การมุ่งสู่เป้าหมายความยั่งยืน เป็นหนึ่งในนโยบายหรือวิสัยทัศน์หลักของหลายองค์กรทั่วโลก ที่ยึดหลักการดำเนินงานตามแนวทาง ESG ย่อมาจาก Environmental, Social, and Governance ซึ่งเป็นกรอบการประเมินที่ใช้ในการวัดความยั่งยืนและผลกระทบทางสังคมของธุรกิจ แต่อีกหนึ่งการประเมินที่มีความเข้มข้นไม่แพ้กันคือ การประเมิน B Corp (Benefit Corporation) กำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมากในระดับสากล รวมถึงในประเทศไทยด้วย เป็นมาตรฐานที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินกิจการได้อย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยมีการประเมินจากตัวชี้วัดหลายด้าน เช่น 1.ธรรมาภิบาล (Governance) 2.พนักงาน (Workers) 3.ชุมชน (Community) 4.สิ่งแวดล้อม (Environment) และ5.ลูกค้า (Customers)
โดยมาตรฐานดังกล่าวจะต้องผ่านการประเมินจากองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่ชื่อว่า B Lab ซึ่งจะพิจารณาคะแนนรวมในทุกๆ ด้าน และองค์กรที่ผ่านการรับรอง B Corp จะต้องมีการประเมินซ้ำทุก 3 ปี เพื่อรักษามาตรฐาน โดยการรับรองนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้องค์กรเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น หลายบริษัททั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และแคนาดา ให้ความสำคัญกับการได้รับการรับรอง B Corp เป็นอย่างมาก
ในประเทศไทย นับว่าเป็นความท้าทายอย่างมากในการขับเคลื่อนตามมาตรฐาน B Corp ล่าสุด บริษัท ดานอน สเปเชียลไลซ์ นิวทริชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ ไฮคิว และดูเม็กซ์ มาเป็นเวลากว่า 65 ปีแล้ว ได้รับรองมาตรฐาน B Corp ประจำปี 2024 จากการดำเนินงานด้านความยั่งยืนในประเทศไทย ภายใต้วิสัยทัศน์ One Planet One Health เพื่อขับเคลื่อนแนวทางด้านความยั่งยืนสู่ผู้บริโภคและภาคธุรกิจให้กว้างขวางมากขึ้นในประเทศไทย
แดนิช ราห์มัน ผู้จัดการทั่วไป ดานอนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และดานอน ประเทศไทย กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งสะท้อนอยู่ในวิสัยทัศน์หลักขององค์กรภายใต้แนวคิด One Planet One Health ที่เชื่อมโยงสุขภาพของมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม องค์กรต้องการส่งเสริมให้ทุกคนสามารถเลือกบริโภคสิ่งที่ดีต่อสุขภาพและมีส่วนร่วมในการดูแลโลก ตั้งแต่กระบวนการผลิตในต้นน้ำที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้บริโภคในปลายทาง
แดนิช กล่าวต่อว่า แนวคิดเรื่องความยั่งยืนไม่ใช่สิ่งใหม่สำหรับดานอน ย้อนกลับไปในปี 1972 อ็องตวน รีบู (Antoine Riboud) อดีตซีอีโอของดานอนได้ริเริ่มแนวคิด Dual Project เพื่อสร้างคุณค่าให้ทั้งผู้ถือหุ้นและสังคม โดยเชื่อว่าจะนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการดูแลตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตจนถึงส่งถึงมือผู้บริโภค ซึ่งกลายเป็นหัวใจในการขับเคลื่อน Danone Impact Journey (DIJ) ที่มุ่งเน้น 3 เสาหลัก คือ สุขภาพ สิ่งแวดล้อม และผู้คนรวมถึงชุมชน ในปีนี้ ดานอนได้รับการรับรองมาตรฐาน B Corp ระดับโลก หลังจากเคยได้รับรางวัลนี้ในปี 2021 เป็นรางวัลสำหรับองค์กรที่ดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง โดยดานอนจะเดินหน้าสานต่อพันธกิจด้านความยั่งยืน เพื่อเป็นแบบอย่างและสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในวงกว้าง
ด้านนัฏฐ์ภัสสร ธรรมศิรารักษ์ ผู้อำนวยการแผนกโครงการปฏิบัติการและการจัดซื้อ ดานอนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า มุ่งเน้นส่งเสริมสุขภาพของผู้คนผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่ดี รวมถึงการสนับสนุนชุมชนโดยรอบอย่างยั่งยืน โดยเน้นความหลากหลายและการมีส่วนร่วม เช่น การส่งเสริมสุขภาพเด็กซึ่งมีความสำคัญ โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) เคยรายงานว่าเด็กไทย 1 ใน 4 ที่อายุต่ำกว่า 5 ปี มีภาวะขาดธาตุเหล็ก ซึ่งส่งผลกระทบต่อสมองและพัฒนาการ ทางองค์กรจึงได้ออกผลิตภัณฑ์เสริมธาตุเหล็กเพื่อเด็ก ๆ และใช้วัตถุดิบจากแหล่งที่ยั่งยืนและมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ องค์กรยังให้ความสำคัญต่อความเท่าเทียมและการสนับสนุนสิทธิเสรีภาพภายในองค์กร
“ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ดานอนได้ดำเนินโครงการ Triple Zero ที่โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมบางพลี โดยมีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การปล่อยน้ำเสีย และขยะให้เป็นศูนย์ ภายในโรงงานมีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ยั่งยืนด้วยการรีไซเคิล หรือใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้แบบ 100% และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน มีเทน และพลังงานให้ได้ 30% ภายในปี พ.ศ. 2573 ซึ่งเป็นการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมและส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการจัดการนมซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตผลิตภัณฑ์นม จึงมีการทำงานร่วมกับคู่ค้าในฟาร์มในจ.สระแก้ว เริ่มต้นประมาณ 50 ฟาร์มที่จะมีการตรวจสอบ เช่น มีการกำจัดของเสียที่ถูกต้อง มีหลักธรรมาภิบาล น้ำสะอาดได้มาตรฐาน หรือวางแผนการให้อาหารวัวเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำนม และสร้างลานตากมูลวัว ซึ่งเมื่อแห้งกลางแดดจะช่วยลดมีเทนที่เกิดจากการหมักหมมของมูลวัว นำไปแปรรูปเป็นปุ๋ย ช่วยสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกร เป็นต้น” นัฏฐ์ภัสสร กล่าว
ยูดี ปราดานา ผู้อำนวยการบริหาร B Market Builder เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า B Corp เป็นมาตรฐานที่เกิดขึ้นเพื่อรับรององค์กรที่ดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าธุรกิจได้ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านประสิทธิภาพ ความรับผิดชอบ และความโปร่งใส ตั้งแต่สวัสดิการพนักงาน ไปจนถึงห่วงโซ่อุปทานและวัตถุดิบที่ใช้ จึงมุ่งหวังให้มาตรฐาน B Corp ผลักดันให้ธุรกิจพัฒนาด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์ต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งพนักงาน ชุมชน ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม โดยบริษัทดานอน ผ่านมาตรฐานครบทั้ง Ecosystem ได้คะแนนอยู่ในระดับสูงถึง 90 คะแนน ทั้งการทำงานอย่างใกล้ชิดกับคู่ค้าด้านวัตถุดิบที่เน้นหลักปฏิบัติความยั่งยืนและการดำเนินงานเพื่อสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการต่างๆ ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มบริษัท พราว โชว์ศักยภาพโครงการ Project Pineapple by Proud Group สนับสนุนหลักการ ESG อย่างเป็นระบบครบวงจร ยกระดับธุรกิจสู่ความยั่งยืน
กลุ่มบริษัท พราว ผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภท Integrated Entertainment and Resort Destination ชั้นนำของประเทศไทย มุ่งดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึง ESG การดูแลสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบต่อสังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมถึงความยั่งยืน (Sustainability)
finbiz by ttb แนะ SME ที่มีแนวคิด ESG คว้าโอกาสทางธุรกิจ บนการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐอย่างยั่งยืน
ปัจจุบันกระแส ESG กำลังกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ธุรกิจยุคใหม่จึงต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวทางนี้ โดยหลังจากประเทศไทยได้ประกาศเป้าหมายจะเป็นกลางทางคาร์บอน
finbiz by ttb แนะเทรนด์รักษ์โลก : โอกาสของธุรกิจเพื่อครองใจผู้บริโภค
ในยุคปัจจุบันที่ผู้คนกำลังตื่นตัวกับกระแสรักษ์โลกและความยั่งยืน กระแสนี้จะมีผลต่อธุรกิจอย่างไรและจะเป็นเพียงชั่วคราวหรือไม่ finbiz by ttb
ESG และ NET ZERO ในบริบทของกลุ่มเปราะบางในประเทศไทย
ในช่วงปีที่ผ่านมาหลังวิกฤติด้านสาธารณสุขของโรคระบาดโควิด 19 ประเทศไทยเริ่มฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและผู้คนจำนวนมากได้กลับสู่ชีวิตเป็นปรกติแม้จะมีส่วนหนึ่งที่ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงชีวิตหน้าที่การงาน