โควิดโลกทะลุ 243 ล้าน! 'หมอธีระ' ยกคาถา 'อัตตาหิ อัตตโน นาโถ' รับ 46 ประเทศ

หมอธีระ’ ห่วงไทยเปิดประเทศรับท่องเที่ยว 46 ชาติ เพิ่มปัจจัยเสี่ยงระบาดโควิดมากขึ้น เตือนคนไทยยึดคาถา ‘อัตตาหิ อัตตโน นาโถ’ อย่าประมาทใช้ชีวิต

22 ต.ค. 2564 – รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ทะลุ 243 ล้านไปแล้ว เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 446,983 คน ตายเพิ่ม 6,864 คน รวมแล้วติดไปรวม 243,228,136 คน เสียชีวิตรวม 4,944,429 คน

5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุด ยังเป็นเช่นเดิมคือ อเมริกา สหราชอาณาจักร รัสเซีย ตุรกี และยูเครน จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 93.43 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 89.86

…สำหรับสถานการณ์ไทยเรา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 9,727 คน สูงเป็นอันดับ 11 ของโลก แต่หากรวม ATK อีก 2,161 คน จะทำให้ยังคงเป็นอันดับ 10 ของโลก และไม่ว่าจะเป็นแค่ยอดที่รายงานทางการ หรือจะรวม ATK ก็ยังคงเป็นอันดับ 1 ของอาเซียนอย่างต่อเนื่อง

…บทเรียนจากเมือง Provincetown รัฐ Massachusetts ประเทศสหรัฐอเมริกา Siddle KJ และคณะ ได้เผยแพร่งานวิจัยเกี่ยวกับสถานการณ์ระบาดในเมือง Provincetown ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยมีประชากรในเมืองราว 3,000 คน ในช่วงกรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นช่วงฤดูร้อน และมีกิจกรรมรวมกลุ่มต่างๆ มากมายหลายอย่าง จนทำให้เกิดการระบาดใหญ่ขึ้นมามีคนติดเชื้อไปกว่า 1,000 คน ที่สำคัญคือ คนติดเชื้อส่วนใหญ่นั้นได้รับวัคซีนครบโดสไปแล้ว และคนติดเชื้อจำนวนมากมีอาการป่วยด้วย

นี่เป็นเหตุการณ์หนึ่งที่เป็นตัวกระตุ้นให้ฝ่ายนโยบายหันกลับมาพิจารณาเรื่องนโยบายการใส่หน้ากาก รวมถึงมาตรการควบคุมป้องกันการติดเชื้อให้เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดเชื้อได้แม้ได้รับวัคซีนไปครบแล้ว

สิ่งที่น่าสนใจคือ ปรากฏการณ์ระบาดในเมือง Provincetown นี้ พอมีการศึกษารายละเอียด ก็พบว่าไม่ได้ระบาดจากแหล่งใดแหล่งหนึ่ง หรือเคสใดเคสหนึ่ง เหมือนที่เราคุ้นเคยจากประวัติการระบาดครั้งก่อนๆ ในอดีต

แต่เป็นการระบาดที่เกิดขึ้นจากหลายที่พร้อมๆ กัน ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน อันเป็นผลมาจากเหตุการณ์ติดเชื้อแพร่เชื้อในสถานที่เสี่ยง กิจกรรมเสี่ยง และคนมีพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ราว 25 เหตุการณ์

ผลการศึกษานี้สะท้อนให้เราตระหนักถึงความจริงที่ว่า ตราบใดที่ยังมีโรคระบาดกระจายอยู่ทั่ว และมีจำนวนมาก แม้จะได้รับวัคซีนไปครบ แต่หากไม่ป้องกันให้เคร่งครัด ก็จะเกิดการติดเชื้อจำนวนมากจากพฤติกรรมเสี่ยงในแต่ละสถานที่หรือแต่ละกิจกรรมได้

…ไทยเราจะเป็นอย่างไร? สถานการณ์ระบาดราวหลักหมื่นต่อวัน โดยที่ระบบการตรวจคัดกรองโรคนั้นจำกัด และวัคซีนก็ยังไม่ครอบคลุม และยังคงมีคำถามเชิงวิชาการเกี่ยวกับประสิทธิภาพจากความหลากหลายของสูตรต่างๆ ที่มีอยู่มาก

หลังเปิดประเทศ รับ 46 ประเทศให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้นั้น สิ่งที่จะตามมาคือ กิจการกิจกรรมต่างๆ จะมีมากขึ้นอย่างแน่นอน

จำนวนคนที่มากขึ้นในพื้นที่ (number) จำนวนการพบปะติดต่อสื่อสารและสังสรรค์กันจะเพิ่มขึ้น รวมถึงการค้าขายและบริการรูปแบบต่างๆ (frequency of contact) โอกาสใกล้ชิดกันจะมากขึ้นทั้งระยะและระยะเวลาที่ใช้ร่วมกัน (closeness and duration)

ตามหลักวิชาการแพทย์ เหล่านี้เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการระบาดที่จะทวีความรุนแรงขึ้น ดังนั้นจึงต้องไม่ประมาทในการใช้ชีวิต และป้องกันตนเองและครอบครัวอย่างเคร่งครัด อยู่ห่างกันเกิน 1 เมตร จะลดอัตราติดเชื้อไปได้ 5 เท่า

นอกจากนี้ จะลืมอะไรก็ตาม…ห้ามลืมใส่หน้ากากครับ “อัตตาหิ อัตตโน นาโถ” ด้วยรักและห่วงใย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอยง' ชี้สถานการณ์โควิดเปลี่ยนตามกาลเวลา ปีนี้ยุติแล้ว แต่ไวรัสยังอยู่ต่อไป

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า 5 ปี โควิด 19 กาลเวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน

โควิดกลับมาระบาดใหม่ ‘หมอมนูญ’  ขออย่าตื่นตระหนก รักษาตามอาการหายได้

เวลาผ่านไปโรคโควิดลดความรุนแรงลง โรคโควิดไม่น่ากลัวหมือนเมื่อ 3-4 ปีก่อน คนไทยไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจกลัวโรคโควิดมากเกินไป

สายการบิน 'ลุฟท์ฮันซา' ต้องจ่ายค่าปรับกรณีเลือกปฏิบัติต่อผู้โดยสารชาวยิว

สายการบินลุฟท์ฮันซาต้องจ่ายค่าปรับจำนวน 4 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐอเมริกา เหตุเพราะในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดขอ