กระแสข่าวการปรับ ครม. หลังสงกรานต์ ไม่ได้เกิดขึ้นลอย ๆ แต่สะท้อนแรงสั่นสะเทือนที่เริ่มชัดในรัฐบาล ทั้งจากภายในพรรคเพื่อไทยเอง และเสียงวิจารณ์จากคนในสังคมที่เริ่มจับตาว่าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้ กำลังไปไม่รอด
ท่ามกลางกระแสเหล่านั้น แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตอบสื่อด้วยคำว่า “ใด ๆ ในโลกล้วนอนิจจัง แม้แต่ตำแหน่งนายกฯ” พร้อมยืนยันว่า “ยังไม่ได้คิดจะปรับ” และ “ยังไม่ตกผลึก”
คำพูดนี้ในทางการเมือง มันสะท้อนว่ารัฐบาลยังไม่กล้าบอกตรงๆ ว่าจะทำอะไรต่อ และนายกฯ เองก็ยังไม่มั่นใจพอจะประกาศท่าทีให้ชัด ว่าคิดอย่างไรกับเสียงเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวรัฐมนตรีบางคน
โดยเฉพาะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ที่ถูกพูดถึงอย่างหนัก ทั้งจากผลโพลและจากเสียงภายในพรรคเพื่อไทย แต่คำตอบจากรัฐบาลยังวนเวียนกับคำว่า “ยัง” อยู่เหมือนเดิม
เมื่อถูกถามถึงกระแสข่าวว่าอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร อยากให้ปรับ ครม. คำตอบของแพทองธารคือ “เห็นต่างกันตลอด แต่ยังไม่ถึงขั้นมีปัญหากัน” ก่อนจะย้อนถามนักข่าวกลับว่า “พ่อให้สัมภาษณ์หรือ”
ประโยคนี้ตอกย้ำภาพเดิมที่สังคมรับรู้กันอยู่แล้วว่า คนที่มีอำนาจจริงในการตัดสินใจเรื่องใหญ่อย่างการปรับ ครม. ไม่ใช่นายกฯ ตามตำแหน่ง แต่คือพ่อที่ไม่ได้มีตำแหน่งใดในรัฐบาล
ทักษิณไม่ต้องพูดอะไรออกสื่อ แต่ชื่อของเขาก็ยังเป็นสิ่งที่นักข่าวต้องถามถึงทุกครั้งที่มีข่าวเปลี่ยนตัวรัฐมนตรี และนั่นทำให้คนทั้งประเทศรู้โดยไม่ต้องตีความว่า ใครกันแน่ที่กำหนดทิศทางของรัฐบาลชุดนี้
ในขณะเดียวกัน รัฐบาลก็เลือกใช้ภาพหวานกลบข่าวร้าว เมื่อ ภูมิธรรม เวชยชัย ควงแขน อนุทิน ชาญวีรกูล เดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้าอย่างอารมณ์ดี พร้อมหยอกว่า “เดี๋ยวหอมแก้ม” และพูดถึงพรรคร่วมว่า “จับมือกันชั่วนิรันดร์”
ฉากนี้ถูกส่งออกมาในวันที่ข่าวลือเรื่องการเขี่ยภูมิใจไทยทิ้ง และดึงพลังประชารัฐเข้าร่วม ครม. เริ่มแรงขึ้นทุกวัน มันจึงไม่ใช่ความบังเอิญ แต่คือความตั้งใจที่จะแสดงให้สังคมเห็นว่า “ยังไม่มีอะไรแตกแยก”
แต่การเมืองไม่ใช่แค่ภาพหน้ากล้อง เพราะคำถามจริง ๆ อยู่ที่ว่า รัฐบาลจะจัดการกับรัฐมนตรีที่ถูกวิจารณ์อย่างไร และจะทำให้การร่วมงานระหว่างพรรคการเมืองที่คิดต่างกัน เป็นเรื่องที่มีเป้าหมายเดียวกันได้จริงหรือไม่
การไม่กล้าประกาศให้ชัดว่าจะปรับหรือไม่ปรับ ครม. คือปัญหาไม่ต่างจากการปรับแล้วแต่ยังใช้วิธีคิดแบบเดิม เพราะไม่ว่าจะเลือกทางไหน ถ้ารัฐบาลยังตอบไม่ชัดว่าวันข้างหน้าจะเอาอย่างไร ความไม่แน่นอนก็จะอยู่ไปเรื่อย ๆ
และไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนตัวใดหรือไม่เปลี่ยนเลย ประชาชนก็ยังไม่อยู่ในสมการของการเมืองครั้งนี้ เพราะทั้งหมดคือเรื่องของการจัดวางเก้าอี้ การรักษาหน้าพรรคร่วม และการประคองจังหวะให้คนที่มีอิทธิพลเบื้องหลังพอใจ
เมื่อพูดถึงคำว่า “อนิจจัง” กับตำแหน่งนายกฯ มันไม่ใช่แค่คำลอย ๆ แต่น่าจะมาจากความรู้สึกจริงของคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้นี้ ว่ามันไม่มั่นคง และไม่ใช่ทุกอย่างจะอยู่ในมือของตัวเอง
ไม่มีใครบอกได้ว่าการปรับ ครม. จะเกิดขึ้นจริงเมื่อไร หรือจะเปลี่ยนอะไรได้มากแค่ไหน แต่สิ่งที่ชัดตอนนี้คือ คนที่นั่งอยู่ใน ครม. อาจเปลี่ยนได้ง่ายกว่าแนวทางของรัฐบาลที่ยังไม่เคยบอกให้ประชาชนเข้าใจว่า กำลังจะพาประเทศไปทางไหนกันแน่.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ยศชนัน’ สงวนท่าทีกากบาทป้าย iLaw หวั่น กกต.เอาผิด ปมแก้ รธน.
“ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์” แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ร่วมกิจกรรม iLaw แสดงความเห็นเรื่องรัฐธรรมนูญใหม่ รับส่วนตัวเห็นควรแก้ไข แต่ขอรอฟังเสียงประชาชน พร้อมย้ำเงื่อนไขงดแตะหมวด 1-2 และขอไม่กากบาทบนแผ่นป้าย เหตุไม่สบายใจทางการเมือง
‘ขิง-ศุภมาศ’ นำทีม ภท. สมัคร สส.กทม. 33 เขต ลั่นพร้อมแบกรับภาระคนกรุง
“เอกนัฏ-ศุภมาศ” นำทัพผู้สมัคร สส.กทม. พรรคภูมิใจไทย ยื่นใบสมัครเป็นพรรคแรก มั่นใจตัวผู้สมัครและนโยบายช่วยแบ่งเบาภาระคนกรุงเทพฯ ด้านศุภมาศย้ำมีเป้า สส. แต่ขอเวลาให้ผู้สมัครลงพื้นที่ก่อน พร้อมยืนยันจะได้เห็น “เอกนิติ-ศุภจี” ช่วยหาเสียงแน่
'อนุทิน' แจงเหตุไม่ร่วมดีเบต เป็นสไตล์ส่วนตัวไม่ชอบตอบโต้ ขอเอาเรื่องอธิปไตยให้จบก่อน
"อนุทิน" แจงเหตุไม่ร่วมดีเบต ภารกิจแน่น มองเรื่องความมั่นคงสำคัญกว่า เอาเรื่องอธิปไตยก่อน ยอมรับพูดไม่เก่ง ไม่ชอบตอบโต้ พยายามหลีกเลี่ยงทะเลาะกัน เผยจุดอ่อนให้พูด 3 ชั่วโมง ทำได้ แต่ให้พูด 2 นาที ทำไม่ได้
'เท้ง' โวย 'อนุทิน' สร้างวาทกรรม ปชน. แก้ ม.112 ทั้งที่พูดเรื่องนิรโทษกรรมคดีหมิ่นสถาบัน
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวตอบโต้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ต้องบอกว่าการยกมือในวันนั้น ไม่ใช่การเห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 แต่เป็นการผลักดันเรื่องนิรโทษกรรมของนักโทษที่โดนคดีทางการเมือง
'พท.' แฉน่านจ่ายหัวละ 300 เก็บบัตรปชช. ผวาซื้อเสียงระบาดหนัก
'หมอชลน่าน' แฉ พบจ่ายหัวละ 300 บาท ที่น่าน เริ่มเก็บสำเนาบัตรประชาชนแล้ว วัตถุประสงค์ไม่ชัดเจน หวั่นซื้อเสียงระบาดหนัก
โฆษกรัฐบาล ยัน 'ศุภจี' ไม่ขาดคุณสมบัติ ไม่ไปเลือกตั้งท้องถิ่นจริง แต่ทำหนังสือแจ้งเหตุแล้ว
"สิริพงศ์" ระบุ "ศุภจี" มีเหตุไม่ไปเลือกตั้งท้องถิ่นจริง แต่แจ้งเหตุแล้ว ยันไม่ขาดคุณสมบัติดำรงตำแหน่งการเมือง วอนอย่าสร้างความสับสน ให้คนทำงานเสียกำลังใจ

