เทศกาลสีสันดอยตุง ครั้งที่ 11 ปล่อยใจ ปล่อยจอยดินดอยมหัศจรรย์ ชมงานศิลป์ฟินดอกไม้

เมื่อสายลมหนาวเริ่มพัดมาเยือน หลายคนต่างดีใจที่จะสัมผัสกับความเย็นสบาย แม้ฤดูหนาวในปัจจุบันจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่สำหรับใครที่อยากเก็บเกี่ยวบรรยากาศอันแสนสดชื่น การเดินทางขึ้นดอยจึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตเพื่อดื่มด่ำธรรมชาติ สายหมอก และไอเย็น  และหนึ่งในไฮไลท์ในฤดูหนาวนี้ คือการชมความงดงามของมวลดอกไม้ที่บานสะพรั่ง เป็นอีกสีสันที่ไม่ควรพลาด

จุดหมายการไปเยือนยอดดอยพร้อมกับชมดอกไม้ หนึ่งในสถานที่ที่ควรมีในโปรแกรมคือ ดอยตุง ขุนเขาแห่งภาคเหนือ ในอ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย บนยอดดอยแห่งนี้เป็นที่ตั้งของโครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเล็งเห็นถึงศักยภาพของดอยตุงและฟื้นฟูพื้นที่จากการปลูกฝิ่น และการทำลายป่า ให้กลายเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ สร้างอาชีพ และยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนในพื้นที่ และเป็นอีกหนึ่งแลนมาร์คในช่วงฤดูหนาว ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสอากาศเย็นสดชื่น พร้อมเพลิดเพลินกับงานเทศกาลสีสันดอยตุง  ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและสีสันของดอกไม้นานาพันธุ์ ความสวยงามของภูมิทัศน์ และกิจกรรมหลากหลาย

ประเสริฐ ตรงเจริญเกียรติ ประธานสายปฏิบัติงาน/ธุรกิจเพื่อสังคม มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ดอยตุง คือเรื่องราวความสำเร็จที่เกิดจากการพัฒนาภายใต้แนวคิด คนอยู่ร่วมกับป่า ของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเล็งเห็นถึงศักยภาพของดอยตุงและฟื้นฟูพื้นที่จากการปลูกฝิ่น และการทำลายป่า ให้กลายเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ สร้างอาชีพ และยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนในพื้นที่ วันนี้ดอยตุง ไม่เพียงเป็นสถานที่ท่องเที่ยว แต่ยังเป็นตัวอย่างของความสำเร็จในด้าน การอนุรักษ์ธรรมชาติ การพัฒนาชุมชน และการส่งเสริมวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน

ในปีนี้เทศกาลสีสันดอยตุง ครั้งที่ 11 ได้กลับมาสร้างสีสันอีกครั้งในธีม “WINTER WONDERDOI ปล่อยใจ ปล่อยจอย ในดินดอยมหัศจรรย์ DoiTung x NEWYEAR” เพราะนอกจากดอกไม้ที่เป็นดั่งสีสันของผืนป่า ศิลปินป๊อปอาร์ตรุ่นใหม่อย่าง NEWYEAR -ปภากร ศรีกัลป์ยกร ก็ได้สร้างสรรค์งานศิลปะที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสัตว์หายากบนดอยตุง อาทิ แมวดาว นางอาย ตัวตุ่น นกโพระดก เป็นต้น ซึ่งสะท้อนถึงความหลากหลายทางชีวภาพที่เริ่มกลับมาอุดมสมบูรณ์ผลจาก การดูแลป่าดอยตุงมากว่า 36 ปี ออกแบบเป็นตัวการ์ตูนคาแรคเตอร์สุดน่ารักกระจายอยู่ทั่วสวนดอกไม้บนดอย ให้ตามเช็คอินถ่ายรูปเก็บความประทับใจกลับบ้านที่จะทำให้ทุกการเดินทางของคุณเต็มไปด้วยสีสัน ความสุข และแรงบันดาลใจ

เมื่อมาถึงดอยตุงในยามเช้า ท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆ ที่สาดส่องผ่านม่านหมอกบางเบา อากาศเย็นสบายกำลังพอดีจนไม่ต้องห่มด้วยเสื้อกันหนาวหนา สายลมเอื่อยๆที่พัดผ่านนำพาความสดชื่น เป็นสัมผัสที่หาไม่ได้ในเมืองกรุง เติมเต็มร่างกายให้ผ่อนคลาย และพร้อมที่จะไปดื่มด่ำกับความสวยงามของสวนดอกไม้แห่งดอยตุงแล้ว

จากทางเข้าที่ทอดยาวคดเคี้ยวตามแนวเขาต้นไม้เขียวขจีนานาสายพันธุ์ริมสองข้างทางพาให้เราเพลิดเพลิน เราจะพาไปเช็คอินจุดต่างๆ ในงานเทศกาลสีสันดอยตุง  มาถึงจุดแรกที่ตั้งของปติมากรรม โต สัญลักษณ์ของสวนแม่ฟ้าหลวง ในปีนี้ตัวโต มีการตกแต่งด้วยดอกไม้สีเหลืองดูสดใส สำหรับ  โต คือ สัตว์มงคลตามความเชื่อของชาวไทใหญ่ 1 ใน 6 ชนเผ่าบนดอยตุง มีลักษณะหัวเหมือนกวาง ตัวเหมือนสิงโต ชาวไทใหญ่เชื่อว่า โต เป็นตัวแทนของสิริมงคลและความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า

จุดที่สองกิจกรรมที่เหล่านักท่องเที่ยวจะถ่ายภาพคู่กับศิลปะตัวการ์ตูนสัตว์ต่างๆ ที่เป็นไฮไลท์ของปีนี้  ได้กระจายอยู่โดยรอบสวนแม่ฟ้าหลวง  ตัวแรกที่พบคือ นางอายสายรุ้ง ตั้งอยู่ใกล้ๆกับตัวโตเลย เป็นประติมากรรมสุดน่ารักตั้งทางเข้าสะพานไม้ที่ทอดยาวเหนือสระน้ำ ที่ประดับด้วยดอกไม้หลากสี นางอายไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของความงาม แต่ยังสะท้อนถึงบทบาทสำคัญในระบบนิเวศ เพราะเจ้าตัวเล็กนี้มีส่วนช่วยกระจายพันธุ์พืชในพื้นที่ หากพบเห็นนางอายที่ใดที่นั่นมีความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ใครที่มองปลายสะพานสายรุ้งนี้ อาจโชคดีได้เห็นน้องนางอาย ออกมาทักทายก็ได้นะ

ใกล้กับสะพานนางอายสายรุ้ง หากเงยหน้าขึ้น จะพบรังนกขนาดใหญ่ มีชื่อว่า นกโพระดก โฮกป๊ก ผลงานประติมากรรมที่ประดับด้วยดอกไม้สีสันสดใส ซึ่งมีนกโพระดกคอฟ้า เจ้าของรังนี้เกาะอยู่ ตัวจริงของนักร้องเสียงใสแห่งสวนแม่ฟ้าหลวงที่ร้องเรียกชื่อเสียงโฮก ป๊ก ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ นกโพระดกคอฟ้าไม่ได้มีดีแค่เสียงหวาน แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการกระจายเมล็ดพันธุ์พืชหลากชนิด ช่วยรักษาความสมดุลในระบบนิเวศ หากตั้งใจฟังดี ๆ อาจได้ยินเสียงเจ้านกตัวนี้ขับกล่อมจากในสวน

ลัดเลาะผ่านเส้นทางดอกไม้ชมความงามไปเรื่อยๆ อีกสักพัก ก็จะพบกับบอลลูนแมวดาวยักษ์  ประติมากรรมสีส้มสดใสที่ถูกแต่งแต้มด้วยรูปดาวสีดำ เจ้าตัวนี้คือ น้องแววแมวดาว สัตว์นักล่าแห่งขุนเขาที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมประชากรหนู ซึ่งช่วยปกป้องพืชผลทางการเกษตรและรักษาสมดุลของระบบนิเวศ แม้หน้าตาจะแฝงความเจ้าเล่ห์เล็กน้อย แต่น้องแววก็เป็นหนึ่งในผู้พิทักษ์ความอุดมสมบูรณ์ของดอยตุง และถ่ายภาพกับผืนป่าดอยตุงที่บันไดสายรุ้ง จุดชมวิวที่สร้างบรรยากาศให้ดูเหมือนคุณกำลังเดินเข้าสู่สายรุ้งแห่งดอยตุง

 เดินขึ้นเนินเล็กๆ ไปอีกหน่อย จะเจอกับ ต้าวตุ่น ประติมากรรมตัวตุ่นสีฟ้าถือดอกไม้สีชมพูสุดน่ารัก ที่สบตาหวานๆให้กับเรา  ต้าวตุ่นคือยอดนักพรวนดินแห่งขุนเขา ด้วยความสามารถในการขุดดิน ทำให้ดินมีความโปร่งระบายอากาศได้ดี พร้อมช่วยกำจัดแมลงศัตรูพืช สร้างความสมบูรณ์ให้กับผืนดินแห่งนี้

พลาดไม่ได้กับจุดที่ 3 เมื่อมาถึงสวนแม่ฟ้าหลวง คือการได้ชมเขาวงกตลอยฟ้า ศิลปะที่ผสมผสานประเพณีและความเชื่อของชาวไทใหญ่ ที่โอบล้อมไปด้วยการรังสรรค์สวนดอกไม้เมืองหนาวหลากสี ไม่ว่าจะเป็นดอกรักเร่ สีชมพู นับเป็นดอกไม้ที่มีความงดงามแต่ตั้งสี และกลีบที่ซ้อนทับเป็นพุ่ม, ดอกสร้อยไก่สีเหลืองและสีแดง ที่ชูช่อเป็นพุ่ม, French Marigold หรือดาวเรืองฝรั่งเศส ที่ขอบใบหยักเว้าราวขนนก โดดเด่นด้วยกลีบที่มีทั้งสีแดง ส้ม เหลือง ผสมผสานกันอยู่, ดอก Red Salvie Pink Salvie และ Blue Salvie ที่ชูช่อดอกเรียวยาว, ดอกเทียนฝรั่ง ดอกเล็กที่มีสีขาวสลับชมพู ให้ความรู้สึกสดใส และดอกดาวเรือง สีเหลือสด ยังมีดอกไม้อีกหลายสายพันธุ์ที่ชูช่อบานสะพรั่งเต็มสวนระบายดอยแห่งนี้ให้ดูสดใสอยู่เสมอ

จากเขาวงกตลอยฟ้า จะเชื่อมกับจุดที่ 4 ถนนคนเดินดอยตุง ที่รวบรวมสินค้า อาหาร และเครื่องดื่มจาก 6 ชนเผ่า ได้แก่ อาข่า ลาหู่ ไทลื้อ ไทใหญ่ ไทลัวะ และจีนยูนนาน อาทิ อาหารชนเผ่าและเมนูพิเศษ ข้าวอิโต หมูดำย่างจิ้มแจ่ว อกไก่ย่างซอสสะเบี๊ยะ ข้าวสอย หมูผัดพริกอาข่า ไอศกรีมดอยตุง 3 รสชาติ และอีกหลายเมนู  ที่สร้างจากแรงบันดาลใจของธรรมชาติ งานหัตถกรรมชนเผ่า สินค้าแฮนด์เมด เช่น เสื้อผ้าทอมือ กระเป๋า และของที่ระลึก ที่ออกแบบอย่างร่วมสมัย พร้อมชมการแสดงและดนตรีพื้นเมือง การเต้นรำจากชนเผ่า เช่น รำกระทุ้งไม้ไผ่ หรือการโชว์ดนตรี จากเครื่องดนตรีพื้นเมือง ได้ที่วงเวียนต้นตุง

และจุดที่ 5 กับกิจกรรมสร้างสรรค์ เวิร์กช็อปและเกมสนุกๆ อาทิ การทำเครื่องประดับจากลูกปัด, DIY พวงกุญแจดอกไม้แห้ง และ การเพ้นท์เซรามิก นอกจากกิจกรรมในงาน เรายังสามารถช้อปต่อได้ที่กาดดอยตุง ที่มีเสื้อผ้าเอกลักษณ์ชนเผ่ามาจำหน่าย น้ำผึ้งป่า พืชผักพืชบ้านเยอะเลยทีเดียว อย่าลืมไปชิมไอติม 3 รสชาติใหม่ที่ทำรูปแบบออกมาได้น่ารักมากๆ อาทิ ไอติมดอกไม้ระบายดอย รสอัญชัญน้ำผึ้งมะนาว, ไอติมน้องหมี่ก่า รสนมชมพู และไอติมน้องโต รสชาไทย

สีสันแห่งดอยตุง เป็นมากกว่าเทศกาล เพราะไม่เพียงแค่ได้ชมความสวยงามของธรรมชาติ แต่ปีนี้ยังได้ผสมผสานผลงานศิลปะที่สร้างความน่ารักสดใสและยังสะท้อนถึงความสำคัญของสัตว์ต่าง ๆ ในระบบนิเวศ  เทศกาลนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 ธันวาคม 2567 -26 มกราคม 2568 เปิดให้บริการทุก วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น. ณ โครงการพัฒนาดอยตุง จ.เชียงราย