ประวิตรฟัง  ซึ่ง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ใครมีอะไรให้ไประบายและเล่าให้นายกฯ ฟังในวันที่ 17 มี.ค.นี้ รวมถึงใครอยากให้นายกฯ ช่วยเหลืออะไรก็ไปเล่าให้ฟังในวันนั้น ส่วนเรื่องบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ พล.อ.ประวิตรระบุว่า คงไม่สามารถแก้ไขให้เป็นบัตรใบเดียวได้แล้ว ขณะที่การคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อคงต้องหารด้วย 100 ไม่สามารถหารด้วย  500 ได้ เพราะอาจผิดจากหลักการที่ได้รับเอาไว้ในขั้นของการรับหลักการ ขอให้พรรคเล็กสู้ต่อไป

นายพิเชษฐกล่าวว่า พล.อ.ประวิตรได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับพรรคขนาดกลาง โดยยืนยันว่างานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 17 มี.ค.จะยังเป็นไปตามกำหนดเดิม  และขอให้ทุกคนไปร่วมงานและพบกับนายกฯ ส่วนข่าวที่ออกมาว่าจะให้เลื่อนออกไปก่อน คงเป็นความสับสนและเป็นความเห็นส่วนบุคคล  โดย พล.อ.ประวิตรยังขอให้ทุกคนหนักแน่นและช่วยกันทำงาน เพราะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล จะต้องอยู่ด้วยกันและสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ในการบริหารงานต่อไป

มีรายงานข่าวแจ้งว่า ในการพูดคุยนั้น พล.อ.ประวิตรเน้นย้ำขอให้ทุกคนสามัคคีกัน และระมัดระวังเรื่องของการพูดหรือให้สัมภาษณ์ เพราะยังต้องร่วมทำงานในรัฐบาลต่อไป และในการพูดคุยไม่ได้พูดถึงการปรับคณะรัฐมนตรี ตามที่มีกระแสข่าวว่ามีบางพรรคร่วมรัฐบาลขนาดเล็กสอบถามถึงกระแสข่าวจะมีการปรับ ครม.ในเร็วๆ นี้ โดยมีการระบุว่าอาจมีการยุบสภาในช่วงปลายปีนี้

 “พล.อ.ประวิตรบอกให้พรรคเล็กอยู่ช่วยรัฐบาลทำงานไปถึงช่วงการประชุมเอเปก หลังการประชุมเอเปกในเดือน พ.ย.แล้วจะยุบสภา และจะมีการเลือกตั้งใหม่ในช่วงปีใหม่ หรือเลยปีใหม่ไปเล็กน้อย เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน” รายงานข่าวระบุ

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีพรรคร่วมรัฐบาลทั้งพรรคใหญ่และเล็กต่างนัดกินข้าวกันบ่อยว่า เป็นปรากฏการณ์ธรรมดามาก เพราะภาวะวิกฤตการเมืองแบบนี้ กลไกหรือวิธีการอะไรที่ทำให้เขาบอกตัวเองว่ายังมั่นใจและมั่นคงอยู่ ก็ต้องใช้ทุกอย่าง ส่วนท่าทีพรรคเล็กที่เริ่มออกมาเคลื่อนไหวหลังนายกฯ นัดพรรคใหญ่ทานข้าวนั้น เมื่อพรรคใหญ่นัด พรรคเล็กจึงต้องแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าก็มีของ  และมีของที่สำคัญที่มีอำนาจต่อรองสูงมาก เพราะ 30  เสียงของพรรคเล็กสำคัญทำให้แปรปรวนได้ เพราะหาก  30 เสียงนี้โยกไปด้านใดด้านหนึ่งก็จะมีผลทันที

ปูดคว่ำกฎหมายลูก

นพ.ชลน่านยังกล่าวถึงเรื่องแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคว่า ยังไม่ได้มีการวางตัว ส่วนที่มีชื่อ น.ส.แพทองธาร  ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊งนั้น เพราะสื่อถามก็ตอบตามเหตุผลไป  ไม่ได้ปิดบัง หากประชาชนสนับสนุนก็มีสิทธิ์ที่จะเป็น  พรรคพร้อมจะเสนอ เพราะประชาชนสนับสนุน ได้ตอบไปแค่นี้ ส่วน น.ส.แพทองธารจะเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคหรือไม่ ขอไม่ตอบ ซึ่งเป็นกลไกของการพิจารณาอยู่แล้วว่าจะต้องพิจารณาอย่างไร

 วันเดียวกัน นพ.ชลน่านกล่าวว่า มีเสียงเล็ดลอดจากคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฝั่งพรรคร่วมรัฐบาลมาพูดให้ฟังว่า เขาต้องการได้รัฐธรรมนูญใหม่เพื่อให้ได้บัตรใบเดียว โดยมีความพยายามใช้กลไกใน กมธ.คว่ำกฎหมายลูกให้เกิดเดดล็อก เพื่อให้เกิดการแก้รัฐธรรมนูญใหม่แล้วไปสู่บัตรใบเดียว แต่จะจริงหรือไม่นั้นไม่ทราบ

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะรองประธาน กมธ.กล่าวเรื่องนี้ว่า ตามหลักการร่างกฎหมายลูกอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้น กมธ. ซึ่งต้องยึดเสียงข้างมากในการตัดสินประเด็นต่างๆ เพราะฉะนั้นการคว่ำวาระ 3 ก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะทุกฝ่ายต้องการให้การพิจารณากฎหมายผ่านไปโดยเร็ว ถ้าฝ่ายรัฐบาลไปร่วมมือกับ ส.ว.หรือฝ่ายใดก็แล้วแต่เพื่อคว่ำในวาระ 3 จะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าหนีกฎหมายที่สภาทำ เพื่อไปออกกฎหมายซึ่งอาจเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) โดยเป็นกฎหมายที่ออกโดยฝ่ายบริหารฝ่ายเดียวมาใช้ในการเลือกตั้ง จะทำให้เกิดปัญหาต่อไป

นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ในฐานะรองประธาน  กมธ. กล่าวเช่นกันว่า ยังเร็วเกินไปที่จะคิดเช่นนั้นได้  เพราะในชั้น กมธ.ยังไม่มีปัญหาถึงขั้นต้องคว่ำ มีหลักการเรื่องเดียวคือ คณะ กมธ.ต้องระวังอย่าทำอะไรที่ขัดหรือเกินกว่าหลักการที่รับมา เพราะจะทำให้กระบวนการยิ่งช้า  ยืนยันว่าจนถึงขณะนี้ไม่มีสัญญาณที่จะคว่ำร่างกฎหมายลูกในวาระ 3 

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือถึง กกต.ขอให้ตรวจสอบและเสนอศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคเพื่อไทย กรณีนายเกรียง  กัลป์ตินันท์ แกนนำพรรค และนายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ  ส.ส.อุบลราชธานี เดินทางไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเข้าข่ายขัดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 28 และมาตรา 92 (3) มีโทษถึงขั้นยุบพรรค

 “ไม่ใช่เฉพาะผมไม่เชื่อว่าเป็นการพบปะกันโดยบังเอิญ แต่คนไทยทั้งประเทศซึ่งไม่ได้กินแกลบกินหญ้า  คงไม่เชื่อว่าเป็นการพบกันโดยบังเอิญ เพราะเรื่องเหล่านี้นัดหมายกันได้อยู่แล้ว แน่จริงให้เอาเบอร์โทรศัพท์มาโชว์ว่าเมื่อ 1-2 เดือนก่อนหน้านี้ได้คุยโทรศัพท์ไปดูไบหรือไม่” นายศรีสุวรรณกล่าวและว่าคงไม่นำเรื่องนี้ไปร้องต่อ  กมธ.จริยธรรมของสภา เพราะเคยร้อง ส.ส.หลายคน แต่ก็ไม่ได้ปรากฏผลเป็นรูปธรรม เข้าใจว่าอาจเป็นเพราะ ส.ส.ด้วยกัน การทำงานก็อาจจะลูบหน้าปะจมูก ไม่กล้าที่จะลงโทษใดๆ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง