อุ้มดีเซลจนถึงที่สุด บิ๊กตู่พ้อโดนตีน้ำมันแพง กพช.ปลดล็อกเพดานกู้

“บิ๊กตู่” เซ็งพูดไปไร้ประโยชน์ถูกบิดเบือน แจงราคาน้ำมันกระทบทั่วโลก ยันตรึงราคาจนกว่าจะตรึงไม่ได้ เงินมีจำกัดใช้รับมือสุขภาพไปเยอะ หัวโต๊ะ "กพช." เคาะแผนผสมเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า ไฟเขียวใช้น้ำมัน-ก๊าซจากผู้นำเข้าราคาถูกที่สุด หวังลดต้นทุนเอฟที ชง ครม.ปลดล็อกเพดานเงินกู้กองทุนน้ำมัน พร้อมจับตา 11 มี.ค. คลอดแผนอุ้มพลังงานทั้งระบบ

ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 9 มีนาคม เวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 2/2565 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ร่วมกับ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง, นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยก่อนเริ่มการประชุม นายกรัฐมนตรีได้หารือนอกรอบกับนายสุพัฒนพงษ์บนตึกไทยคู่ฟ้า

จากนั้นเวลา 15.55 น. พล.อ.ประยุทธ์แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุม กพช. ว่าที่ประชุม กพช.ได้นำหลายเรื่องมาพิจารณารวม 7 วาระด้วยกัน อันแรกต้องทราบก่อนถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกวันนี้เป็นอย่างไร ซึ่งไม่ใช่น้ำมันดีเซลอย่างเดียว มีทั้งเบนซิน เอ็นจีวี แอลพีจี พันกันหมด จะต้องหามาตรการบริหารว่าจะทำอย่างไรที่จะเกิดผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุดเท่าที่รัฐบาลจะสามารถดำเนินการได้ ทั้งมาตรการด้านภาษี ด้านเงินจัดหามาทดแทนกองทุนพลังงานที่เรามีน้อยลงอย่างจำกัด ซึ่งได้มีสมมติฐานหลายประการ ทั้งราคาปัจจุบันจะเข้ามาอุดหนุนดูแลได้ถึงระยะเวลาเท่าไหร่ที่ไม่เกิน 30 บาท ถ้าสูงกว่านี้จะทำอย่างไร และหากสูงกว่านั้นอีกจะทำอย่างไรอีก  ท้ายที่สุดถ้าสูงขึ้นไปอีกก็จะต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันในตอนนั้น เพราะหลายประเทศได้รับความเดือดร้อนเช่นเดียวกัน ราคาน้ำมันหรือราคาแก๊สของไทยอยู่ในระดับต่ำถ้าเทียบกับอาเซียนทั้งหมด ต่ำในระดับที่ต่ำ แต่ไม่ได้ต่ำที่สุด เพราะบางประเทศมีแหล่งพลังงานภายในประเทศ ซึ่งตรงนี้ต้องเข้าใจกันด้วย

 “ฉะนั้นนายกฯ ไม่อยากจะพูดอะไรมาก พูดไปก็ถูกเอาไปบิดเบือนหมด พูดไปบางทีก็ไร้ค่าไร้ประโยชน์ เพราะไปจับแต่ประเด็นที่จะเป็นปัญหาออกไป” พล.อ.ประยุทธ์กล่าวพร้อมสูดหายใจอย่างแรง ก่อนจะถอนหายใจเหมือนเหนื่อยหน่าย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในเรื่องราคาน้ำมันจะมีการตรึงราคาหรืออย่างไรเพื่อช่วยเหลือประชาชน นายกฯ กล่าวว่า ตรึงจนกว่าจะตรึงไม่ได้เข้าใจหรือไม่ วันนี้ก็ตรึงไปก่อน 30 บาท จนกว่าจะไม่สามารถรับได้ ถ้าเกิน 130 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เกิน 150 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จะทำอย่างไร และถ้าถึง 180 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลจะทำอย่างไร ถ้าเปรียบเทียบระยะเวลาก่อนหน้านั้นหลายรัฐบาลที่ผ่านมาจะเห็นว่าสูงอยู่เหมือนกัน แต่เป็นการสูงระยะสั้น ไม่ใช่สูงแบบนี้ ซึ่งยังไม่มีแนวโน้มที่จะลดลงเลย ฉะนั้นการแก้ปัญหาต้องมีวิธีการที่แตกต่างกัน เพราะประเทศไทยเจริญเติบโตขึ้นมาเยอะ เทคโนโลยีก็เยอะ การใช้รถใช้พลังงานก็มากขึ้น ดังนั้นผลกระทบต้องมากขึ้นเป็นธรรมดา ปัญหาของเราคืองบประมาณที่มีอยู่จำกัด เนื่องจากสถานการณ์เราใช้ไปเรื่องสุขภาพเยอะพอสมควร รัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่แล้วในหลายมิติ ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน

เมื่อถามว่า ในส่วนของน้ำมันเบนซินจะดูแลอย่างไร "เขาบอกไปแล้วจะพิจารณาหามาตรการที่เหมาะสม เฉพาะดีเซลยังอาการหนักอยู่เลย เบนซินก็ต้องไปหาวิธีการจะเฉพาะกลุ่มอย่างไรหรือไม่ เข้าใจไหม" นายกฯ กล่าวพร้อมกับเดินออกจากโพเดียม

เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า นายกฯ ดูเหนื่อยๆ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์เดินกระทืบเท้าแรง พร้อมกล่าวว่า “ไม่เหนื่อยหรอกมั้ง”

ด้านนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในช่วงที่ราคาพลังงานผันผวน โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) จึงส่งผลให้ไฟฟ้าที่มาจากเชื้อเพลิงแอลเอ็นจีมีราคาสูงขึ้น ที่ประชุม กพช.มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์การดำเนินการเกี่ยวกับราคาก๊าซธรรมชาติใหม่ ที่เดิมสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เป็นผู้ดูแล โดยเปิดโอกาสให้นำราคาของผู้นำเข้าหลักที่มีสัญญาระยะยาว อาทิ กลุ่ม ปตท. หรือชิปเปอร์รายใหม่ อย่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่สามารถนำเข้าก๊าซได้ราคาถูกมาคิดเฉลี่ยกับต้นทุนแอลเอ็นจีเดิม (พูลแก๊ส)

"มองว่าการนำเข้าจากกลุ่มดังกล่าวมีราคาถูกกว่าต้นทุนแอลเอ็นจีที่ กกพ. ใช้คำนวณค่าไฟฟ้าอยู่ เพราะปัจจุบันราคาน้ำมันที่นำมาผลิตไฟฟ้านั้นถูกกว่าก๊าซธรรมชาติ จึงเปิดโอกาสให้โรงไฟฟ้าสามารถใช้เชื้อเพลิงจากชิปเปอร์ที่นำเข้าได้ถูก ทั้งแอลเอ็นจี น้ำมันดีเซล และน้ำมันเตามาผลิตไฟได้ ซึ่งจะสามารถช่วยลดภาระค่าไฟฟ้า (เอฟที) ที่ส่งผลถึงผู้ใช้ไฟฟ้าโดยตรง" นายกุลิศระบุ

นอกจากนี้ ที่ประชุม กพช.ยังได้มีมติเห็นชอบให้ปรับเพิ่มวงเงินลงทุนโครงการก่อสร้างคลังจัดเก็บและแปรสภาพก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี เทอร์มินอล) แห่งที่ 2 จังหวัดระยอง [T-2] ที่มอบหมายให้ บมจ.ปตท. ดำเนินการ จากเดิมวงเงิน 38,500 ล้านบาท เป็นวงเงินไม่เกิน 41,400 ล้านบาท เพื่อเร่งดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จเร็วกว่าแผนเดิมจากเดือน พ.ย.2565 มาเป็นเดือน พ.ค.65 ทำให้สามารถรองรับการนำเข้าแอลเอ็นจีได้เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านตันต่อปี เพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนก๊าซธรรมชาติจากการเปลี่ยนผ่านผู้รับสัมปทานแหล่งก๊าซธรรมชาติเอราวัณ รวมถึงความเสี่ยงจากสถานการณ์ในประเทศเมียนมา

นายกุลิศกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้รับทราบและแสดงความห่วงใยต่อวิกฤตราคาพลังงาน โดยขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตพลังงานที่ไม่สามารถจะประเมินได้ว่าจะยืดเยื้อไปนานแค่ไหน ซึ่งกระทรวงพลังงานได้ศึกษาแนวทางช่วยเหลือไว้เป็นกรณีๆ หากราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ 100-130 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จะทำอย่างไร ถ้าอยู่ที่ 131-150 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ต้องทำอย่างไร และถ้าราคาน้ำมันดิบเกินระดับ 150 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลขึ้นไป ต้องทำอย่างไร

"ต้องรอความชัดเจนในการแถลงมาตรการรับมือวิกฤตราคาพลังงานที่นายสุพัฒนพงษ์ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมาชี้แจงพร้อมเพรียงกันอีกครั้งในวันที่ 11 มี.ค.นี้” ปลัดกระทรวงพลังงานระบุ

สำหรับมาตรการอุดหนุนราคาก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือน (แอลพีจี) 45 บาท/3 เดือน/ถังขนาด 15 กิโลกรัม (กก.) ให้อยู่ที่ 318 บาท/ถัง 15 กก. ซึ่งจะสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2565 กระทรวงพลังงานมีแผนปรับขึ้น 15 บาท/ถัง 15 กก. มาอยู่ที่ 333 บาท/ถัง 15 กก. เนื่องจากราคาจริง ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 435 บาท/ถัง 15 กก. ซึ่งเป็นระดับที่สูงมากจนกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไม่สามารถแบกรับภาระได้ทั้งหมด ส่วนที่กระทรวงพลังงานจะอุดหนุนเพิ่มเติมอีก 55 บาท/ถัง 15 กก. รวมเป็น 100 บาท/ถัง 15 กก. อยู่ระหว่างหาแนวทางช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มเปราะบางหรือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานเตรียมนำเสนอเรื่องการปลดล็อกเพดานกู้เงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จากที่กำหนดเพดานกู้เงินไว้ไม่เกิน 40,000 ล้านบาท ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาวันอังคารหน้า เพื่อให้กองทุนมีความยืดหยุ่นและคล่องตัวในการบริหารจัดการ โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจาก ครม.ทุกครั้ง รองรับสถานการณ์ฉุกเฉินภายใต้วิกฤตพลังงาน

 “แม้จะปลดล็อกเพดานกู้เงินออกไป แต่เราก็ยังต้องคำนึงถึงวินัยการเงินและความสามารถในการชำระหนี้ ดังนั้นในใจเราก็ยังมีเพดานอยู่ที่ 40,000 ล้านบาท เพราะถ้ากู้เกินกว่านั้น กองทุนก็ไม่ไหว จะไม่มีความสามารถในการชำระหนี้เหมือนกัน” นายกุลิศกล่าว

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. กล่าวว่า ปกติใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้าแทนก๊าซธรรมชาติวันละ 10 ล้านลิตร/วัน คิดเป็น 300 ล้านลิตร/เดือน ซึ่งการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลและน้ำมันเตาที่ใช้ผลิตไฟฟ้าลงเหลือ 0% นาน 6 เดือน สิ้นสุด 15 ก.ย.2565 จะประหยัดเงินได้ 4 บาท คิดเป็นเงินประมาณกว่า 4,000 ล้านบาท ทำให้ต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าลดลงได้ประมาณ 6 สตางค์/หน่วย

 “การลดหย่อนภาษีลงเหลือ 0% จะนำมาใช้คำนวณต้นทุนค่าไฟทันการพิจารณางวดเดือน พ.ค.-ส.ค.2565 หรือไม่ ขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันดิบตลาดโลกว่าจะสูงขึ้นไปอยู่ที่ระดับใด ถ้าราคาน้ำมันดิบขึ้นไปแตะ 300 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล การลดภาษีส่วนนี้ก็ไม่มีผลช่วยลดต้นทุนค่าไฟ” นายคมกฤชกล่าว

วันเดียวกัน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งวอร์รูมเกาะติดสถานการณ์ราคาสินค้ารายวัน รับมือผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยมีปลัดกระทรวงเป็นประธาน และรายงานให้ตนทราบทุกวัน สิ่งที่เป็นห่วงคือ ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นจะมีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต การขนส่ง ซึ่งให้เข้าไปดูรายการสินค้าต่างๆ อย่างใกล้ชิด ที่ผ่านมา 18 หมวดสินค้าสำคัญเราตรึงราคาไว้ไม่อนุญาตให้ขึ้นราคา รวมทั้งราคาอาหารสดที่จำเป็นก็ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟ้องต้นตอหมอคางดำ

สภาทนายความฯ เตรียมฟ้องแพ่งบิ๊กเอกชน-หน่วยงานรัฐ ต้นตอ "เอเลี่ยนสปีชีส์"

‘เนวิน’รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดมิวสิคัลเทิดพระเกียรติ

“เนวิน” รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” โดยบุรีรัมย์ออร์เคสตรา แสดงความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.2567 สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์