ศูนย์เรียนรู้ฯเขานาใน แหล่งธนาคารขมิ้นชัน ต่อยอดศักยภาพเมืองสมุนไพร 

ผลผลิตหัวขมิ้นชันที่สมบูรณ์ 

จ.สุราษฎร์ธานี เป็นหนึ่งใน 14 เมืองสมุนไพรของประเทศ กลุ่มการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและความงามแบบครบวงจร ปัจจุบันมีวิสาหกิจชุมชนที่ปลูกและแปรรูปสมุนไพรกว่า 100 แห่ง โดยเฉพาะขมิ้นชัน เห็ดแครง และน้ำมันมะพร้าว ซึ่งขมิ้นชัน เป็นหนึ่งในสมุนไพรที่ทางจ.สุราษฎร์ธานีมีการส่งเสริมให้ปลูกและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ในเชิงพาณิชย์มากขึ้นด้วย

หนึ่งในกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่มีการปลูกขมิ้นชันคุณภาพสูงของจ.สุราษฎร์ธานี เป็นชุมชนเกษตรกรรมเล็กๆ ในตำบลต้นยวน อำเภอพนม ซึ่งเดิมเน้นการปลูกยางพาราและปาล์มน้ำมัน แต่เมื่อราคาผลผลิตตกต่ำ ชาวบ้านโดยเฉพาะกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรจึงหันมาปลูกขมิ้นเพื่อเสริมรายได้ กิจกรรมนี้นำไปสู่การรวมกลุ่มแม่บ้านเกษตรในการผลิตและแปรรูปขมิ้นเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามอย่างเป็นระบบ จนสามารถจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนบ้านเขานาใน เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์และสร้างรายได้ที่ยั่งยืนแก่ชุมชน

หัวขมิ้นชันหลากหลายสายพันธุ์

เส้นทางของการพัฒนาขมิ้นชันของวิสาหกิจชุมชนบ้านเขานาใน ทั้งกระบวนการปลูกและการขยายสินค้าเข้าสู่ตลาดให้ได้คุณภาพและประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงได้เข้าร่วมโครงการชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า ของบริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เพื่อพัฒนาเป็นชุมชนต้นแบบและจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ฯ แห่งที่ 6 โดยได้รับการสนับสนุนด้านการเกษตร ด้านการตลาดและการสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมถึงด้านการพัฒนาศักยภาพบุคลากร เพื่อเป็นรากฐานในการต่อยอดพัฒนาการปลูกขมิ้นและผลิตภัณฑ์ของคนในวิสาหกิจชุมชน อาทิ โครงการแปลงทดสอบปลูกสมุนไพร ขมิ้นชัน และพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปสมุนไพร ให้ได้มาตรฐานสินค้าและบรรจุภัณฑ์

ล่าสุด บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ร่วมกับวิสาหกิจชุมชนบ้านเขานาใน เปิด “ ศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า – เขานาใน” แห่งแรกของภาคใต้ เพื่อเป็นชุมชนต้นแบบด้านการเกษตร ชูจุดเด่น Womenomics พลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน ด้วยบทบาทกลุ่มเกษตรกรหญิงแกร่งแห่งวิสาหกิจชุมชนบ้านเขานาใน พร้อมต่อยอดผลผลิตขมิ้นชัน ภายใต้บทบาทการส่งเสริมองค์ความรู้ด้วยระบบ KUBOTA (Agri) Solutions หรือ KAS นวัตกรรมเกษตรครบวงจรของสยามคูโบต้า ในการปลูกพืชสมุนไพร

บันดาล สถิรชวาล

บันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานีให้ความสำคัญกับการพัฒนาในหลายด้าน ทั้งด้านเกษตรกรรมยั่งยืน โครงสร้างพื้นฐาน ด้านการท่องเที่ยว ด้านสิ่งแวดล้อม และการผลักดันให้เป็นเมืองสมุนไพร ดังนั้นในการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า-เขานาใน จึงเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์นี้ ในการยกระดับศักยภาพให้จ.สุราษฎร์ฯ เป็นเมืองสมุนไพรครบวงจร และมีการทำเกษตรกรรมที่ยั่งยืน เพราะในจังหวัดมีเกษตรกรประมาณ 70% จากจำนวนประชากรทั้งหมดราวๆ 1 ล้านคน ซึ่งในอ.พนม ถือเป็นต้นแบบในการพัฒนาขมิ้นชันที่มีคุณภาพสูงได้การรับรองมาตรฐาน GI มากที่สุด ทั้งนี้จะเร่งดำเนินการในการช่วยให้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากขมิ้นชันของศูนย์ฯ ให้ได้การรับรอง อย. เพื่อรองรับมาตรฐานและคุณภาพของสินค้า จะช่วยยกระดับคุณภาพสินค้าและส่งเสริมให้จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่น่าสนใจยิ่งขึ้น และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เป็น Wellness Tourism  ของจังหวัดในในอนาคต

จูนจิ โอตะ

ด้านจูนจิ โอตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า-เขานาใน” ในครั้งนี้ ได้มีการทำการศึกษาวิเคราะห์พื้นที่การเกษตรในชุมชน โดยพบว่าต้นทุนการปลูกขมิ้นสามารถลดลงได้หากมีการเตรียมการที่ดีและได้รับการรับรองมาตรฐาน นอกจากนี้ยังได้พัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัย รวมถึงวางแผนช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ ในด้านการพัฒนาศักยภาพบุคลากร สยามคูโบต้าได้จัดหลักสูตรอบรมเพื่อให้ความรู้ด้านการศึกษาดูงาน รวมถึงการทำการตลาดออนไลน์ ซึ่งทำให้ศูนย์เรียนรู้แห่งนี้ไม่เพียงเป็นแหล่งรวมความรู้ด้านการเกษตรเท่านั้น แต่ยังเป็นต้นแบบในการใช้นวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรครบวงจรในการปลูกพืชสมุนไพร ศูนย์แห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางความร่วมมือในการผลิตสมุนไพร สร้างอาชีพและรายได้ให้แก่ชุมชน ต่อยอดเศรษฐกิจของจังหวัด และยังสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เกษตรกรและผู้สนใจในด้านการเกษตร

แทรกเตอร์คูโบต้า เติมเต็มศักยภาพเกษตรกร

“ทั้งนี้มีแผนที่จะพัฒนาศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า – เขานาใน ให้เป็นธุรกิจชุมชนต้นแบบ โดยตั้งเป้าเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและศูนย์นวดแผนไทยของจ.สุราษฎร์ธานี พร้อมทั้งสนับสนุนการส่งออกผลิตภัณฑ์สมุนไพรสู่ตลาดต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายในการพัฒนาความยั่งยืนสู่การเป็นฟาร์มนวัตกรรมเกษตรสมัยใหม่ หรือ Smart Farming Model ของภาคใต้ เพื่อเป็นแบบอย่างและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เกษตรกรและภาคการเกษตรต่อไป” กรรมการผู้จัดการใหญ่ สยามคูโบต้า กล่าว

หนูเรียง จีนจูด

แม่ทัพชุมชนบ้านเขานาใน หนูเรียง จีนจูด ประธานวิสาหกิจชุมชนบ้านเขานาใน ได้เล่าว่า การจัดตั้งกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรในชุมชนนี้เริ่มขึ้นจากความตั้งใจของกลุ่มเกษตรกรที่ต้องการเสริมสร้างรายได้และพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ภายหลังจากที่ก่อตั้งกลุ่มมาได้ระยะหนึ่ง กลุ่มก็สามารถจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนอย่างเป็นทางการ ปัจจุบันกลุ่มมีสมาชิกทั้งหมด 35 คน และมีพื้นที่การเกษตรรวม 600 ไร่ ประกอบไปด้วยพื้นที่ปลูกยางพารา 390 ไร่ ปาล์มน้ำมัน 210 ไร่ และขมิ้นชัน 100 ไร่ อีกทั้งยังมีเครือข่ายเกษตรกรนอกกลุ่มที่ปลูกขมิ้นชันเสริมอีก 500 ไร่

ประธานวิสาหกิจชุมชนฯ กล่าวต่อว่า การปลูกขมิ้นชันในพื้นที่นี้เริ่มต้นจากการปลูกแซมตามร่องสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน โดยการปลูกจะทำเพียงปีละครั้งและใช้แรงงานคนในกระบวนการเพาะปลูกทั้งหมด ซึ่งมีการใช้สารเคมีเพื่อปราบวัชพืชและเตรียมดินสำหรับการปลูกขมิ้น เมื่อขมิ้นเริ่มเติบโตก็จะใช้จอบขุดหัวขมิ้นขึ้นมา กระบวนการนี้ส่งผลให้หัวขมิ้นเสียหายเนื่องจากคมจอบ ทำให้ผลผลิตที่ได้ไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร ปริมาณผลผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 600 กิโลกรัมต่อไร่ และผลผลิตขมิ้นชันสดจะถูกนำไปจำหน่ายในตลาดท้องถิ่นและโรงพยาบาลในพื้นที่

ผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชนบ้านเขานาใน

ในระยะต่อมา กลุ่มแม่บ้านได้เล็งเห็นถึงศักยภาพในการแปรรูปขมิ้นชันให้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมรายได้ กลุ่มจึงเริ่มต้นการนำสมุนไพรต่างๆ มาผสมผสานเพื่อทำเป็นลูกประคบ ซึ่งได้รับความสนใจจากลูกค้า ต่อมาจึงพัฒนาเพิ่มเป็นผลิตภัณฑ์ครีมนวด ยาดม และสครับ แต่ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ยังไม่ได้มาตรฐานการผลิต จนกระทั่งได้เข้าร่วมโครงการกับคูโบต้า ได้ดำเนินการจัดทำแปลงทดสอบขมิ้นชันด้วยวิธีการ KAS ร่วมกับสยามคูโบต้า ต่อมาได้รับเครื่องจักรกลการเกษตร แทรกเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง ผ่านโครงการคูโบต้าร่วมมือ เกษตรร่วมใจ มาใช้บริหารจัดการร่วมกันในชุมชน ทำให้ได้ผลผลิตขมิ้นชันสูงเฉลี่ย 1,000 กิโลกรัมต่อไร่ ต้นทุนก็ลดลงเพราะไม่ต้องใช้สารเคมี แทรกเตอร์สามารถขุดพรวนและยกร่องดินได้ดี ยังมีการพัฒนางานแปรรูปร่วมกับมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จ.นครศรีธรรมราช ช่วยสร้างรายได้เฉลี่ย 20,000 บาทต่อเดือน รวมถึงสร้างมาตรฐานการผลิตสมุนไพรควบคู่กับการพัฒนาบรรจุภัณฑ์นี้ฯ ทำให้การปลูกขมิ้นและสร้างผลิตภัณฑ์แปรรูปจากขมิ้นที่กำเนิดบนแหล่งปลูกที่ดีที่สุดของไทย จึงทำให้มีสารเคอร์คิวมินอยด์ (curcuminoid) สูงและได้รับการขึ้นทะเบียนรับรองตราสัญลักษณ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์หรือ GI

ศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า – เขานาใน

นอกจากนี้วิสาหกิจชุมชนบ้านเขานาใน ได้ต่อยอดสู่การสร้างธนาคารขมิ้น จำนวน 6 สายพันธุ์ ได้แก่ ขมิ้นชัน ขมิ้นแดงสยาม ขมิ้นดำ ขมิ้นขาว ขมิ้นด้วง และขมิ้นอ้อย เพื่อเป็นแหล่งเพาะปลูกสำหรับขยายพันธุ์แจกจ่ายให้เกษตรกรของกลุ่ม ช่วยลดต้นทุนการซื้อจากแหล่งภายนอก และสร้างรายได้เพิ่ม สำหรับศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า – เขานาใน ประกอบด้วย 3 โซนหลัก ได้แก่ โซนศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า – เขานาใน โซนอาคารแปรรูปสมุนไพร และโซนแปลงส่งเสริมการปลูกขมิ้นชันด้วย ระบบ KUBOTA (Agri) Solutions หรือ KAS

สำหรับกลุ่มสินค้าสมุนไพร ได้แก่ ครีมนวดคลายเส้น ยาดม ลูกประคบสมุนไพร ยาหม่อง สมุนไพรอบแห้งเพื่อสุขภาพ สมุนไพรแช่มือแช่เท้า น้ำมันว่าน108 สมุนไพรอบตัว และพิมเสนน้ำ กลุ่มสินค้าเครื่องสำอาง ได้แก่ สบู่สมุนไพร สครับขมิ้น และกลุ่มสินค้าบริโภค ได้แก่ เครื่องแกงเผ็ด เครื่องแกงไตปลา  นับเป็นการยกระดับวิสาหกิจชุมชนบ้านเขานาในอย่างมีคุณภาพ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ลุงป้อมสู้ๆ’ กองเชียร์กระหึ่ม ต้อนรับ ‘ประวิตร’ ยกคณะลงพื้นที่สุราษฎร์ธานี

‘บิ๊กป้อม’ควง’ชัยวุฒิ-สันติ-บิ๊กช้าง’ลงสุราษฎร์ธานี ส.ส.นครศรีธรรมราช พปชร.แห่รับ กองเชียร์กระหึ่ม ‘ลุงป้อมสู้ๆ’ พร้อมรับปากจัดหาที่ดินทำกินให้ชาวสวนปาล์ม จี้ 13 มาตรการรับฤดูฝนป้องอุทกภัยใต้

นายกฯ ห่วงน้ำท่วมสุราษฎร์ธานี สั่งหน่วยงานเร่งช่วยเหลือประชาชน เฝ้าระวังหลายพื้นที่

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยประชาชน จ.สุราษฎร์ธานี หลังได้รับทราบรายงานสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี

ผู้การฯสุราษฎร์ธานี แจงผู้ต้องหาหลบจากห้องขังโรงพักกาญจนดิษฐ์ จับได้หมดแล้ว

เหตุการณ์ผู้ต้องหาหลบหนีออกจากห้องขังในพื้นที่  สภ.กาญจนดิษฐ์ เมื่อวันที่  26 ธ.ค.2564 เวลาประมาณ  11.20 น. ขณะที่ ร.ต.อ.หญิงวิชุดา จันทรพงษ์ รองสารวัตร (สอบสวน ) ได้นำตัวนายปรมินทร์ หรือเอก สุวรรณศักดิ์ ผู้ต้องหาไปสอบปากคำ