กระทรวงเกษตรฯไทย-อิตาลี เตรียมทำ MOU ผลักดันการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ


11 พ.ย.2567 - นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับ นายฟรานเชสโก โลโลบริจิดา (H.E. Mr. Francesco Lollobrigida) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร อธิปไตยทางอาหาร และป่าไม้สาธารณรัฐอิตาลีและคณะ ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายไทย)ร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ(ฝ่ายอิตาลี) เตรียมจัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตร ระหว่างไทย - อิตาลี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการเกษตรครอบคลุมการผลิต การค้า และการลงทุน เพื่อยกระดับความสัมพันธ์และส่งเสริมความเข้มแข็งให้ภาคเกษตรของทั้งสองประเทศรวมถึงเพื่อขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนสำหรับภาคธุรกิจอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร

“ขณะนี้ฝ่ายไทยอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดของร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าว เพื่อให้การขับเคลื่อนความร่วมมือมีความชัดเจน เป็นรูปธรรม และเกิดประโยชน์แก่ทั้ง 2 ประเทศอย่างสูงสุดนอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้มีการหารือถึงความเป็นไปได้ในการขยายความร่วมมือให้ครอบคลุมถึงการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการออกแบบเสื้อผ้าที่มาจากผ้าไหม เพื่อเสริมสร้าง soft power ของไทย เนื่องจากอิตาลีถือเป็นผู้นำด้านแฟชั่นของโลกอีกด้วย” นางนฤมล กล่าว

ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ (ฝ่ายอิตาลี) กล่าวว่า การหารือครั้งนี้เป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย - อิตาลี อีกทั้งยังเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านการขับเคลื่อนภารกิจภาคการเกษตร อาทิ การเปิดตลาดนำเข้า-ส่งออกสินค้าเกษตรเพิ่มเติม เป็นต้น โดยฝ่ายอิตาลีพร้อมสนับสนุนประเทศไทยในการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป ตาม 2 ข้อบท ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายไทย) รับผิดชอบ ได้แก่ 1) ข้อบทมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (Sanitary and Phytosanitary Measures) และ 2) ข้อบทระบบอาหารที่ยั่งยืน (Sustainable Food Systems) อีกด้วย พร้อมทั้งจะสนับสนุนเร่งรัดให้สหภาพยุโรปอนุญาตนำเข้าม้ามีชีวิตจากไทยได้อีกครั้งต่อไป

ทั้งนี้ สำหรับประเทศอิตาลีเป็นตลาดส่งออกสินค้าเกษตรอันดับที่ 22 ของไทย ซึ่งในปี 2567 (ระหว่างเดือนม.ค.-ก.ย.) เทียบกับปี 2566 ในช่วงเวลาเดียวกัน พบว่า มีการส่งออกไปอิตาลีเพิ่มขึ้นจาก 8,561 ล้านบาท เป็น 11,883 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3,322 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 38.80 โดยมีสินค้าส่งออกสำคัญ 10 อันดับแรก ได้แก่ 1.อาหารสุนัขหรือแมวสำหรับขายปลีก 2.ปลาหมึกแช่แข็ง อาทิ ปลาหมึกกระดอง ปลาหมึกกล้วย 3.ยางธรรมชาติที่กำหนดไว้ในทางเทคนิค 4.ยางแผ่นรมควัน 5.ข้าวที่สีบ้างแล้วหรือสีทั้งหมด อาทิ ข้าวเหนียว ข้าวหอมมะลิ 6.ปลาปรุงแต่งอื่น ๆ อาทิ ไส้กรอกปลา ลูกชิ้นปลา 7.พืชผัก ผลไม้ ลูกนัต เปลือกผลไม้ และส่วนอื่นของพืช แช่อิ่ม เชื่อม หรือฉาบ 8.หอยลาย หอยกาบและหอยแครงปรุงแต่ง 9.ปลาหมึกกระดองและปลาหมึกกล้วยที่ปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย และ 10.กุ้งปรุงแต่ง ที่ไม่ได้บรรจุภาชนะ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'วิชิต' เดือด! ฟ้องอาญา-แพ่ง 'ธนดล' ปมไร่ภูนับดาว

'วิชิต' ฉุนด่าเนรคุณ เปรียบเหมือนสุนัขเลี้ยงไม่เชื่อง จ่อฟ้องอาญา-แพ่ง 'ธนดล' หมิ่นประมาทใส่ร้าย ยันเสี่ย 'ไร่ภูนับดาว' เป็นเกษตรกรจริง

รัฐบาลขีดเส้น 30 วัน เร่งเยียวยาเกษตรกรใต้ 9.4 หมื่นราย

'อนุกูล' เผยรัฐบาลเร่งเยียวยาเกษตรกรชาวใต้หลังน้ำท่วม ตีกรอบสำรวจความเสียหาย 30 วัน รับเงินช่วยเหลือภายใน 10 วัน หลัง ธกส. อนุมัติ

รัฐบาลตีปี๊บ 10 เดือนส่งออกสินค้าเกษตร 2.1 ล้านล้าน

'อนุกูล' เผยตัวเลขส่งออกสินค้าเกษตรช่วง 10 เดือนปี 2567 มูลค่ารวมกว่า 2.1 ล้านล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 6.49 'ข้าว' ครองแชมป์สินค้าเกษตรส่งออก มูลค่า 168,685 ล้านบาท ขยายตัว 39.24%

'นฤมล' ชิ่งภูนับดาว อ้าแขนรับเพื่อนพลังประชารัฐสุมหัวกล้าธรรม

“นฤมล” รอกระบวนการกม. ก่อนรับสส.พปชร. ร่วมพรรคกล้าธรรม ลั่น แม้เสียงในมือเพิ่ม แต่ไม่ต่อรอง ย้ำ ไม่มีดีลไร่ภูนับดาว ปัดตอบปม ”ทักษิณ“ ติงพรรคร่วมเป็นอีแอบ แจง"อัครา" ลา เหตุป่วยจริง

กษ.ระดมสรรพกำลังเร่งช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้ เกาะติดสถานการณ์ตลอด 24 ชม.

นายเอกภาพ พลชื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่านางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งกรมชลประทาน ติ

พรรคกล้าธรรม พร้อมรับ 20 สส.กลุ่มผู้กองธรรมนัส

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม กล่าวภายหลังพรรคพลังประชารัฐเตรียมประชุมร่วมกรรมการบริหารพรรค และสส. เพื่อขอมติในขับสส. 20 คน ที่สังกัดกลุ่ม