ซานย่า นับเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวของมณฑลไห่หนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างอลังการ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งก่อสร้างหรือธรรมชาติดั้งเดิม ทำให้เมืองแห่งนี้โอบล้อมไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ อย่าง แม่กวนอิมหนานซาน สวนพุทธธรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A ซึ่งได้กล่าวถึงไปตอนที่แล้วนั้น ในช่วงบ่ายๆ คณะของเราก็มุ่งหน้ามายังจุดชมวิวสันเขาซานย่าฟีนิกส์ หรือที่เรียกกันว่า “ฟินิกส์ฮิลล์” เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่โดดเด่นในเมืองซานย่า
สันเขาฟินิกส์ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีป่าเขียวชอุ่มและธรรมชาติอันสมบูรณ์ มีเรื่องเล่าและตำนานเกี่ยวกับสันเขาแห่งนี้ที่เชื่อมโยงกับสัตว์ในตำนานของจีน นั่นคือ นกฟีนิกซ์ ซึ่งตามความเชื่อโบราณ นกฟีนิกซ์เป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นฟูและความโชคดี ทำให้สันเขาแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ที่มีความหมายในด้านวัฒนธรรมและความเชื่อท้องถิ่น ซึ่งนักท่องเที่ยวจึงนิยมขึ้นมาชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามจากมุมสูง ระยะทางของกระเช้าไปยังยอดสันเขาฟินิกส์ประมาณ 1,600 เมตร เมื่อกระเช้ามาถึงจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลกระเช้าสามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 6 คน กระเช้าจะค่อยเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ ให้เราได้สัมผัสธรรมชาติจากพื้นราบที่มีทั้งต้นมะพร้าว ต้นกล้วย และไม้ยืนต้นต่างๆ พอเริ่มสูงขึ้นจากวิวต้นไม้ก็จะเห็นภาพอีกฝั่งของทะเลจีนใต้อันกว้างใหญ่ มีตึกอาคารริมชายฝั่ง บางส่วนก็กำลังก่อสร้างทำให้เห็นว่าจีนเริ่มมีการขยายตัวเมืองไวมากๆ มาถึงยังยอดสันเขาฟีนิกส์ จะมีจุดชมวิวที่สามารถไปถ่ายรูปได้ หรือจะเดินขึ้นบันไดต่อไปอีกหน่อยจะเป็นสกายวอล์คให้ชมทัศนียภาพของเขาแห่งนี้ได้อย่างชัดเจน
อิ่มเอมใจกับธรรมชาติอันงดงาม ค่ำคืนนี้ไปต่อกันที่สวนซานย่าโรแมนซ์ (Sanya Romance Park) ที่นี่ให้ความรู้สึกเหมือนดิสนีย์แลนด์ แต่เป็นในแบบฉบับของจีนที่มีการผสมผสานวัฒนธรรมจีนและความบันเทิงต่างๆเข้าไว้ด้วยกัน บรรยากาศด้านในมีการจัดตกแต่งอย่างสวยงาม ด้วยมังกรโคมไฟขนาดใหญ่ โซนด้านหน้าเป็นโซนร้านค้าพื้นเมือง อาทิ กำไลหยก เสื้อผ้า-เครื่องดนตรีชนเผ่า สายไหม ถัดมาเป็นโซนร้านอาหารและคาเฟ่ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้อยากหลากหลาย มีห้องน้ำให้บริการหลายจุดสะอาดและติดแอร์ด้วยนะ
ใกล้ถึงเวลาการแสดง เหล่านักแสดงจะออกมาเดินขบวนพาเหรดอย่างเฉิดฉาย เป็นการเรียกน้ำย่อยให้กับผู้ชมก่อนถึงรอบการแสดงจริง ไฮไลท์สำคัญของที่นี่คือ “การแสดงซานย่าโรแมนซ์” การแสดงยิ่งใหญ่ที่บอกเล่าเรื่องราวตำนาน ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของมณฑลไห่หนาน ถ่ายทอดผ่านแสง สี เสียง และฉากที่งดงามตระการตา โดยมีนักแสดงกว่า 300 ชีวิตพร้อมสร้างความประทับใจ ได้เวลาทพการแสดงทุกคนเตรียมตัวมานั่งชมการแสดงในโรงละครที่ใหญ่โตอลังการ เบื้องหน้าคือเวทีที่จัดเตรียมฉากอย่างละเอียด ไม่นานนักเสียงกลองดังขึ้น ไฟทั่วโรงดับลง เหลือเพียงแสงสว่างที่พุ่งไปยังเวที นักแสดงเริ่มเล่าเรื่องราวที่ประกอบด้วยตำนานและเหตุการณ์สำคัญของไห่หนาน เช่น ตำนานนางฟ้าสวรรค์ผู้ตกหลุมรักชายหนุ่มมนุษย์ เรื่องราวการต่อสู้ของนักรบไห่หนาน การผจญภัยของชาวพื้นเมือง และชีวิตของชนเผ่าดั้งเดิมที่สะท้อนถึงวัฒนธรรม ความเชื่อ ความฝัน และการเสียสละของผู้คนในอดีต สร้างสรรค์มณฑลไห่หนานจนถึงปัจจุบัน
นอกจากเรื่องราวที่ร้อยเรียงไว้อย่างน่าสนใจ ฉากและการแสดงยังถูกจัดเตรียมอย่างอลังการและสมจริง มีฉากฝนพรำที่ทำให้ผู้ชมสัมผัสสายฝนไปด้วย ความสามารถด้านการร่ายรำและกายกรรมจีนของนักแสดงก็เป็นที่ชื่นชม ถ่ายทอดความอ่อนช้อยและแข็งแกร่งอย่างน่าทึ่ง ฉากสุดท้ายเข้าสู่ยุคปัจจุบันของไห่หนาน การแสดงปิดจบด้วยการเนรมิตเวทีให้เป็นท้องทะเล มีการโชว์เจ็ทสกีและฟลายบอร์ดอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ถือเป็นการสื่อถึงทะเลที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของการท่องเที่ยวในไห่หนาน
วันต่อมา เราเดินทางไปยังเขตท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมปิงหลางกู่ เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์หลีและม้ง สถานที่นี้ตั้งอยู่ในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติกันสือหลิ่ง เขตปกครองตนเองชนชาติหลี-ม้ง ในอำเภอเป่าถิง โดยถูกพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมในพื้นที่กว่า 5,000 ไร่ ที่นี่มีไกด์ชาวหลีคอยให้ความรู้ในแต่ละโซน เริ่มจากการแนะนำกลุ่มชาติพันธุ์หลี ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากชาวสั่วเย่ว์ เป็นหนึ่งในกลุ่มชนแรกที่ตั้งรกรากบนเกาะไหหลำ เดิมทีพวกเขาอาศัยอยู่ริมน้ำและเนินเขาแถบอ่าวจอดเรือ และดำรงชีวิตด้วยการเกษตร จากนั้นจึงกระจายไปยังส่วนต่าง ๆ ของเกาะ โดยเฉพาะทางตอนกลางและฝั่งตะวันตก ปัจจุบันมีประชากรชาวหลีในไหหลำมากกว่า 1.5 ล้านคน สำหรับกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง หรือที่รู้จักกันในชื่อม้งชียตะวัน เป็นกลุ่มชาติพันธุ์โบราณของจีน เดิมทีพวกเขามักอาศัยอยู่ตามป่าเขา ย้ายถิ่นฐานบ่อยและดำรงชีวิตด้วยการล่าสัตว์และเกษตรกรรม จนได้รับฉายาว่ามังกรข้ามภูเขา ปัจจุบันในพื้นที่ไหหลำมีชาวม้งอาศัยอยู่ประมาณ 80,000 คน
พื้นที่ภายในแบ่งเป็น 7 โซนหลัก แต่เนื่องจากเวลาจำกัด เราจึงได้เยี่ยมชมเพียงบางโซน เริ่มจากโซนหมู่บ้านมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ซึ่งมีหอนิทรรศการที่จัดแสดงมรดกทางวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ เช่น หอผ้าทอใยฝ้ายและหอผ้าห่มลายมังกร จากนั้นเราไปยังหมู่บ้านกันสือของชาวหลี หมู่บ้านที่มีอายุกว่า 200 ปี ซึ่งเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมบ้านเรือนแบบชั้นเดียวทำจากดินและมุงหลังคาด้วยหญ้า ภายในบ้านมีการแบ่งโซนห้องครัว ห้องนอน ห้องรับแขก ส่วนหน้าบ้านใช้สำหรับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ฝ่าฟืนและตากสมุนไพร เราได้พบกับผู้สูงอายุชนเผ่าหลีที่ยังมีรอยสักตามร่างกาย โดยเฉพาะบนใบหน้า แขน และขา
การสักนี้เป็นประเพณีโบราณซึ่งสะท้อนถึงความงาม ความแข็งแกร่ง และการเปลี่ยนผ่านสู่วัยผู้ใหญ่ของผู้หญิงในชนเผ่า ลวดลายบนใบหน้ามีทั้งเส้นตรงและเส้นโค้งที่มีความหมายเชิงสัญลักษณ์ เช่น ความกล้าหาญ ความสง่างาม และอิสรภาพของผู้หญิง ปัจจุบันประเพณีการสักนี้เริ่มลดน้อยลง เนื่องจากวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่เปลี่ยนไป วัยรุ่นหนุ่มสาวจึงมักไม่มีรอยสักบนใบหน้า แต่ประเพณีนี้ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของชนเผ่าหลี และมาชมการแสดงสุดงดงามที่โซนการแสดงชุด ปิงหลาง กลิ่นอายโบราณ โดยโชว์จะเป็นการเล่าเรื่องย้อนกลับไปเมื่อ 3,000 ปีก่อน ซึ่งจะมีการผสมผสานวัฒนธรรมของทั้งชนเผ่าหลีและม้ง อย่าง รำกระทบไม้ รำบำต้นข้าว ซึ่งเป็นการแสดงที่เป็นหนึ่งในโครงการเผยแพร่วัฒนธรรมจีนสู่เวทีโลก โดยกระทรวงพาณิชย์จีนอีกด้วย
เรานั่งรถไฟความเร็วปานกลางกลับมาที่ไหโขว่ เมืองหลวงของไห่หนาน ก่อนที่จะบินกลับไทย ระหว่างทางเราแวะที่ Mission Hills Huayi Brothers Feng Xiaogang Movie Town หรือที่รู้จักกันในชื่อชุมชนภาพยนตร์เฝิงเสี่ยวกัง ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2011 จากการร่วมทุนของเฝิงเสี่ยวกัง ผู้กำกับชื่อดังและบริษัทผลิตภาพยนตร์ Huayi Brother Media Corporation สถานที่นี้ตั้งอยู่ในเขตหลงหัว และมีการออกแบบบางส่วนให้เหมือนฉากในภาพยนตร์เรื่อง Back to 1942 ซึ่งสะท้อนเหตุการณ์ในช่วงสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง ที่นี่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ทางเขาจะทุกคนจะได้เห็นรอยพิมพ์มือของนักแสดงจีนชื่อดังที่ประทับไว้ให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัส ฝั่งแรกเราเข้ามาชมโซนวัฒนธรรมหนานหยาง ตั้งอยู่เลียบฝั่งแม่น้ำความยาว 300 เมตร พร้อมด้วยสิ่งก่อสร้างกว่า 65 แห่งที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบจีนและต่างประเทศเข้าไว้ด้วยกัน บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยกลิ่นอายของ สังคมยุคเก่า มีท่าน้ำ หอระมัง ซุ้มประตูจีน โรงเรียนศิลปะการต่อสู้และร้านรวงต่างๆอาทิ โรงรับจำนำ ร้านขายเสื้อผ้าตะวันตก ร้านขายยา ร้านจับเลี้ยงหรือชาสมุนไพร ร้านขนมเปี๊ยะ ฯลฯ เรียกได้ว่าเป็นการรักษาวัฒนธรรมสถาปัตยกรรมหนานยาง
เดินข้ามมาอีกฝั่งเป็นโซนวิวเจียงเฉิงเหยาเป็นที่ตั้งของสถาปัตยกรรมที่สวยงามถึง 93 หลัง ที่ผสมผสานการออกแบบจาก 4 เมืองใหญ่ลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียง เพื่อสะท้อนวิถีชีวิตและประเพณีของชาวจีนในช่วงศตวรรษที่ 20 นอกจากนี้ยังมีการบูรณะสิ่งก่อสร้างเก่าแก่จากยุค 1920-1940 รวมถึงหอนาฬิกาซีซาน, โรงละครองซิ่งคาเธ่ย์, สำนักงานหนังสือพิมพ์ซินหัวเดลี่ และจวนเหยาหลู บ้านพักของเจียงไคเซ็ค ภายในยังมีฉากถนนในเมืององชิ่งที่ปรากฏในภาพยนตร์ 1942 ตั้งอยู่ในโซนนี้อีกด้วย
การเดินทางเยือนเหวินชางและซานย่า นอกจากจะได้สัมผัสกลิ่นอายของวัฒนธรรมจีนที่โดดเด่นแล้ว ต้องยอมรับในศักยภาพของประเทศนี้ที่แสดงออกผ่านความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยว แม้สถานที่บางแห่งจะไม่ใช่สิ่งที่มีมาตั้งแต่โบราณ แต่ด้วยแรงกายและฝีมือของมนุษย์ ได้สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ให้มีความยิ่งใหญ่และเสมือนจริง สมกับที่เป็นมหาอำนาจแห่งแดนมังกร นับเป็นทริปที่ทางอาศรมสยาม-จีนวิทยา สมาคมปัญญาภิวัฒน์ และบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ได้พาเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวที่คุ้มค่าอย่างมาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เริ่มแล้วฤดูเก็บฝักเพกา! ปีนี้ราคาดี
เริ่มแล้วฤดูเก็บฝักเพกา เผยปีนี้ราคาดีกว่าปีก่อน พ่อค้ารับซื้อถึงที่ส่งขายจีนใช้ปรุงยา
'Chang Cold Brew' พา6คู่แชมป์'ช้าง คลับฯ สัมผัสสนามระดับ6ดาวที่จีน
“Chang Cold Brew Cool Club” ร่วมกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), สมาคมสนามกอล์ฟไทย และบริษัท ซีซีเค กรุ๊ป จำกัด (TaylorMade Thailand) นำก๊วน 6 คู่หูนักกอล์ฟสมัครเล่นยอดฝีมือและผู้โชคดีจากการแข่งขันกอล์ฟไลฟ์สไตล์ที่คูลที่สุด รายการ “Chang Cold Brew Cool Club presents Chang Club Championship 2024” บินลัดฟ้าสู่เกาะไห่หนาน ฮาวายแห่งเอเชีย สาธารณรัฐประชาชนจีน
'บาส หัสณัฐ' ปลื้มแฟนจีนแห่ต้อนรับสุดอบอุ่น เผยเตรียมลุยคอนเสิร์ตเดี่ยว
มีโอกาสได้ไปร่วมโชว์ในงาน "Trance Music Festival" ที่กุ้ยหลิน ประเทศจีน เมื่อวันก่อน ทำเอานักแสดงหนุ่มหน้าใส "บาส-หัสณัฐ พินิวัตร์" เจ้าของฉายา "บาสเด็กอ้วนที่แท้จริง" ปลื้มสุดๆ เพราะมีแฟนๆชาวจีนมาให้กำลังใจล้นหลาม งานนี้เจ้าตัวเลยมาเล่าถึงการทำงานที่จีน พร้อมทั้งอัปเดตคอนเสิร์ตเดี่ยวที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนธันวาคมนี้