ย้อนเวลา 4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ

ชวนแต่งชุดไทยเดินทางย้อนเวลากลับไปสู่ช่วงต้นกรุงศรีอยุธยา  ดื่มด่ำกับบรรยากาศโบราณสถานยามค่ำคืนที่งดงามในงาน “ 4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ” ภายใต้แนวคิด “ย้อนเวลา ส่องวิถี ปลุกแสงสี พระนครศรีอยุธยา” โดยจะจัดกิจกรรมตามวัดและโบราณสถานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ประกอบด้วยวัดไชยวัฒนาราม วัดราชบูรณะ วัดมหาธาตุ วัดพระราม และพระราชวังจันทรเกษม จ.พระนครศรีอยุธยา  วันที่ 9 – 17 พ.ย. 2567 จัดโดยกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.)  กรมศิลปากร   งานเน้นย้ำเสน่ห์อยุธยาเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมด้วยการเชื่อมโยงมรดกทางศิลปวัฒนธรรมกับคนทุกกลุ่มวัยและร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยว ปักหมุดให้อยุธยามรดกโลกเป็นหมุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวสอดรับกิจกรรม Thailand Winter Festival  ของรัฐบาลแพทองธาร

ในงานแถลงข่าวงาน “4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ” ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จัดโดยกระทรวงวัฒนธรรม กรมศิลปากร การนี้ นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม  เป็นประธาน พร้อมด้วย นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัด วธ. นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร นายเกียรติปราโมทย์ ฉายศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  เปิดไฮไลท์ของงานตลอด 9 วัน ใน 5 โบราณสถานล้ำค่า และการแสดงชักนาคดำดำบรรพ์ ตำนานกวนน้ำอมฤต เรียกน้ำย่อย ก่อนถึงวันจริง

น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล  กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรมเป็นหน่วยงานหลักดูแลมรดกศิลปวัฒนธรรมชาติและให้ความสำคัญกับนโยบายของรัฐบาลยกระดับภูมิปัญญาไทยไปสู่วัฒนธรรมสร้างสรรค์ส่งเสริม Soft Power ของประเทศ โดยนำทุนทางวัฒนธรรมไทยที่มีหลากหลายเผยแพร่ไปทั่วโลก กระตุ้นให้เกิดการใช้วัฒนธรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างคุณค่าทางสังคม และมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ปีที่ผ่านมา วธ.ผลักดันกิจกรรมการท่องเที่ยวโบราณสถานยามค่ำคืนในพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เป็นอดีตราชธานีที่ยังคงเหลือไว้ ซึ่งโบราณสถานโบราณวัตถุที่เป็นรากเหง้าของศิลปวัฒนธรรมไทย และยูเนสโกประกาศให้เป็นแหล่งมรดกโลกเมื่อ พ.ศ. 2534 อุทยานแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่งของไทย แต่ละปีมีชาวไทยและต่างประเทศเข้าชมไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคน จัดเก็บค่าเข้าชมมากกว่า 100 ล้านบาทต่อปี เกิดรายได้จากการท่องเที่ยวแก่ จ.อยุธยาและประเทศไทยหลายหมื่นล้านบาทต่อปี   

งาน “4 วัด 1  วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ” รมว.วธ. บอกว่า ใช้แนวคิดสมัยกรุงศรีอยุธยาที่ยังไม่มีอินเทอร์เน็ต สื่อโซเซียล ภาพยนตร์ โทรทัศน์ ความสุขหรือมโหรสพของคนในยุคนั้นมีอะไรบ้าง  นำเสนอผ่านกิจกรรมทางวัฒนธรรม การละเล่นย้อนยุค อาทิ การแสดงโขน การแสดงละครนอก โดยสำนักการสังคีต สาธิตช่างฝีมืออย่างไทยโบราณ โดยสำนักช่างสิบหมู่ การแสดงหนังใหญ่วัดขนอน จ.ราชบุรี การแสดงเพลงโดยศิลปินรางวัลเพชรในเพลง พร้อมทั้งประดับไฟ Lighting Art Installation และการฉาย Projection Maping บนโบราณสถานอันทรงคุณค่าให้ได้เห็นความงดงามยามค่ำคืน สื่อยุครุ่งเรืองทั้งศิลปะ วัฒนธรรม และการค้าขาย วิถีผู้คนในอดีตที่มีความสุข เต็มไปด้วยเสน่ห์ไทย

สำหรับพิธีเปิดงานวันที่ 10 พ.ย. วธ.จะจัดรถไฟขบวนพิเศษจากสถานีหัวลำโพงมายังอยุธยา โดยจะแวะชมสถานที่สำคัญในเขตอำเภอบางปะอิน พร้อมทั้งร่วมถ่ายภาพแบบย้อนยุค ณ สถานีรถไฟบางปะอินหลังเดิมที่สร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 5  โดยห้องภาพฉายานิติกร และจัดแสดงโขนในค่ำคืนนั้นด้วย ช่วงกลางวันร่วมกับสมาคมแมวไทยโบราณนานาชาติจัดประกวด “แมวไทยโบราณคืนถิ่นกรุงศรี” ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา  ภายในงาน ประกอบด้วยการประกวดแมว การแสดงโบราณวัตถุและศิลปวัตถุที่เกี่ยวกับแมว การแสดง ฉยฉายนางวิฬาร์ โดยสำนักการสังคีต และการเสวนาเรื่อง “แมวโบราณ ครั้งกรุงศรีอยุธยา” จากวิทยากรผู้ทรงความรู้ด้านแมวไทยโบราณ

 สำหรับวันที่ 15  พ.ย. ตรงกับวันลอยกระทง ชวนมาร่วมกิจกรรมลอยกระทงที่วัดไชยวัฒนาราม กิจกรรมประกวดนางนพมาศที่วัดพระราม และมีการเสกน้ำพระพุทธมนต์จันทร์วันเพ็ญ ซึ่งเป็นการทำพิธีเสกน้ำที่ตักจากแหล่งน้ำหน้าวัดสำคัญ 9 แห่ง ในจ.พระนครศรีอยุธยา ที่จะปลุกเสกโดยพระเกจิอาจารย์ 5 รูป ณ พระวิหารหลวง วัดมหาธาตุ ในเวลาฤกษ์ 19.09 น. และเมื่อเสร็จพิธีผู้ร่วมงานสามารถรับน้ำที่ปลุกเสก  2,000 ขวด  แต่ละวันตระการตาการแสดงศิลปวัฒนธรรมและละเล่นไทยโบราณ มาแต่งไทยเช็คอินที่ระลึกในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสวยงามของสถานที่ทางประวัติศาสตร์ยามค่ำคืน อิ่มอร่อยจากการออกบูธอาหารทุกภูมิภาคตลอดการจัดงาน 

หลังจากจบงาน “4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ”แล้ว  กรมศิลปากรยังคงเปิดให้เข้าชมโบราณสถานยามราตรีทั้ง 5 แห่ง ในวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ รวมทั้งวันหยุดนักขัตฤกษ์และในช่วงเทศกาลต่อเนื่องไปจนถึงเทศกาลปีใหม่ชวน เที่ยววัดชมวังเสริมสิริมงคลรับศักราชใหม่ พ.ศ. 2568   

สายวัด สายวัง สายมู สายคอนเทน มาเปิดประสบการณ์ใหม่กับบรรยากาศโบราณสถานยามค่ำคืนที่งาน “4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ” เย็นย้ำของวันที่ 9 – 17 พ.ย. นี้   ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจเฟซบุ๊ก อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา Ayutthaya Historical Park 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สืบสานประเพณีถวายผ้าพระกฐินวัดหนองแวง แหล่งรวมมรดกวัฒนธรรม

5 พ.ย.2567 - นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า เนื่องในเทศกาลกฐิน พุทธศักราช 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานผ้าพระกฐินให้กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) นำไปถวายพระสงฆ์ที่จำพรรษา

'หมูเด้ง' ซุปตาร์ดันวัฒนธรรมไทยสู่ระดับโลก

“หมูเด้ง”ซุปเปอร์สตาร์ฮิปโปแคระที่โด่งดังเป็นไวรัลทั่วโลกจากความน่ารักขี้เล่น  สื่อต่างประเทศนำไปลงข่าว นิตยสาร TIME พาดหัวข่าวเป็นไอคอนไลฟ์สไตล์ที่กิน นอน และแอคชั่นดราม่า สร้างปรากฎการณ์หมูเด้ง  ช่วยให้ยอดนักท่องเที่ยวเข้าชมสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี เพิ่มทวีคูณ 

ลอยกระทงวิถีไทย สืบสานประเพณีงดงาม

วันลอยกระทงปีนี้ ตรงกับวันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2567 จัดเป็นเทศกาลประเพณีสำคัญของคนไทยที่จะได้ร่วมกันสืบสานคุณค่าประเพณีอันดีงาม โดยการทำกระทงสวยงามหลากหลายรูปแบบ นำไปลอยตามแม่น้ำลำคลอง เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ

โบราณสถานเวียงกุมกามเสียหายหนักจากน้ำท่วม

7 ต.ค.2567 - นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามผลกระทบของสถานการณ์อุทกภัยที่มีต่อโบราณสถานสำคัญของจังหวัด โดยพบว่า พื้นที่เวียงกุมกามที่เป็นเมืองโบราณสมัยพญามังรายปฐมกษัตริย์ล้านนา ที่ตั้งอยู่ในอำเภอสา

ประเพณีถือศีลกินผักภูเก็ต อัตลักษณ์แห่งศรัทธาสืบทอดมา 199 ปี

จังหวัดภูเก็ต พร้อมหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน คณะกรรมการอ๊าม (ศาลเจ้า) และองค์กรต่าง ๆ พร้อมใจกันจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในงานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2567  โดยมี นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล