ย้อนรอย'สิงคโปร์'ใช้เวลาศึกษา'คาสิโน'10 ปี แต่งตัว 5 ปี

“หันมาดูตัวกม.บ้านเรา ร่างแรกที่ฝ่ายกมธ.เสนอมา ถ้าจะไปตั้งเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ที่ไหนต้องไปรับฟังความเห็นประชาชนในพื้นที่ และประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง หมายถึงอย่างน้อยมีการทำประชามติ อ้างว่าถ้าทำทั้งประเทศต้องใช้เงินเยอะ พอมาเป็นร่างของรัฐบาล น่าเสียดายอย่างยิ่งมีการตัดการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนออกไป”

ประเด็นเรื่องประเทศไทยโดยรัฐบาลกำลังเดินหน้า ตั้งคาสิโน เป็นเรื่องร้อนฉ่า ที่หลายฝายจับตามอง วันนี้จะพาไปย้อนรอย เวทีเสวนาผลกระทบคาสิโนถูกกฎหมาย ต่อการฆาตกรรม และการข่มขืน จัดโดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อวันที่ 16ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งบางคนอาจจะผ่านตา การเสวนาดังกล่าวมาแล้ว แต่ก็เชื่อว่ายังมีหลายคนยังไม่ได้รับฟังข้อมูลน่าสนใจจากเวทีเสวนานี้แน่นอน ซึ่งมีหลายแง่มุมที่เป็นข้อมูลใหม่ น่าสนใจอย่างมาก

นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวในเวทีเสวนาว่า ในฐานะภาคประชาชน ถามว่าขณะนี้ยุคสมัยใกล้ความจริงมากที่สุดที่จะมีคาสิโน นายใหญ่เคยพูด 20 ปีที่แล้ว ตามพื้นฐานเดิมประเทศไทย ทำคาสิโนได้ ถ้าดูจากพ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 เปิดช่องไว้ ซึ่งสมัยคณะราษฎร ระบุว่าคนที่ทำต้องเป็นรัฐทำ หรือกระทรวงการคลัง คณะราษฎร์ เคยเปิดคาสิโนแต่ เปิดได้ไม่กี่วัน เอาไม่อยู่ก็ต้องปิด ได้เงินเยอะพอสมควร แต่คุมไม่อยู่ แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนเพราะเขาต้องการเม็ดเงินขนาดใหญ่จะใช้กฎหมายเดิม หรือพ.ร.บ.การพนันเดิมไม่ได้อีก เพราะฉะนั้นต้องไปแก้กฎหมาย และทำโดยกระทรวงการคลัง จึงเลี้ยวออกมาเป็นเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ ที่มีแกนหลักมีคาสิโน 1 บวกกับอีก 4 กิจกรรมอื่นๆ ตามบัญชีแนบท้าย ถามว่ากฎหมายนี้ได้เดินทางมาถึงไหนแล้ว ไม่ใช่รัฐบาลฝ่ายเดียว ฝ่ายการเมือง สภา สส.ร่วมกันผลักดัน เป็นธงร่วมของฝ่ายการเมือง ศึกษามา 2รอบ ในไม่กี่ปี โดยสภาฯ ตั้งกมธ.วิสาม้ญ ศึกษาเรื่องนี้ ความคืบหน้า

ความคืบหน้านอกจากการศึกษา 2ครั้ง การเสนอครั้งที่2 ที่ศึกษาโดยกมธ.นำมาด้วยการเสนอร่างกฎหมายให้ด้วย ร่างกฎหมายที่ 1 ร่างโดยสภาผู้แทนราษฎร ร่างนี้สภาศึกษาเสร็จ ปิดจ็อบโดยสภา ไม่มีใครค้าน ร่างฉบับนี้จึงผ่าน รัฐบาลรับลูกต่อ เพราะเป็นหน้าที่ฝ่ายบริหารของรัฐบริหาร ร่างกฎหมายฉบับนี้ถูกส่งให้ที่ประชุมครม.เรียบร้อยแล้วในสมัยนายกฯคนที่แล้ว ซึ่งได้สั่งการให้กระทรวงการคลังไปตั้งคณะทำงาน พิจารณาว่ารัฐบาลจะจัดการอย่างไรทำให้เกิดการปรับร่างกฎหมายที่ส.ส.เสนอมาร่างที่ 1 ปรับให้เป็นร่างที่ 2ของรัฐบาล

ที่สำคัญจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็น ประชาชนแล้ว ซึ่งทำเงียบๆ ทางอินเตอร์เน็ต ไม่มีการแถลง ซึ่งปกติเรื่องเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ รัฐบาลจะมีการแถลงทุกครั้ง แต่ตอนรับฟังความคิดเห็นซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญมากกลับไม่แถลง ทำเงียบๆ ในการรับฟังความห็นใช้เวลา 18 วัน ซึ่งทำเร็วมาก และสรุปออกมาแล้วขณะนี้

ขั้นต่อไป เมื่อใดก็ตามกระทรวงการคลังรับฟังความเห็นขอบที่ประชุม ครม. นั่นคือสัญญาณชัดเจนว่าเดินหน้าต่อ ถ้าไม่รวมแรงต้านจึงอาจไม่ได้เข้าก่อนสงกรานต์ จึงต้องไปรอเปิดสภาสมัยหน้าราวเดือนก.ค. ซึ่งช่วงนี้อาจมีการเร่งเครื่องเต็มที่ให้กฎหมยผ่าน ถ้าไม่มีการขัดแย้งในพรรคร่วม หรือมีเสียง ค้านที่แข็งแรงพอจากประชาชน กฎหมายก็อาจจะผ่านได้ภายในสิ้นเดือนมีนาคม

นายธนากร กล่าวอีกว่า รายงานของกมธ.ชุดแรก บอกว่าประเทศไทย ควรมีเอ็นเตอร์เม้นท์ฯ หลายที่ และมีได้หลายขนาด จะอลังการงานสร้างระดับ เอ็กซ์แอล ลงทุนหลายแสนล้าน แต่จะเป็นระดับ แอลก็ได้ ซึ่งรายงานการศึกษากมธ.มีผลแน่เพราะถือว่าเป็นงานวิจัยของฝ่ายการเมือง รายงาน กมธ. ชี้เป้าให้เปิดได้หลายที่ เช่น พื้นที่มีสนามบินนานาชาติ 22จังหวัด พื้นที่เกรด บี ถ้าจำไม่ผิดผลการศึกษาของกมธ.จะมีพื้นที่เปิดได้ราว 60 จังหวัด รายงานชี้ช่อง ไว้

ถามว่าใครคือผู้มีอำนาจตัดสินใจประระชาชนมีส่วนร่วมตัดสินใจได้มั๊ย ว่าควรเปิดที่ไหน เรื่องนี้ อยากให้ประเด็นนี้ถึงหูรัฐบาล เพราะกังวลสูงเป็นเรื่องสำคัญเรื่องใหญ่ เพราะคาสิโน เป็นกิจการที่เรารู้ว่าเป็นเทา ๆ ผลดีก็มีผลลบก็มีเราจึงต้องการความรอบคอบอย่างสูง หลายประเทศใช้วิธีการทำประชามติ บางประเทศไม่ทำประชามติแต่ทำการศึกษาอย่างเป็นจริงเป็นจังเช่น สิงคโปร์ นายกฯ ลีเซียนลุง บอกว่าเรืองนี้จะไม่ทำประชามติ เพราะไม่ใช่เรื่องความอยู่รอดของประเทศ แต่ให้ทำวิจัยและไม่ให้รีบร้อน หรือเร่งรัด ภายในเวลาที่รัฐบาลกำหนด

ในประวัติศาสตร์เขียนว่างานวิจัยชิ้นนี้ของสิงคโปร์ใช้เวลาศึกษา 10 ปี ศึกษาอย่างรอบด้าน ทั้งวิธีการพฤติกรรมการเล่นพนันของคนสิงตโปร์ และโมเดลธุรกิจ ตัวเลขออกมาตามความคิดลีกวนยู เขาบอกว่าเขาไม่ได้สนใจเรื่องคาสิโน คาสิโนเป็นเพียงส่วนเล็กเป็นองค์ประกอบ แต่ประเด็นอยู่ที่ 98% ที่เป็นารีน่าเบย์ คาสิโนมีแค่ 2% เพราะสิงคโปร์ไม่มีทรัพยากรอะไรเลย ถ้าเราทำสำเร็จจะดึงดูดเม็ดเงินเข้าประเทศ

“นี่คือตัวอย่างก่อนทำ ต้องศึกษารอบคอบจริงๆ สิงคโปร์ใช้เวลา 10 ปีศึกษา และใช้เวลาอีก 5ปี แต่งเนื้อแต่งตัวให้พร้อม มีหน่วยงานกำกับดูแลคาสิโน มีหน่วยงาน ดูแลผลกระทบจากคาสิโน เหล่านี้ เป็นต้น ส่วนปรเเทศเลือกทำประชามติ ญี่ปุ่นทำหลายรอบ ให้รัฐบาลท้องถิ่นเสนอ ไม่ใช่มาจากรัฐบาลกลาง ประเด็นคือ ทั้งสิงคโปร์ และญี่ปุ่นกำหนดตัวเลขจะไม่มีเยอะ ใน 20ปีแรกมีได้ 2ที่ หลังจากนั้นค่อยมาคุยกัน ญี่ปุ่นบอกว่ามี 3ที แต่พร้อมมีแค่ที่เดียวโอซาก้า หรืออีกที่ที่นางาซากิ แต่ที่ 3ไม่เอาด้วย นี่คือความรอบคอบ”

นายธนากร กล่าวอีกว่า หันมาดูตัวกม.บ้านเรา ร่างแรกที่ฝ่ายกมธ.เสนอมา ถ้าจะไปตั้งเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ที่ไหนต้องไปรับฟังความเห็นประชาชนในพื้นที่ และประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง หมายถึงอย่างน้อยมีการทำประชามติ อ้างว่าถ้าทำทั้งประเทศต้องใช้เงินเยอะ พอมาเป็นร่างของรัฐบาล น่าเสียดายอย่างยิ่งมีการตัดการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนออกไป

” ถามว่าอำนาจไปอยู่ที่ใคร ประเทศไทยจะมีคาสิโนที่ไหนอย่างไร ซึ่งเขาชี้แจงในเอกสารว่าการตัดสินให้มีเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ให้เป็นระบบอนุญาตไม่มีการประมูลหรือสัมปทาน ถามว่าใครอนุญาติ ซึ่งระบุว่าคือคณะบุคคล-คณะหนึ่ง ซึ่งก็คือ คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร มีนายกฯ เป็นหัวโต๊ะ และมีรมต .7-8 คนร่วมด้วย พาณิชย์ ยุติธรรม พม. หรือคนนอกเข่้ามาร่วมบอร์ด แต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรี บอร์ดนี้จึงเอียงมาก 15คนจึงเป็นผ่ายการเใมืองและ3 คน เป็น ข้าราชการ เป็นเลขาบีโอไอ เลขากนง. และอีกคนที่จำไมได้ ในซูเปอร์บอร์ดชุดนี้”