2 พ.ย.2564 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีการประชุมคดีพิจารณาสำนวนที่อัยการสูงสุด ฟ้องนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กับพวก รวม 87คนในข้อหา แตกต่างกันสรุปรวมว่า ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐทุจริตในการร่วมกันออกแบบ กำหนดเงื่อนไขอันเป็นมาตรฐานในการเสนอราคาโดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม, เป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐร่วมกันกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยรัฐ หรือกระทำการใดๆ โดยมิได้มุ่งหมายแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม
เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองร่วมกระทำความผิดการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ, เป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐมีอำนาจหน้าที่ในการอนุมัติพิจารณาหรือดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอราคาครั้งใด รู้หรือมีพฤติการณ์แจ้งชัดว่าควรรู้ว่าการเสนอราคาในครั้งนั้นมีการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยรัฐ เพื่อให้มีการยกเลิกการดำเนินการเกี่ยวกับเสนอราคาในครั้งนั้น, เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด ร่วมกันใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่งโดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ, เป็นเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ทำเอกสาร หรือกรอกข้อความลงในเอกสารในการปฏิบัติการตามหน้าที่รับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้น หรือว่ากระการอย่างใดต่อหน้าที่ของตนอันเป็นเท็จ, ร่วมกันใช้อุบายหลอกลวงหรือกระทำการโดยวิธีอื่นใดเป็นเหตุให้ผู้อื่นไม่มีโอกาสได้เสนอราคาอย่างเป็นธรรม
ตกลงร่วมกันเสนอราคาเพื่อวัตถุประสงค์เพื่อจะเป็นประโยชน์แก่ผู้หนึ่งผู้ใด เป็นผู้มีสิทธิในการทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐโดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม, ร่วมกันใช้เอกสารราชการปลอม, ร่วมกันปลอมเอกสาร, ร่วมกันใช้เอกสารปลอม, สนับสนุนเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าพนักงานของรัฐในการทำหน้าที่โดยทุจริต, พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 10, 11, 12, 13, พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157, 162, 264, 265, 268, 83, 86, 91
ในคดีทุจริตสนามฟุตซอลโรงเรียนในจังหวัดนครราชสีมา ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
โดยคดีนี้ทาง ป.ป.ช.ได้ส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมชี้มูลความผิดนายวิรัชสมัยเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย ร่วมกันกับพวก รวม 87 คน ทุจริตเงินจัดสรรงบประมาณปี พ.ศ.2555 จัดสร้างสนามฟุตซอลให้กับโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษา 18 จังหวัด มูลค่า 4,459 ล้านบาท รวมทั้งโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษา เขต 2 จ.นครราชสีมาด้วย แต่ปรากฏว่าการสร้างสนามฟุตซอลใน จ.นครราชสีมา กลับสร้างไม่ได้มาตรฐาน ไม่สามารถใช้งานได้
โดยวันนี้องค์คณะผู้พิพากษาพิจารณาสำนวนแล้วมีคำสั่งประทับรับฟ้อง ซึ่งตามวิ.อม.บัญญัติไว้ว่าหากศาลประทับฟ้องแล้วให้จำเลยยุติปฏิบัติหน้าที่เว้นแต่ศาลมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ฉะนั้นจำเลยที่มีตำแหน่งหน้าที่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งศาล
โดยศาลนัดพิจารณาคดีนัดแรกวันที่ 20 ธ.ค.(สอบคำให้การ) เวลา 9.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเท่ากับภายหลังมีคำสั่งวันนี้นายวิรัชต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' รับไม่ขอเสี่ยงปม 'ลุงชาญ' ยึดความเห็นเลขาฯกฤษฎีกา ชี้ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีนายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้ชนะการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ.จังหวัดปทุมธานี จะขัดกฎหมายตามม.157 หรือไม่
'ปิยบุตร' แนะ 'ชาญ พวงเพ็ชร์' ใช้สปิริตลาออก เหตุระบบกฎหมายตอนนี้มันลักลั่น
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวถึงผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (อบจ.ปทุมธานี) ว่า ตัวเลขออกมาแล้ว ไม่ว่าจะชนะมากหรือน้อย จะขาดหรือไม่ขาด ก็เป็นผลการเลือกตั้งที่ประชาชนตัดสินใจมา
'ชูศักดิ์' เผยรอศาลสั่ง 'ชาญ' หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ เห็นแย้งเลขาฯ ป.ป.ช. โยนมหาดไทย
นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายชาญ พวงเพ็ชร์ ว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนจ.ปทุมธานี ถูกร้องเรียนเรื่องทุจริตและศาลรับฟ้องแล้วจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ว่า ในความเห็นตนคิดว่าเรื่องที่กฤษฎีการะบุว่า
ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ชี้แจงกองทุนพัฒนาสื่อฯ มีกระบวนการและพิจารณาทุนโปร่งใส มีธรรมาภิบาล พร้อมร่วมมือตรวจสอบ
(3 กรกฎาคม 2567) ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ชี้แจงกรณีตามที่มีข่าวผู้รับทุนยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท.
ป.ป.ช.รอตรวจสอบ ปมบ้านหรู 'บิ๊กต่อ' ส่วนคดี 'บิ๊กโจ๊ก' รอสำนวนครบแล้วทำพร้อมกัน
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยถึงกรณีตรวจสอบทรัพย์สินบ้านหรู ที่ประเทศอังกฤษ ของ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจ
เลขาฯ ป.ป.ช. แจงปมชี้มูล 'ชาญ พวงเพ็ชร์' ทุจริตซื้อถุงยังชีพ
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีนายชาญ พวงเพ็ชร์ ชนะการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อปจ.) ปทุมธานี