เฉ่งรัสเซียถล่มรพ.เด็ก! สหรัฐปัดมีอาวุธชีวภาพ

รุมประณามรัสเซียก่อ "อาชญากรรมสงคราม" โจมตีทางอากาศถล่มโรงพยาบาลเด็กในเมืองมาริอูโปลของยูเครน มีคนเสียชีวิต 3 คน รัสเซียโทษกองพันชาตินิยมยูเครนใช้โรงพยาบาลเป็นฐาน ซัดอเมริกันร่วมมือยูเครนพัฒนาอาวุธชีวภาพ สหรัฐย้อนรัสเซียกุเรื่อง หวั่นใช้เป็นข้ออ้างโจมตียูเครนด้วยอาวุธเคมีชีวภาพ

รายงานเอเอฟพีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม 2565 อ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สภาเมืองมาริอูโปล เมืองท่าในภาคใต้ที่โดนรัสเซียปิดล้อมโจมตีมานานหลายวันว่า รัสเซียโจมตีทางอากาศถล่มโรงพยาบาลแม่และเด็กในเมืองนี้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา คำแถลงทางเทเลแกรมเมื่อเช้าวันพฤหัสบดีระบุว่า มีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 3 คน หนึ่งในนี้เป็นเด็กผู้หญิง ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวว่า มีคนบาดเจ็บ 17 คน รวมถึงแพทย์หลายคน

"กองทัพรัสเซียกำลังทำลายประชากรพลเรือนของมาริอูโปลโดยเจตนาและไร้ความปรานี" สภาเมืองนี้กล่าว กระทรวงการต่างประเทศของยูเครนโพสต์วิดีโอที่เผยให้เห็นสภาพทำลายล้างของอาคารสูง 3 ชั้นที่หน้าต่างแตกกระจาย และกองเศษซากปรักหักพังเกลื่อนกลาด ยังมีวิดีโอของหน่วยกู้ภัยถ่ายจากจุดเกิดเหตุเผยการลำเลียงคนเจ็บออกมาจากอาคาร บางคนอยู่บนเปลหาม ใกล้กันมีซากรถยนต์ไหม้เกรียมหลายคน และหลุมลึกขนาดใหญ่มากใกล้กับอาคาร

ประธานาธิบดีเซเลนสกีแชร์ภาพวิดีโอการทำลายล้างโรงพยาบาลที่เพิ่งสร้างใหม่แห่งนี้ พร้อมกับประณามว่าเป็น "อาชญากรรมสงคราม"

"เราจะไม่ทำและไม่มีวันทำในสิ่งที่เหมือนกับอาชญากรรมสงครามแบบนี้ ไม่ว่าในเมืองใดของแคว้นโดเนตสค์หรือลูกานสค์ หรือในแคว้นไหนๆ เพราะเราเป็นคน แต่พวกคุณล่ะใช่มั้ย" เซเลนสกีตั้งคำถามเป็นภาษารัสเซีย "รัสเซียเป็นประเทศแบบไหนกันที่กลัวโรงพยาบาลและแผนกผดุงครรภ์ จนต้องทำลาย"

ทำเนียบขาวประณามการโจมตีโรงพยาบาลว่า เป็นการใช้กำลังทางทหารอย่าง "ป่าเถื่อน" กับพลเรือนผู้บริสุทธิ์ ส่วนนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ กล่าวถึงการโจมตีครั้งนี้ว่า "เลวทราม" นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ ของสเปนเรียกการโจมตีนี้ว่าเป็น "อาชญากรรมสงคราม" ขณะที่โฆษกองค์การสหประชาชาติกล่าวว่า สถานรักษาพยาบาลไม่ควรตกเป็นเป้าหมาย

ดมิตรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า รัฐบาลจะขอข้อมูลรายละเอียดที่ชัดเจนจากกองทัพ เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่นั่น แต่ก่อนหน้านั้น มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ไม่ได้ปฏิเสธเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าว โดยอ้างว่า กองพันชาตินิยมของยูเครนใช้โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นตำแหน่งยิงต่อสู้ หลังจากอพยพเจ้าหน้าที่และผู้ป่วยออกไปแล้ว

เซอร์เกย์ ลัฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย ย้ำคำกล่าวหานี้อีกครั้งภายหลังการเจรจากับดมิโตร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครนที่ตุรกีในวันพฤหัสบดีว่า กลุ่มชาตินิยมกองพันอาซอฟและกลุ่มหัวรุนแรงอื่นๆ ของยูเครนยึดครองโรงพยาบาลผดุงครรภ์แห่งนี้มานานแล้ว พวกเขาขับไล่หญิงตั้งครรภ์ที่มาคลอดบุตร, ขับไล่พยาบาลและเจ้าหน้าที่ออกไป ที่นี่เป็นฐานของกองพันอาซอฟที่หัวรุนแรงสุดโต่ง

เมื่อวันพุธ เซเลนสกีกล่าวว่า มีพลเรือนไม่ต่ำกว่า 35,000 คน สามารถอพยพออกจากเมืองที่โดนรัสเซียโจมตีอย่างหนัก ทั้งที่เมืองซูมี, อีเนอร์โฮดาร์ และพื้นที่รอบกรุงเคียฟ เขาหวังว่าการอพยพจะดำเนินต่อไปในวันพฤหัสบดี โดยเปิดเส้นทางเพิ่มอีก 3 เส้นทางที่เมืองมาริอูโปล, โวลโนวาคาในภาคตะวันออกเฉียงใต้ และอิเซียมในภาคตะวันออก

ความพยายามอพยพพลเรือนออกจากมาริอูโปลก่อนหน้านี้ล้มเหลว เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ผู้คนราว 500,000 คนอยู่โดยไม่มีแสงไฟ, น้ำดื่ม, เครื่องทำความร้อนและการสื่อสาร วาดิม บอยเชนโก นายกเทศมนตรีมาริอูโปลกล่าวเมื่อวันพุธว่า การถล่มทางอากาศอย่างไม่หยุดยั้งของรัสเซียในการล้อมโจมตีนาน 9 วัน ทำให้พลเรือนที่นี่เสียชีวิตแล้วมากกว่า 1,200 คน

ในพื้นที่ใกล้กรุงเคียฟ กองกำลังของรัสเซียกำลังรุกคืบอย่างรวดเร็ว โดยช่างภาพเอเอฟพีเห็นทหารรัสเซียเคลื่อนกำลังมาใกล้เมืองโบรวารี เมืองใหญ่ชานกรุงทางทิศตะวันออกไม่กี่กิโลเมตร ชาวเมืองและทหารอาสาของยูเครนเผยว่า กำลังเกิดการสู้รบอย่างดุเดือด กองกำลังยูเครนกำลังพยายามขับไล่รถถังของรัสเซีย

คณะเสนาธิการทหารยูเครนกล่าวเมื่อคืนวันพุธว่า รัสเซียยังคงปฏิบัติการเชิงรุกต่อไป เพื่อโอบล้อมกรุงเคียฟ พร้อมกันกับการเดินหน้าโจมตีเมืองอื่นๆ ทั่วประเทศ

สถานการณ์ในยูเครนซึ่งมีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ขนาดใหญ่หลายแห่ง ยังเพิ่มความหวาดกลัวต่ออุบัติเหตุนิวเคลียร์ หลังจากรัสเซียเข้ายึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เก่า เชอร์โนบิล ที่เคยเกิดอุบัติเหตุนิวเคลียร์เมื่อปี 2529 อย่างไรก็ดี หน่วยงานตรวจสอบขององค์การสหประชาชาติกล่าวเมื่อวันพุธว่า ยังไม่เห็นผลกระทบอันตรายต่อความปลอดภัยของเชอร์โนบิล แม้กระแสไฟฟ้าที่นั่นจะถูกตัด แต่หน่วยงานไม่ได้รับข้อมูลล่าสุดจากโรงงานนี้ รวมถึงโรงไฟฟ้าซาโอริซเซีย ที่รัสเซียเข้าควบคุม

อีกด้านหนึ่ง กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวหาสหรัฐว่าให้เงินทุนสนับสนุนการวิจัยพัฒนาอาวุธชีวภาพในยูเครน โดยอีกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงแถลงทางโทรทัศน์จากกรุงมอสโกเมื่อวันพฤหัสบดีว่า รัสเซียมีหลักฐานเกี่ยวกับกิจกรรมด้านชีวภาพทางทหารของสหรัฐ รวมถึงการขนย้ายวัสดุชีวภาพของยูเครนออกไปนอกประเทศ

 เขากล่าวว่า สหรัฐวางแผนทำการวิจัยเชื้อโรคในสัตว์ปีก, ค้างคาวและสัตว์เลื้อยคลาน รวมถึงโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรและแอนแทรกซ์ "ห้องปฏิบัติการทางชีวภาพที่จัดตั้งขึ้นและได้รับทุนในยูเครน กำลังทำการทดลองกับตัวอย่างไวรัสโคโรนาในค้างคาว" โคนาเชนคอฟกล่าว

ทั้งสหรัฐและยูเครนปฏิเสธว่าไม่มีห้องแล็บที่สร้างขึ้นเพื่อผลิตอาวุธชีวภาพในยูเครน เน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า รัสเซียจงใจแพร่กระจายเรื่องโกหกว่าสหรัฐและยูเครนกำลังทำกิจกรรมเกี่ยวกับอาวุธเคมีและชีวภาพ เพื่อพยายามหาความชอบธรรมให้แก่การกระทำที่น่ากลัวของตนในยูเครน

เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า คำกล่าวหานี้เลอะเทอะ "เราได้เห็นเจ้าหน้าที่ของจีนหลายคนสะท้อนทฤษฎีสมคบคิดเหล่านี้เช่นกัน" และตอนนี้ รัสเซียสร้างข้ออ้างเท็จเหล่านี้ขึ้น และพวกเราควรระวังว่ารัสเซียอาจใช้อาวุธเคมีชีวภาพในยูเครน หรือจัดฉากสร้างเรื่องขึ้นโดยใช้อาวุธเหล่านี้

รัฐบาลสหรัฐใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่อลงโทษรัสเซียและให้การสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครน แต่สหรัฐและนาโตยังคงปฏิเสธการกำหนดเขตห้ามบิน เมื่อวันพุธสหรัฐก็ไม่ตอบรับข้อเสนอของโปแลนด์ที่จะจัดส่งฝูงบินมิก-29 ให้แก่ยูเครนโดยผ่านฐานทัพอากาศสหรัฐในเยอรมนี เนื่องจากเกรงจะถูกดึงเข้าร่วมความขัดแย้งกับรัสเซีย แต่ต่อมามีรายงานว่า สหรัฐได้ส่งระบบมิสไซล์แพทริออตชนิดยิงจากพื้นสู่อากาศ 2 หน่วย ไปยังโปแลนด์ ตาม "คำเชิญ" ของประเทศยุโรปตะวันออกที่เป็นสมาชิกนาโตชาตินี้

อังกฤษก็เตรียมจะส่งระบบมิสไซล์แบบเคลื่อนย้ายได้ไปยังยูเครนเพิ่มเติมจากอาวุธต่อต้านรถถังมากกว่า 3,000 ชุดที่ส่งไปแล้ว ส่วนแคนาดารับปากช่วยเหลือด้านยุทโธปกรณ์มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์.