กินเลี้ยงสยบยุบสภา ‘บิ๊กตู่’เจ้าภาพพรรคร่วม พท.ตีปี๊บซักฟอกนายกฯ

บิ๊กตู่นัดรัฐมนตรีพรรคร่วมทานอาหารค่ำกระชับสัมพันธ์ที่ราชพฤกษ์ “เสี่ยหนู-ลูกท็อป” เชียร์เป็นเรื่องที่ดี เล็งชงสลับหมุนเวียนเป็นเจ้าภาพ  ชี้เป็นแค่เรื่องกระชับมิตร ไม่เกี่ยวกระแสยุบสภาหรือลอยแพพลังประชารัฐ  “นายกฯ” หงุดหงิดสื่อจ้องถามแต่เรื่องความขัดแย้ง ยุบ-ไม่ยุบ “เพื่อไทย” ตีปี๊บอภิปรายพุ่งเป้าเรื่องทุจริตเอื้อประโยชน์มากกว่าการบริหาร เลือกตีรายบุคคล เน้น “นายกฯ” เป็นเป้าหลัก

เมื่อวันอังคารที่ 8 มีนาคม มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่น่าสนใจ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้จัดงานเลี้ยงหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคที่ร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะที่อยู่ในคณะรัฐมนตรี (ครม.) เท่านั้น ในเวลา 18.00 น. ที่สโมสรราชพฤกษ์ ถนนวิภาวดีรังสิต ทำให้นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) ระบุว่าไม่ทราบเรื่อง และไม่ได้รับการประสานมา  เช่นเดียวกับนายชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท ที่บอกเช่นกันว่าไม่ได้รับการติดต่อมาเช่นกัน

ในขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวสั้นๆ ว่า ก็กินข้าวเฉยๆ จะไปเลี้ยงใครเล่า ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ตอบคำถามถึงการไม่ได้เชิญนายเทวัญและนายชัชวาลล์ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วย

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ตอบคำถามสื่อมวลชนตามที่ พล.อ.ประยุทธ์มอบหมาย ถึงการจัดเลี้ยงมาจากกระแสข่าวพรรคร่วมรัฐบาลลอยแพพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า  ไม่ใช่ ไม่มี เป็นการปรึกษางานตามปกติในบรรยากาศที่ไม่ใช่การประชุม ไม่เกี่ยวกับการเมือง ไม่สนใจใครลอยแพหรือไม่อย่างไร  

ทั้งนี้ ในช่วงก่อนประชุม ครม. พล.อ.ประวิตรไม่ตอบคำถามถึงการรับประทานอาหารร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ เพียงแต่พยักหน้ารับเท่านั้น และเมื่อถามว่าจะมีชื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย มาร่วมรับประทานอาหารด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรไม่ตอบคำถามดังกล่าว แต่ขึ้นรถไปประชุม ครม.ทันที

ต่อมาในช่วงเย็น พล.อ.ประวิตรตอบคำถามเรื่องนี้ในข้อถามว่ามีการเชิญพรรคเศรษฐกิจไทยด้วยหรือไม่ โดย พล.อ.ประวิตรย้อนว่า “พลังประชารัฐเขายังไม่เชิญไม่ใช่หรือ เห็นบอกว่าลอยแพ” เมื่อถามว่าแล้ว พล.อ.ประวิตรจะไปร่วมงานด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไป สื่อเป็นคนเขียนไม่ใช่หรือว่าลอยแพพรรคพลังประชารัฐ เห็นมีการเขียนอยู่

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวเรื่องนี้ว่า เพิ่งได้รับการประสานมาเมื่อวันที่ 7 มี.ค.ช่วงเย็นๆ โดยนายกฯ ได้ให้นายทหารคนสนิทประสานมา ซึ่งยังไม่ทราบรายละเอียดอะไร แต่เป็นการเชิญหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเห็นว่าเป็นเรื่องดี เพราะพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้เจอกันนานแล้ว

เมื่อถามว่า งานเลี้ยงครั้งนี้ถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์ของพรรคร่วมให้มั่นคงยิ่งขึ้นหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ความสัมพันธ์ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องกระชับ คิดว่าเป็นการอัปเดตซึ่งกันและกันมากกว่าว่าใครไปทำอะไรมาบ้าง ใครกำลังทำอะไร หรือใครอยากทำอะไรต่อไปก็ดี ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี

ชงหมุนเวียนเป็นเจ้าภาพ

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นการส่งสัญญาณว่าจะผ่านการอภิปรายไปด้วยกันใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า โดยสปิริตของการร่วมรัฐบาลก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ไม่ต้องคอนเฟิร์มหรอก เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ยกเว้นว่าคนที่ถูกอภิปรายไม่สามารถตอบคำถามได้ หรือทำสิ่งใดที่เป็นสิ่งที่ร้ายต่อบ้านเมือง ทุจริตคดโกง อย่างนี้ก็ไม่ต้องประชุมเหมือนกัน เราก็สวนเหมือนกัน ซึ่งวิญญูชนก็ต้องเข้าใจด้วยว่าสปิริตแปลว่าอะไร หนุนในสิ่งที่ดี ค้านในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่ยาก

ถามอีกว่า งานเลี้ยงวันนี้เป็นการเชิญพรรคร่วมรัฐบาล มีพรรคเศรษฐกิจไทยรวมอยู่ด้วยหรือไม่ นายอนุทินระบุว่า ไม่ทราบ ต้องถามเจ้าภาพ แต่ถือว่าดีถ้ามีแบบนี้บ่อยๆ มันก็กระชับความสัมพันธ์ การทำงานที่ไหนก็ต้องกระชับความสัมพันธ์ อาจจะเสนอให้สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ จะได้มีการพบปะกันในลักษณะที่ไม่ใช่อยู่ในเนื้องานมากขึ้น เพราะปกติทุกวันนี้ที่พบปะกันก็เป็นในการประชุมหรือเจอกันตามงานต่างๆ เวลาพูดอะไรกันบางทีก็ไม่ได้เตรียมตัวกัน

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา​ (ชทพ.) ​กล่าวว่า น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค ได้มอบหมายให้ตนและนายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรฯ ในฐานะเลขาธิการพรรค ไปเข้าร่วมรับประทานอาหารเย็นตามคำเชิญของนายกฯ เชื่อว่าการพบปะกันครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการทำงานร่วมกัน เพราะพรรคร่วมรัฐบาลเองไม่ได้พบปะพูดคุยรับประทานอาหารร่วมกันมาระยะหนึ่งแล้ว

“การที่นายกฯ เชิญครั้งนี้ จะได้คุยกันนอกรอบ หรือปรับความเข้าใจ หรือถ้ามีประเด็นใดก็จะได้พูดคุยหารือกัน เพราะอนาคตข้างหน้าหากมีปัญหาใดเข้ามาจะได้ช่วยกันแก้ไข แต่ส่วนตัวไม่มีประเด็นใดไปหารือกับนายกฯ หรือพรรคร่วมรัฐบาล​ เพราะ ​ชทพ.เราทำงานเต็มที่ และมั่นใจในการทำงานกับรัฐบาล” นายวราวุธกล่าว

เมื่อถามว่า การพบปะครั้งนี้มีนัยทางการเมืองหรือไม่ เพราะเป็นการนัดท่ามกลางกระแสรัฐบาลระส่ำระสาย​ นายวราวุธย้ำว่า คงให้คำตอบเหมือนเดิมว่ารัฐบาลถูกคาดการณ์ว่าระส่ำกันมาตั้งแต่ปีแรก ถ้าจะถามว่าการรับประทานอาหารเย็นนี้จะเป็นการส่งสัญญาณอะไรนั้น คงเป็นการส่งสัญญาณว่าการทำงานของรัฐบาลยังอยู่ในเรือลำเดียวกัน หากเครื่องยนต์กลไกส่วนไหนเสีย หรือมีส่วนไหนรั่ว ก็เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่จะต้องช่วยกันปะผุ นำพารัฐนาวานี้ไปให้ถึงฝั่ง และยังมั่นใจว่ารัฐนาวานี้จะไปถึงฝั่ง และในที่สุดแล้วนายกฯ จะเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าจะยุบหรือไม่ยุบ แต่วันนี้นายกฯ ยังให้สัญญาณด้วยความมั่นใจอยู่ว่ายังเดินหน้าเต็มที่ในการที่จะพาไปถึงฝั่ง

ขณะที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวถึงกระแสลอยแพพรรคว่า คงไม่ใช่ เพราะ พปชร.เป็นแกนนำรัฐบาล คงไม่มีใครมาลอยแพพรรคแกนนำรัฐบาล ส่วนการนัดทานข้าวและพูดคุยของนายกฯ ไม่ทราบรายละเอียด น่าจะเป็นเรื่องของหัวหน้าพรรคที่จะพูดคุยกัน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดี เพื่อที่จะได้รับฟังปัญหาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ทำให้การทำงานมีความราบรื่น การทำงานจะได้ดีขึ้น เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน แม้ที่ผ่านมาพรรคร่วมรัฐบาลก็มีการพูดคุยกันมาโดยตลอด ไม่มีปัญหาอะไร ถือเป็นเรื่องปกติ

เมื่อถามว่า ทำไมการนัดหารือกันครั้งนี้ไม่มีรัฐมนตรีหรือ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลร่วมด้วย นายชัยวุฒิกล่าวว่า เป็นการนัดกันระหว่างหัวหน้าพรรคและแกนนำ ส่วนที่ไม่ได้เชิญบุคคลอื่นร่วมด้วยอาจมีข้อจำกัดในเรื่องจำนวนคน ที่ไม่ต้องการให้มีการรวมตัวจำนวนมาก เพราะเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ครั้งนี้ไม่ใช่การเลี้ยงสังสรรค์ที่มีคนจำนวนมากอย่างที่เข้าใจ เป็นเพียงการนัดพูดคุยกันเหมือนการประชุมกันมากกว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่า นอกเหนือจากการนัดพูดคุยกันแล้วครั้งนี้ ถือเป็นการเช็กเสียงด้วยหรือไม่ก่อนเปิดสภาในเดือน พ.ค. นายชัยวุฒิตอบว่า เป็นเพียงกระแสของคนที่พูดไป ซึ่งอาจเห็นแตกต่างกันไปบ้างแต่พรรคร่วมรัฐบาลก็ได้พูดคุยกันมาโดยตลอดอยู่แล้ว และมั่นใจว่าจะอยู่ครบเทอม ไม่เกี่ยวกับการกระชับความสัมพันธ์หรือกลัวการยุบสภา ไม่ใช่ประเด็นนี้

 “เรื่องยุบสภาไม่มีหรอก เป็นเพียงการคาดการณ์ของคนบางคน ซึ่งเท่าที่ได้คุยกับผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้นำพรรคต่างๆ ยังตั้งใจทำงานและขับเคลื่อนให้อยู่ครบเทอม ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร และยืนยันว่าไม่มีเรื่องการยุบสภา” นายชัยวุฒิกล่าว

ท็อปมาคนแรกประภัตรคนท้าย

นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจไทย กล่าวถึงงานเลี้ยงนี้ว่า ไม่รู้เหมือนกันว่าพรรคได้รับเชิญหรือไม่

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า เป็นเรื่องความเป็นปึกแผ่นของเสียงที่จะสนับสนุนรัฐบาลมากกว่า จะมีกลไกอะไรให้ชัดว่าเราจะอยู่กันได้ เมื่อต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ร่วมกัน เขาก็จะหันหน้ามาช่วยกัน น่าจะเป็นเรื่องนี้มากกว่า

และเมื่อเวลา 17.47 น. นายวราวุธเดินทางมาถึงเป็นคนแรก จากนั้นเวลา 17.56 น. นายอนุทินเดินทางมาถึงเป็นคนที่ 2 ก่อนที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ปชป. เดินทางมา

ต่อมาเวลา 18.09 น. พล.อ.ประวิตร, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค ภท.เดินทางมา และเวลา 18.20 น. พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินทางมาถึง โดยมีนายอนุทินออกมาต้อนรับ ทั้งนี้ นายกฯ สวมเสื้อสูททับเชิ้ตสีขาวมาร่วมงาน และนายประภัตรเดินทางมาเป็นคนสุดท้ายเมื่อเวลา 18.30 น.

มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในช่วงท้ายการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์มีอาการหงุดหงิดหลังเห็นคำถามที่สื่อมวลชนส่งมา โดยบ่นกับที่ประชุมว่า “นักข่าวชอบถามแต่ว่าจะยุบสภามั้ย ใครทะเลาะกับใคร สนใจแต่พรรคร่วมตีกันมั้ย แต่ไม่สนใจข่าวอย่างอื่น”       

นายธนกรตอบคำถามสื่อมวลชนตามที่ พล.อ.ประยุทธ์มอบหมายถึงกรณีพรรค พท.ออกมาดักคอว่านายกฯ จะชิงยุบสภาก่อน 22 พ.ค. เพื่อหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า นายกฯ ชี้แจงว่าไม่มีคำตอบ ใครจะพูดอะไร ไม่มี ไม่ฟัง เป็นอำนาจของนายกฯ และเดี๋ยวนายกฯ พูดก็เป็นประเด็นอีก

เมื่อถามอีกว่า การออกมาดักคอลักษณะนี้ เพราะต้องการบีบ พล.อ.ประยุทธ์ให้เข้าสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายธนกรกล่าวว่า นายกฯ ชี้แจงว่าเป็นเรื่องของ ส.ส. สภาจะพิจาณา นายกฯ อยู่เพื่อประชาชน ทำงานเพื่อชาติ เพื่อประชาชน ก็แล้วแต่สภาและประชาชนคนไทยทั้งประเทศ

ถามว่า นายกฯ ยังมั่นใจตัวเลข 260 เสียง ที่นายอนุทินระบุมีเพียงพอสนับสนุนรัฐบาลหรือไม่ นายธนกรกล่าวว่า นายกฯ ระบุว่าไม่มีคำตอบ เป็นเรื่องของ ส.ส. ประชาชนที่รับฟังการอภิปรายอยู่

ส่วน นพ.ชลน่าน กล่าวถึงการพิจารณายื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ยืนยันว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจให้เร็วที่สุดหลังจากเปิดสมัยประชุมสภาวันที่ 22 พ.ค. เว้นแต่มีเรื่องที่ต้องเข้าสู่สภา ซึ่งจะกระทบกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เช่น ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ หรือกรณีร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2566 ต้องนำมาประกอบการตัดสินใจอีกครั้ง แต่เราจะทำให้เร็วที่สุด

เน้นเรื่องทุจริต

"สำหรับข้อกล่าวหาจะต้องเป็นเรื่องของความเสียหายในการบริหารราชการแผ่นดิน เช่น การทุจริตคอร์รัปชัน การเอื้อประโยชน์ การแสวงหาผลประโยชน์ การอนุมัติจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่างๆ เราจะเจาะเลยว่าใครได้ใครเสีย เป็นข้อกล่าวหาที่ชัดเจน ส่วนการบริหารราชการผิดพลาดล้มเหลวจะเป็นประเด็นรอง โดยแต่ละพรรคจะมีของอยู่ ไม่ต้องเยอะมาก แต่ขอให้เป็นหมัดเด็ด แค่ไม่กี่เรื่องก็จะทำให้สมาชิกที่ยกมือไม่กล้าปฏิเสธ" นพ.ชลน่านกล่าว

เมื่อถามถึงความมั่นใจของฝ่ายค้านที่ต้องใช้เสียงล้มรัฐบาลเกิน 238 เสียง นพ.ชลน่านกล่าวว่า มติไม่ไว้วางใจรัฐบาลต้องเกินกึ่งหนึ่งคือ 238 เสียง เมื่อดูจากสถานการณ์และท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว ท่าทีของพรรค พปชร.ที่แตกแยกออกไป เป็นไปได้สูงที่เราจะมีโอกาส สมมติว่าทุกฝ่ายเห็นว่าต้องใช้กลไกสภาที่จะยุติกลไกการบริหารราชการแผ่นดินของ พล.อ.ประยุทธ์และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ต้องเป็นคนแรกที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนรัฐมนตรีท่านอื่นจะว่ากันอีกที โดยจะยื่นไม่ไว้วางใจเป็นรายบุคคล และเมื่อดูจากสถานการณ์ทั้งราคาน้ำมันแพง โควิดระบาด จะทำให้ประชาชนถึงจุดเดือดและอาจระเบิด และมีผลกดดันพรรคร่วมรัฐบาล พรรคที่แยกออกมาหรือพรรคเล็ก อาจช่วยเทเสียงให้พรรคร่วมฝ่ายค้านซึ่งมีอยู่ 208 เสียง ขาดอีก 31 เสียง ซึ่งไม่ยาก

วันเดียวกัน ที่ทำการพรรคเศรษฐกิจไทย อาคารยูทาวเวอร์ ศรีนครินทร์ ได้มีการประชุม ส.ส.พรรคเพื่อกำหนดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 โดยพล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา สมาชิกพรรคร่วมด้วย ทั้งนี้ ได้มีกำหนดวาระการประชุมใหญ่ โดยจะแก้ไขข้อบังคับพรรค เลือกคณะกรรมการบริหารพรรคจำนวน 26 คน เลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส. และเปิดโลโก้พรรค ขณะที่ตำแหน่งสำคัญยังเป็นไปตามที่มีกระแสข่าว โดย พล.อ.วิชญ์จะมาเป็นหัวหน้าพรรค ส่วนเลขาธิการพรรค เป็น ร.อ.ธรรมนัส

นายบุญสิงห์กล่าวว่า พรรคจะจัดประชุมใหญ่ในวันศุกร์ที่ 18 มี.ค.นี้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟ้องต้นตอหมอคางดำ

สภาทนายความฯ เตรียมฟ้องแพ่งบิ๊กเอกชน-หน่วยงานรัฐ ต้นตอ "เอเลี่ยนสปีชีส์"

‘เนวิน’รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดมิวสิคัลเทิดพระเกียรติ

“เนวิน” รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” โดยบุรีรัมย์ออร์เคสตรา แสดงความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.2567 สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์