หลังจากเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรี Inaugural Ministerial Meeting of the IAEA World Fusion Energy Group ของกลุ่ม World Fusion Energy Group (WFEG) เครือข่ายด้านพลังงานฟิวชันระดับนานาชาติครั้งแรก เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชัน ซึ่ง จัดโดยองค์การพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) โดยมีผู้แทนระดับสูงจากประเทศสมาชิกของ IAEA องค์การระหว่างประเทศและภาคเอกชน เข้าร่วม ณ กรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลี เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
หลังจากนั้น นางสาวศุภมาส ก็แสดงความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนเทคโนโลยีพลังงานฟิวชั่น โดยเน้นความสำคัญของการบูรณาการพลังงานสะอาด ความมั่นคงทางพลังงาน การเติบโตทางเศรษฐกิจ และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆกัน
ล่าสุดรมว.อว.เปิดเผยว่า ขณะนี้ ตนได้มีนโยบายในการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการควบคุมพลาสมาและนิวเคลียร์ฟิวชัน สำหรับพลังงานฟิวชัน รวมถึงมาตรการสนับสนุนการติดตั้งและเดินเครื่องปฏิกรณ์หน่วยย่อยขนาดเล็ก SMR สำหรับพลังงานฟิวชัน เพื่อเตรียมความพร้อมให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดจากเทคโนโลยีขั้นสูงในภูมิภาคอาเซียน โดยด้านเทคโนโลยีพลังงานฟิวชัน ได้มอบหมายให้ รศ.ดร.ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผอ.สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทน. เร่งพัฒนาและใช้ประโยชน์จากเครื่องโทคาแมค Thailand Tokamak-1 ที่ได้ติดตั้งสำเร็จแล้ว ในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลาสมาและฟิวชัน ให้มีศักยภาพในการต่อยอดและประยุกต์ใช้ รวมทั้งการพัฒนากำลังคนทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในด้านนี้อย่างต่อเนื่อง
ตลอดจนสนับสนุนการจัด ASEAN School for Plasma and Nuclear Fusion หรือ “โรงเรียนฟิสิกส์และฟิวชันนิวเคลียร์อาเซียน” เพื่อเสริมสร้างความรู้และแรงบันดาลใจแก่เยาวชนและนักวิจัยรุ่นใหม่ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ขณะที่ ด้านเทคโนโลยีพลังงานฟิวชัน ได้มอบหมายให้นางเพ็ญนภา กัญชนะ รองเลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) พัฒนาข้อกำหนดมาตรฐานและการควบคุมความปลอดภัยเพื่อสนับสนุนการติดตั้งและเดินเครื่องปฏิกรณ์หน่วยย่อยขนาดเล็ก SMR (Small Modular Reactors) สำหรับพลังงานฟิวชันให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล พร้อมศึกษาและกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยในการจัดการกากกัมมันตรังสี เพื่อเตรียมพร้อมประเทศไทยในการรองรับการพัฒนาและลงทุนในเทคโนโลยีด้านพลังงานสะอาด ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของประชาชน ความมั่นคงและยั่งยืนทางพลังงาน และประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศ
รมว.อว. กล่าวต่อว่า การริเริ่มพลังงานสะอาดนี้เกิดขึ้นภายหลังที่นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร มอบหมายตนเป็นตัวแทนประเทศไทยในการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านพลังงานฟิวชันครั้งแรก Inaugural Ministerial Meeting of the IAEA World Fusion Energy Group (WFEG) ซึ่งจัดขึ้นโดยทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ(IAEA) ณ กรุงโรม เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา การประชุมนี้มีผู้แทนระดับสูงจากประเทศสมาชิก IAEA กว่า 30 ประเทศ รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศและภาคเอกชนเข้าร่วม เพื่อแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์และกำหนดแนวทางในการพัฒนาพลังงานฟิวชันเชิงพาณิชย์อย่างยั่งยืน ที่สำคัญ ในการประชุมครั้งนี้ IAEA ยังได้เปิดตัวเอกสารสำคัญ ได้แก่ World Fusion Outlook 2024 และ Fusion Key Elements ซึ่งเป็นกรอบแนวทางในการพัฒนาพลังงานฟิวชันเชิงพาณิชย์ โดยเน้นองค์ประกอบสำคัญ 6 ด้าน ได้แก่ การวิจัย อุตสาหกรรม ความปลอดภัย ความมั่นคง ความร่วมมือระหว่างประเทศ และการมีส่วนร่วมของสาธารณะ
”การพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานฟิวชันที่ประเทศไทยมุ่งมั่นขับเคลื่อนนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยลดการพึ่งพาพลังงานจากฟอสซิล แต่ยังสร้างความมั่นคงด้านพลังงานที่สะอาดและยั่งยืน ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การที่ประเทศไทยได้รับการสนับสนุนจากองค์กรและผู้เชี่ยวชาญระดับโลกในการพัฒนาฟิวชันเป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงถึงศักยภาพและความพร้อมในการก้าวขึ้นสู่ศูนย์กลางด้านพลังงานสะอาดในภูมิภาค ซึ่งนโยบายดังกล่าวสอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน โดยเน้นการวิจัย การพัฒนาบุคลากร และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ ยืนยันว่ากระทรวง อว. มุ่งมั่นที่จะผลักดันการวิจัยพลังงานฟิวชันให้เป็นจริง ตลอดจนขยายองค์ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่เพื่อพัฒนาอนาคตด้านพลังงานที่ยั่งยืนสำหรับคนไทย“ น.ส.ศุภมาส กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กระทรวง อว. - บพค. จัดงานประชุมวิชาการ PMU-B Brainpower Congress 2024 ภายใต้แนวคิด “Unlocking the Potential of Ignite Thailand: ปลดล็อกศักยภาพคนไทยจุดประกายสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต”
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากําลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.)
“ศุภมาส” จัดเต็ม ! ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ขนทัพมหาวิทยาลัยจากทั่วประเทศรวมไว้ในที่เดียว พร้อมเปิดงาน One Stop Open House 2024 มหกรรมการศึกษาครั้งยิ่งใหญ่
วันที่ 27 พ.ย.67 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานเปิดงาน “One Stop Open House 2024”
เดินหน้าต่อเนื่อง! "ศุภมาส" ประกาศจัดงาน "One Stop Open House 2024" สานต่อความสำเร็จของ "อว.แฟร์"
เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2567 นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) แถลงข่าวประกาศความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของการจัด งาน "อว.แฟร์ : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND" ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 - 28 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมประกาศการเตรียมจัดงาน "One Stop Open House 2024" ภายใต้แนวคิด "อนาคตของคุณเริ่มต้นที่นี่:
อว.หนุนเต็มที่ ! "ศุภชัย" เปิดประชุมนานาชาติด้านชีววิทยาสังเคราะห์ SynBio Consortium 2024
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ณ ห้องอีเทอร์นิตี้ บอลรูม โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ นายศุภชัย ใจสมุทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้รับมอบหมายจาก นางสาวศุภมาส อิศรภักดี
ไปแอ่วหละปูนกันเต๊อะ ยลมหานครโคมโลก !
ประเด็น "การเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล" ในไหล่ทวีป 26,400 ตารางกิโลเมตร ระหว่างไทย-กัมพูชา กลับมาเป็นเรื่องร้อนๆ ที่ถูกพูดถึงทางการเมืองอีกครั้ง
“ศุภมาส” นั่งหัวโต๊ะประชุม ก.พ.อ. เตรียมชง ครม. เยียวยาข้าราชการพลเรือนมหาวิทยาลัยหลังข้าราชการครูปรับเงินเดือนขึ้น พร้อมปรับเงินเดือนชดเชยให้กับพนักงานมหาวิทยาลัยที่บรรจุก่อน 1 พ.ค. 2567 และก่อน 1 พ.ค. 2568
เมื่อวันที่ 30 ต.ค.67 น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)