เกาะไห่หนาน ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดบริเวณปากน้ำหนานตู้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน กำลังกลายเป็นจุดหมายท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่มีเสน่ห์และน่าหลงใหลอย่างยิ่ง ท่ามกลางการพัฒนาและการเติบโตอย่างรวดเร็วที่ทำให้ที่นี่มีทั้งความทันสมัยและยังคงมีธรรมชาติ ผืนป่าฝนเขียวชอุ่ม ภูเขาสูงตระหง่าน และต้นมะพร้าวที่เรียงรายอยู่รอบเมือง
ในอดีตการเดินทางมาที่เกาะไห่หนานค่อนข้างลำบากเพราะจากไทยไม่มีเที่ยวบินตรง แต่ปัจจุบันรัฐบาลจีนที่ตั้งเป้าจะให้เกาะแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและสินค้าปลอดภาษี หรือ ฮ่องกงใหม่ จึงได้มีการปรับปรุงสนามบินเดิมที่บินภายในประเทศให้ได้มาตรฐานสนามบินนานาชาติ Hainan Airlines ซึ่งเป็นสายการบินที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ในจีน เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการบินตรงมายังเกาะไห่หนานได้เลย และการพัฒนาโครงสร้างเมืองต่างๆอีกด้วย
การเที่ยวในเกาะไห่หนานครั้งนี้จะไปเยือนยังเมืองเหวินชาง-ซานย่า สองเมืองเล็กๆที่อบอวลไปด้วยธรรมชาติของขุนเขา ทะเล วัฒนธรรม ศาสนา และประเพณีอันงดงาม และเปิดประสบการณ์เที่ยวเป็นหมู่คณะมีไกด์ขาวจีนที่พูดภาษาไทยได้เกือบคล่องชื่อว่า ยอดชาย เป็นผู้นำเที่ยว เมื่อขึ้นรถบัสค่อยเคลื่อนตัวออกจากสนามบิน บรรยากาศนอกหน้าต่างเราสัมผัสได้ถึงการพัฒนาที่เร่งรีบและรวดเร็วของเมืองแห่งนี้ อาคารหรือถนนหลายแห่งยังมีการก่อสร้าง มีตึกคล้ายต้นไม้ และอาคารขนาดใหญ่ผุดขึ้นจำนวนมาก ไกด์บอกว่ามีสะพานเส้นหนึ่งในเมืองนี้ที่ใช้เวลาสร้างเพียงแค่ 7 เดือน คือ ทำงานกันทั้งวันทั้งคืน เพราะในจีนสามารถขออนุญาตทำการก่อสร้างตอนกลางคืนได้ เพียงแต่ต้องให้เสร็จตามระยะเวลาที่กำหนด ไม่เช่นนั้นจะต้องเสียค่าปรับ จึงไม่แปลกใจเลยที่ทุกอย่างจะถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
อีกสิ่งที่สะดุดตาตลอดการนั่งชมบรรยากาศบนรถคือ ต้นมะพร้าวที่ตั้งเรียงรายอยู่สองฝั่งถนน เพราะต้นมะพร้าวเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเกาะ มีบทบาทสำคัญทั้งในด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และวิถีชีวิตของคนบนเกาะ ด้วยสภาพภูมิอากาศแบบเขตร้อนที่เหมาะสมกับการปลูกต้นมะพร้าว ไห่หนานจึงกลายเป็นแหล่งปลูกมะพร้าวที่สำคัญของจีนอีกด้วย สลับกับทิวทัศน์ของอุโมงค์ต้นไม้อันร่มรื่นที่ทำให้การเดินทางบนท้องถนนสดชื่นมากๆ
แต่ที่ชอบมากๆคงจะต้องยอมรับในความเข้มงวดและศักยภาพของจีนในการสนับสนุนให้ประชากรใช้รถไฟฟ้า เพราะไม่ว่าในตัวเมืองจะมีการจราจรที่หนาแน่นไม่ต่างจากใจกลางกรุงเทพฯ แต่ไร้ควันจากท่อรถที่สร้างมลพิษบนท้องถนน ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งนโยบายของจีนที่ให้ประชากรใช้รถไฟฟ้า ช่วยในการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยมีการสร้างจุดชาร์จที่ครอบคลุม ทำให้สะดวกต่อการใช้งาน
ชมบรรยากาศผ่านเส้นถนนในเมืองหลวงไห่หนานอย่างเพลิดเพลินรถก็แล่นเข้าสู่เมืองเหวินชาง ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาและวรรณคดีเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังเป็นแหล่งกำเนิดผู้มีชื่อเสียงมากมาย จนถึงกับมีคำกล่าวว่า ในหนึ่งลี้ต้องมีจิ้นชื่อ(ตำแหน่งบัณฑิตผู้สอบติดขั้นสุดท้าย) 3 คน ในเจ็ดลี้ต้องมีจีว์เหริน(ตำแหน่งบัณฑิตผู้สอบผ่านเคอจี่ว์ระดับท้องถิ่น) 8 คน และได้รับสมญาว่าชุมชนแห่งวัฒนธรรม จุดหมายปลายทางจึงต้องมา ศาลขงจื้อ นับว่าเป็นศาลเจ้าแห่งแรกของไห่หนาน สร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยราชวงศ์ช่ง จากนั้นในสมัยราชวงศ์หมิง ได้สร้างขึ้นใหม่ในสถานที่ปัจจุบัน และมีการบูรณะเรื่อยมา ถือเป็นกลุ่มอาคารโบราณซึ่งได้รับการอนุรักษ์จึงมีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์
บรรยากาศอันเงียบสงบสลับกับสายฝนพร่ำ ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้ดูมีมนต์ขลัง ที่รายล้อมไปด้วยอาคารทรงทันสมัย แต่ด้วยพื้นที่ขนาด 3,300 ตารางเมตร เป็นที่ตั้งอาคารทั้งหมด 37 หลัง ไม่ว่าจะเป็นวิหาร หอเช่นไหว้ต่างๆ หรือห้องจัดนิทรรศการ สถาปัตยกรรมของศาลขงจื่อเหวินชางนี้ โดดเด่นสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์หมิงและชิงโดยส่วนใหญ่ลายภาพสลักบนประตูหรือเสาก็ยังคงมีสภาพดี เมื่อเดินเข้าประตูหน้า จะพบซุ้มประตูหลิงซิง เป็นอันดับแรกเหตุที่ชื่อหลิงชิง เนื่องจากดาวหลิงซิงเป็นดาวแห่งเทพบุ่น เปรียบเปรยว่าขงจื่อคือ ดาวหลิงซิงจุติลงมา และจะเจอสะพานจอหงวน อันเป็นสัญลักษณ์และเป็นดั่งการอวยพรให้ผู้ที่เดินข้ามสะพานนี้สอบได้สมปรารถนา ข้ามสะพานมาก็จะพบกับรูปสลักของปรมาจารย์ขงจื้อองค์สีขาวเป็นประกาย ประดิษฐานอยู่ ซึ่งถือเป็นจุดเช็กอินยอดฮิตของศาลขงจื้อ ภายในวิหารยังมีวัตถุโบราณสำคัญอีกมากมาย
จากนั้นคณะทัวร์เตรียมข้ามไปเที่ยวเมืองซานย่า โดยสารรถไฟความเร็วปานกลางเส้นทางเหวินชาง-ซานย่า ซึ่งเป็นเส้นทางที่เชื่อมสองเมืองให้เดินทางถึงกันได้อย่างสะดวก รวดเร็ว โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ รถไฟเส้นทางนี้มีผู้ใช้บริการมากมาย ทั้งนักท่องเที่ยวและชาวจีนท้องถิ่น ภายในรถไฟมีห้องน้ำที่สะอาดเรียบร้อย แม้ยังเป็นส้วมนั่งยองแต่มีระบบกดชำระคล้ายชักโครก ทำให้สะดวกสบาย ไม่ต้องใช้ขันตักน้ำ ซึ่งในพื้นที่ทั่วไปบนเกาะ ห้องน้ำสาธารณะลักษณะแบบนี้ยังพบได้บ่อย ส่วนส้วมแบบชักโครกมักมีในโรงแรมหรือภัตตาคาร
จุดหมายแรกในเมืองซานย่า พุ่งตัวมายังสวนพุทธธรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A เมื่อมาถึงผู้เข้าชมจะได้พบกับสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นที่สุด คือ องค์เจ้าแม่กวนอิมหนานซาน ที่มีความสูงถึง 108 เมตร ทำให้เป็นปางเจ้าแม่กวนอิมยืนที่สูงที่สุดในโลก เนื่องจากพื้นที่กว้างขวาง จึงมีบริการรถกอล์ฟเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง แต่ยังมีนักท่องเที่ยวบางส่วนที่เลือกเดินไปสักการะเจ้าแม่กวนอิม ระยะทางจากฝั่งไปยังจุดที่ตั้งของเจ้าแม่กวนอิมริมทะเลจีนใต้ราวๆ 500 เมตร ขณะที่รถค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าไปยังจุดสักการะ ความใกล้ชิดที่เพิ่มขึ้นทำให้ได้เห็นความอลังการขององค์เจ้าแม่กวนอิมอย่างชัดเจน
สำหรับองค์เจ้าแม่กวนอิมหนานซานได้มีการสร้าง 3 พักตร์ 3 ทิศ มีความหมาย คือ สติปัญญา ความเมตตา และสันติภาพ ซึ่งมีความเชื่อว่าหลังจากสร้างองค์เจ้าแม่กวนอิ่มเสร็จ เกาะแห่งนี้ไม่เคยเกิดภัยพิบัติทางทะเลอย่างหนักอีกเลย โครงการสวนพุทธธรรมที่ยิ่งใหญ่ตั้งอยู่บริเวณทางทิศตะวันตกของเขาหนานซาน มีพื้นที่กว่า 40,000 ตารางเมตร ล้อมรอบภูเขาหนานซานที่มีความสูงถึง 500 กว่าเมตร ศูนย์วัฒนธรรมแห่ง นี้ใช้งบประมาณในการสร้างกว่า 6,000 ล้านหยวน และถือว่าพื้นที่แห่งนี้ตรงตามลักษณะฮวงจุ้ยที่ดีที่สุด คือ ด้านหน้าติดทะเลและด้านหลังคือภูเขาถือเป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเกาะไห่หนาน ทำให้มีผู้คนจำนวนมากหลั่งไหลมาสักการะ ส่วนใต้องค์เจ้าแม่กวนอิม ยังสามารถเข้าไปเคารพองค์เจ้าแม่ด้านในแต่ห้ามถ่ายภาพ และสามารถขึ้นไปชมวิวทะเลจีนใต้ตรงบริเวณกลีบดอกบัวได้ หากยังไม่จุใจจะมีรถรางน่าตาน่ารักพาชมรอบๆ สวนพุทธธรรมอีกด้วย
มาถึงไห่หนาน ก็ไม่พลาดที่จะลิ้มรสไก่ไหหลำ ที่นิยมอย่างมากบนเกาะแห่งนี้ เพราะเป็นอาหารดั้งเดิมของชาวจีนในเกาะไห่หนาน ที่มีการเลี้ยงไก่พันธุ์ดีและใช้เทคนิคการปรุงที่เฉพาะเจาะจง ทำให้ไก่มีรสชาติอร่อยและเนื้อสัมผัสที่นุ่ม เพราะจะด้วยน้ำซุปผสมสมุนไพรเสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวยที่ปรุงจากน้ำซุปไก่ มีรสชาติกลมกล่อม แต่ส่วนของน้ำจิ้มไก่จะแตกต่างจากข้าวมันไก่ไหหลำในไทยที่มักจะใช้ซอสถั่วเหลืองหรือเต้าเจี้ยว แต่ที่นี่จะเน้นจากน้ำมันงา ใส่พริกปั่นละเอียด มีรสเปรี้ยวนิดหน่อย นอกจากนี้ในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็มีการดัดแปลงสูตรให้ถูกปากของแต่ละพื้นที่ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เป็นต้น
ความพิเศษของไก่หลำนอกจากเนื้อสัมผัสแล้ว อดไม่ได้ที่จะชื่นชมกับความสร้างสรรค์ในการจัดจานของเชฟในร้านอาหารแต่ละแห่ง ทุกจานที่เสริฟไกไหหลำ จะมีการตกแต่งให้โดดเด่นโดยมีการนำหัวไก่ มาประดับเคียงคู่กับเนื้อไก่ ประกอบกับตกแต่งชิ้นเนื้อให้ดูเหมือนรูปร่างของไก่ ทางไกด์บอกว่าเป็นการบ่งบอกว่าที่นี่ใช้ไก่ 1 ตัวจริงๆ และไม่เพียงแค่เมนูนี้ หลายเมนูบนโต๊ะก็มีการตกแต่งที่สวยงามดูแปลกตาเช่นกัน ทานอาหารอิ่มจนพุงกาง แต่การเดินทางที่เมืองซานย่า ยังไม่ได้จบแต่เพียงเท่านี้ โปรดรอติดตามได้ในตอนต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'บาส หัสณัฐ' ปลื้มแฟนจีนแห่ต้อนรับสุดอบอุ่น เผยเตรียมลุยคอนเสิร์ตเดี่ยว
มีโอกาสได้ไปร่วมโชว์ในงาน "Trance Music Festival" ที่กุ้ยหลิน ประเทศจีน เมื่อวันก่อน ทำเอานักแสดงหนุ่มหน้าใส "บาส-หัสณัฐ พินิวัตร์" เจ้าของฉายา "บาสเด็กอ้วนที่แท้จริง" ปลื้มสุดๆ เพราะมีแฟนๆชาวจีนมาให้กำลังใจล้นหลาม งานนี้เจ้าตัวเลยมาเล่าถึงการทำงานที่จีน พร้อมทั้งอัปเดตคอนเสิร์ตเดี่ยวที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนธันวาคมนี้
เหนือ-อีสาน อากาศเริ่มเย็น ใต้ฝนตกวงกว้าง
กรมอุตุนิยมวิทยา รายงาน พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมด้านตะวันออกของภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นในตอนเช้า
ฮอตเกินต้าน! 'หมีพูห์' เข้าตา 'MILK X' แมกกาซีนดังฮ่องกงดึงถ่ายแฟชั่นเอเชีย
ออร่าจับตั้งแต่ยังไม่เดบิวต์ สำหรับ “MEEPOOH” หรือ “หมีพูห์-วิน สกุลแสงประภา” ที่ตอนนี้เตรียมตัวเป็นศิลปินหน้าใหม่จากค่าย WhiteFox ในสังกัด GMM MUSIC ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้กระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากผลงาน Pre-Debut โปรเจกต์ WhiteFox Playlist ที่ปล่อยออกมาให้ได้ชมกันไปไม่นาน
อุตุฯ ออกประกาศฉบับที่ 7 เตือนฤทธิ์พายุโซนร้อน 'พระพิรุณ'
กรมอุตุฯ ประกาศฉบับที่ 7 เตือนฤทธิ์พายุโซนร้อน “พระพิรุณ” เผยความเร็วสูงสุด ขอให้ประชาชนตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย