เสน่ห์เมืองพุทธศาสนา'อุบลฯ-ปากเซ'

มนต์เสน่ห์ของเมืองพุทธศาสนาและวิถีศรัทธาชาวพุทธสองฝั่งโขงที่ยังคงสืบทอดต่อมา   เราได้สัมผัสที่วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว และถนนสายวัฒนธรรม ตำบลช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ข้ามแดนไปลาวใต้ที่วัดหลวงปากเซ แขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กับกิจกรรมบุญครั้งใหญ่”สายธรรมแห่งมหานทีสัทันดร” งานสัปดาห์มาฆบูชาอาเซียน ประจำปี 2568 เฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว ครบ 75 ปี เมื่อวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ 2568 จัดโดยกรมการศาสนาร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุบลราชธานี ช่วยทำให้เห็นว่า ทั้งไทยและลาวนั้นมีความสัมพันธ์อย่างแนบชิดกันมายาวนาน

ที่วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือที่ชาวบ้านมักเรียกว่า วัดภูพร้าว หรือ วัดเรืองแสงนั้น ตามประวัติพระอาจารย์บุญมาก ฐิติปัญโญ เดินทางจากประเทศลาวมาพักปักกลดที่ภูพร้าว และให้ชื่อว่า “วัดภูพร้าว”  ต่อมาพระอาจารย์บุญมากได้เดินทางกลับไปยังวัดภูมะโรง เมืองจำปาสัก เพราะเกิดความไม่สงบทางการเมืองในลาว วัดภูพร้าวจึงถูกปล่อยร้างเรื่อยมา ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดสิรินธรวราราม” ตามชื่ออำเภอสิรินธร หลังจากนั้นมีการบูรณะจนได้รับอนุญาตตั้งวัดในนาม “วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว”

นอกจากอุโบสถที่ผนังภายนอกรังสรรค์งานพุทธศิลป์งดงามรูปต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสงโดดเด่นสะดุดตาในยามค่ำคืน เป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามมองเห็นทัศนียภาพอ่างเก็บน้ำและจุดผ่านแดนถาวรช่องเม็กแล้ว ความจริงในมิติพุทธศาสนาวัดแห่งนี้แสดงถึงสายสัมพันธ์ทางพุทธศาสนาและยังสัมพันธ์กับมาฆบูชา วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เรื่องราวถ่ายทอดผ่านพระธรรมเทศนา”สายธรรมแห่งมหานทีสีทันดร”  โดยพระครูปัญญาวโรบล  เจ้าอาวาสวัดสิรินธรภูพร้าว และพระสมสนุก สุมโน วัดภูคล้องช้าง เมืองโพนทอง แขวงจำปาสัก สปป. ลาว ก่อนทอดผ้าป่าสามัคคีสองแผ่นดิน พิธีเจริญพระพุทธมนต์ และเวียนเทียนรอบอุโสบถเรืองแสงท่ามกลางบรรยากาศสงบงาม ซึ่งอุโบสถหลังนี้ได้แรงบันดาลใจจากวัดเชียงทอง เมืองหลวงพระบาง

พระครูปัญญาวโรบล  ได้เล่าถึงสายธารธรรมเมืองพระพุทธศาสนาว่า กรุงรัตนโกสินทร์สมัยรัชกาลที่ 4  พระองค์ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ส่งเสริมพระสงฆ์ธรรมยุตอีสานเผยแผ่พระพุทธศาสนาออกไปทาง สปป.ลาว เวียงจันทน์  จำปาสัก และพนมเปญ กัมพูชา โดยมีเหตุการณ์สำคัญ 2  ห้วงเวลา ดังนี้ หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล นำคณะศิษย์ไปบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันมาฆบูชา ครั้งแรกปี 2444 ในงานบูรณะพระธาตุพนม  จ.นครพนม   พระสงฆ์จากทั่วสารทิศมาชุมนุมกัน 100 รูป ถือเป็นมาฆบูชาอาเซียนครั้งใหญ่  กาลเวลาผ่านมา ปี 2479   ถนนทุกสายมุ่งสู่ธาตุพนม ครั้นถึงวันเพ็ญเดือนสามคณะสงฆ์ฝั่งจำปาสัก และฝั่งไทย 170 รูป มาชุมนุมกันวันมาฆบูชา ณ วัดป่าอ้อมแก้ว อ.พระธาตุพนม ตามนัดหมายของพระอาจารย์ใหญ่ โดยหลวงปู่เสาร์ กันตสีโลก ให้โอวาทในวันมาฆบูชา

สำหรับในลาวได้วางรากฐานการปฏิบัติพระกรรมฐานไว้ที่นครจำปาสัก และมีศิษย์สืบทอดมรดกธรรมต่อมาคือ หลวงปู่บุญมาก ฐิติปญโญ และหลวงปู่กิ ธมมุตตโม ได้ติดตามปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่ใหญ่เสาร์และหลวงปู่มั่น   มีวัดธรรมยุตบนเกาะดอนโขงมากกว่า 20 วัด กิจกรรมบุญเนื่องในงานสัปดาห์มาฆบูชาอาเซียนนี้ ถือเป็นการสานสัมพันธ์อันดีของประเทศในภูมิภาคอาเซียน กระชับสัมพันธ์อันดีไทย-ลาว

ถ้าหากใครมีโอกาสไป อ.สิรินธร ที่ถนนวัฒธรรมช่องเม็กจะจัดตักบาตรทุกวันขึ้น 15 ค่ำของทุกเดือน จะพบว่าชาวไทยและชาวจำปาสักร่วมตักบาตรจำนวนมากด้วยยังคงศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างเหนียวแน่น ในงานสัปดาห์มาฆบูชาอาเซียนเช้าตรู่วันที่ 9 ก.พ. ได้สัมผัสวิถีงดงามจากการร่วมทำบุญตักบาตรสองแผ่นดินบนถนนสายวัฒนธรรม  ถือเป็นพื้นที่หลอมรวมวัฒนธรรมเป็นหนึ่งเดียว  ก่อนออกเดินทางผ่านแดนช่องเม็ก(ไทย-ลาว)  ไปยังเมืองปากเซ ศูนย์กลางเศรษฐกิจของลาวใต้ และเมืองศูนย์กลางแห่งพุทธศาสนาในดินแดนลาวใต้ มีวัดน้อยใหญ่กว่า 20 วัดในปากเซ   

ถึงวัดหลวงปากเซ ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเซโดนที่ไหลไปบรรจบแม่น้ำโขง  คณะเยาวชนลาวในชุดแต่งกายพื้นเมืองต้อนรับด้วยชุดการแสดงศิลปวัฒนธรรมสื่อวิถีเกษตรและการวัฒนธรรมทอผ้าชาวลาว เปิดมุมมองเรียนรู้ด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรมอาเซียน จากนั้นเป็นพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี 2 แผ่นดิน โดยพระอาจารย์ใหญ่ สุวรรณจันทราช เจ้าคณะแขวงจำปาสัก เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา พร้อมด้วยนางวาสนา สิริมา ประธานแนวลาวสร้างชาติ แขวงจำปาสัก สปป.ลาว เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์  มีชาวปากเซนุ่งซิ่นร่วมงานบุญคึกคัก

สำหรับวัดหลวงปากเซ หรือ วัดโพธิ์ระตะนะสาสะดาราม เป็นหนึ่งในวัดที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาวัดในปากเซที่ต้องห้ามพลาด  มีภาพเขียนที่สวยงามมากมายเกี่ยวกับชีวิตของพระพุทธเจ้าและคำสอนของพระองค์ มีสวนที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและประตูไม้ที่แกะสลักอย่างวิจิตรบรรจง นอกจากปากเซจะเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของลาวใต้แล้ว เมืองนี้ยังเป็นศูนย์กลางทางศาสนาของลาวใต้อีกด้วย เพราะเป็นที่ตั้งของวัดหลวงปากเซ ศูนย์กลางแห่งวัฒนธรรมและแหล่งรวมจิตใจของชาวลาวใต้มาอย่างยาวนานจนทุกวันนี้  

เส้นทางสายธรรมยังนำพาไปวัดพูจำปาสัก มรดกโลกทางวัฒนธรรม ซึ่งปราสาทวัดพูเป็นอีกศูนย์รวมใจทางศาสนา ชาวลาวจากทั่วทุกแขนงจะเดินทางมากราบไหว้บูชาพระพุทธรูปหินทรายเก่าแก่ ตั้งจิตอธิษฐานขอพรให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองตามความเชื่อ  ปราสาทวัดพูมีงานประเพณีประจำปีเรียกว่า งานประจำปีวัดพู จะจัดช่วงเดือนกุมภาพันธ์ตรงกับวันเพ็ญเดือนสาม จัดติดต่อกัน 3 วัน วันสุดท้ายพระสงฆ์จะออกบิณฑบาต  พอตกค่ำมีพิธีเวียนเทียนรอบปรางประธาน ขาดไม่ได้การละเล่ย ออกร้าน และแข่งขันเรือพาย ชนไก่ ชกมวย สนุกสนานในงานบุญ ปีนี้จัดงานไปเมื่อวันที่ 10- 13 ก.พ.ที่ผ่านมา  นอกจากแหล่งมรดกโลกวัดพู หากมาเมืองปากเซยังมีสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาที่ควรไปเยี่ยมชมอย่างภูมะโรงและวัดพูสะเหลา

ชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า การจัดกิจกรรมสัปดาห์มาฆบูชาอาเซียน เพื่อส่งเสริมสัมพันธ์ในมิติศาสนาและวัฒนธรรมระหว่างประเทศสมาชิก เมื่อปีที่ผ่านมา กรมศาสนาจัดงานสัปดาห์ “วิสาขบูชาอาเซียน เพื่อส่งเสริมสัมพันธไมตรีกับประเทศอาเซียนในมิติพระพุทธศาสนา” จังหวัดหนองคาย  ณ วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง  และวัดพระธาตุหลวง ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว  สำหรับปีนี้ จัดกิจกรรมมาฆบูชา ที่วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว จังหวัดอุบลราชธานี โดยร่วมกับวัดหลวงปากเซ แขวงจำปาสัก สปป.ลาว  อีกทั้งยังเตรียมจัดจัดกิจกรรมวันสำคัญทางศาสนา อาทิ จังหวัดตาก จังหวัดระนอง จังหวัดสงขลา  เพื่อเชื่อมสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน

อธิบดี ศน. กล่าวถึงจ.อุบลราชธานี เมืองแห่งพระพุทธศาสนาด้วยว่า  เป็นจังหวัดขนาดใหญ่ในภาคอีสานตอนล่าง มีพื้นที่ขนาดใหญ่ เป็นลำดับที่ 2 ในภาคอีสาน  และอันดับที่ 5  ของประเทศไทย จ.อุบลราชธานี มีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีหลักฐานทางอารยธรรมทั้งประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่เก่าแก่ อาทิ ภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม และยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่ง มีอาณาเขตติดกับ จ.อำนาจเจริญ ยโสธร และศรีสะเกษ และมีอาณาเขตติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ประเทศกัมพูชา และ สปป.ลาว  โดยมีแม่น้ำโขงกั้นกลางระหว่างสองประเทศ ซ

“ ปัจจุบันศาสนามีบทบาทสำคัญทางด้านการเมืองสังคม สันติภาพ สันติสุข ความมั่งคงของรัฐทั้งภายในประเทศ และด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในประชาคมอาเซียน ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนและสังคมรอบข้างโดยในประชาคมโลกการเสริมสร้างศักยภาพของประเทศให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ภาพรวม ให้สังคมไทยเป็นสังคมคุณธรรมจริยธรรม จรรโลงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่คู่ชาติไทยสืบไป” นายชัยพล กล่าวในโอกาสไทยและลาว ร่วมจัดกิจกรรมสัปดาห์มาฆบูชาอาเซียนส่งเสริมสัมพันธ์มิติศาสนาและวัฒนธรรม

เพิ่มเพื่อน