'ธุรกิจใหญ่'มอง'ความยั่งยืน'ต้องเป็นเช่นไร

ในวาระ 60 ปี สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย ได้มีการจัดเสวนาใหญ่  เกี่ยวกับการทำธุรกิจกับความยั่งยืน ซึ่งมีการแตกออกเป็นหลายประเด็น หลายมุมมอง  โดยมีผู้นำธุรกิจชั้นแนวหน้าหลายองค์กร มาร่วมแสดงความคิดเห็นมากมาย  เริ่มจากหัวข้อ  “The Era of Sustainomy” หรือโลกแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน  

นายปิยะชาติ อิศรภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แบรนดิ แอนด์ คอมพานีส์ จํากัด และสมาชิกสภาอนาคตโลก (Global Future Council) จาก World Economic Forum  กล่าวว่าการเปลี่ยนผ่านจากระบบเศรษฐกิจแบบเดิมซึ่งเน้นกำไรอย่างเดียว (Profit) สู่ยุคใหม่ การบริหารจัดการที่คำนึงถึง 3 ส่วนคือ ผลกำไร (Profit) ผู้คน (People) และโลก (Planet) เป็นกลไกขับเคลื่อนสู่ความ     อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ภาคธุรกิจเริ่มตระหนักเรื่องความยั่งบืน และมองว่าเป็นความท้าทายของเศรษฐกิจแบบทุนนิยม

ปิยะชาติ อิศรภักดี


ดังนั้น  Sustainomy โมเดลความยั่งยืน   การเปลี่ยนแปลงวิธีการเติบโตเพื่อรวมคนและโลกในการขับเคลื่อน คือโดยไม่ทิ้งคนและสิ่งแวดล้อมไว้ข้างหลัง  จึงเป็นโมเดลใหม่ที่สร้างขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาที่ทุนนิยมสร้างไว้ ด้วยการปรับตัวให้เติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน เพราะไม่ว่าธุรกิจใดก็ไม่ต้องการเป็น “ผู้ร้าย”

 ด้าน  ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และความยั่งยืน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ประเทศไทยพูดเรื่องความยั่งยืนมานาน สิ่งสำคัญ คือประเด็นสังคมและสิ่งแวดล้อม ทุกวันนี้สิ่งแวดล้อมถูกทำลายทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงมากมายในโลก มองไปข้างหน้าผู้คนในอนาคตจะอยู่กันอย่างไรในสภาพแวดล้อมและสังคมที่เปลี่ยนไป ทุกคนจึงให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืน ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องร่วมมือทำทั้งโลก ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้

ดร.บูรณิน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เมื่อพูดถึงความยั่งยืนสิ่งสำคัญที่ต้องมีควบคู่กันไปคือนวัตกรรมที่ดีขึ้น แต่บางครั้งนวัตกรรมเหล่านั้นเน้นตอบโจทย์เฉพาะด้านเศรษฐกิจ ไม่ตอบโจทย์เรื่องสังคมและสิ่งแวดล้อม ในส่วนของ ปตท. ซึ่งทำธุรกิจด้านพลังงาน สร้างความมั่นคงด้านพลังงาน สิ่งที่ปตท. ทำ ไม่ใช่แค่มีพลังงานให้เพียงพอต่อการใช้ แต่ต้องคำนึงด้วยว่าพลังงานที่ใช้นั้นดีต่อโลกหรือไม่ พลังงานสะอาดก็ยังไม่พอ ต้องเป็นพลังงานสีเขียวไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอน แต่ขณะเดียวกันก็ต้องดูว่าพลังงานสีเขียวเหล่านี้อยู่ในราคาที่ประเทศรับได้หรือไม่ มีมากพอต่อความต้องการใช้เพียงใด ต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และทุกคนเข้าถึงได้ ราคาไม่แพงเกินไป ทำให้ระบบขับเคลื่อนได้

ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ

  “วันนี้พูดเรื่องยั่งยืน license to operate เราพูด 4 เรื่อง innovation, inclusive, sustainability, และ resilience ประเด็นที่สำคัญ ถ้าทุกคนเรียกร้องเราต้องหาพลังงานสะอาดให้ลูกค้า ”ธุรกิจของ ปตท. มูลค่ากว่า 90% มาจากรายได้ด้านพลังงาน วันนี้ยังพึ่งพาก๊าซธรรมชาติ ซึ่งได้แค่ green แต่ยังไม่ clean อนาคตต้องไปสู่พลังงานที่ทั้ง green และ clean อย่างเช่นการพัฒนา EV station ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต และขณะเดียวกันก็ต้องมองหาพลังงานใหม่ๆ มาเสริมเมื่อพลังงานจากแดดและลมมีข้อจำกัด อาจมองหาพลังงานใหม่ เช่นไฮโดรเจน ซึ่ง ปตท. ได้ทดลองค่อยๆ ผสมไฮโดรเจนในก๊าซธรรมชาติ และขณะเดียวกันในหลุมที่ไม่มีก๊าซธรรมชาติอาจนำพลังงานใหม่ๆ นี้ไปเก็บไว้ แต่การปรับตัวของ ปตท. ไม่ได้ทิ้งพลังงานไปธุรกิจใหม่ทั้งหมด”        

ดร.บุณณิน กล่าวอีกว่าความยั่งยืนต้องมองทั้งเรื่องเศรษฐกิจและสังคมควบคู่กันไป ที่ผ่านมา ปตท. เริ่มปรับตัวด้วยการขยายเข้าไปสู่ธุรกิจใหม่ที่ตอบโจทย์เรื่องความยั่งยืนทั้งสองด้าน โดยเข้าลงทุนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การแพทย์และยา   โดยเข้าไปร่วมลงทุนในบริษัทผลิตยาสามัญ ในช่วงโควิดระบาด  และร่วมลงทุนบริษัทที่ผลิตยาสำหรับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เป็นการขยายที่ตอบโจทย์ประเทศ


” นอกจากปรับตัวดังกล่าวแล้ว หากยังไม่พอต้องหันมาดูเรื่องปลูกป่า อย่างที่เคยกล่าวไว้ว่าการปลูกป่าทำให้ได้มากกว่าต้นไม้ โดยคิดจากเรื่องใกล้ตัว โลก สังคม สิ่งแวดล้อม ลองทำถ้าใช่ก็ไปต่อไม่ใช่ก็หยุด อย่างไรก็ตาม วันนี้ประเทศไทยปล่อย CO2 แค่ 1% ของทั้งโลก”ดร.บุรณินกล่าว

นักธุรกิจอีกราย นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่า เอไอเอสไม่ต่างจากบริษัทอื่นอยากเติบโตอย่างยั่งยืน แต่ 2-3 ปีที่ผ่านมาคนอาจไม่สนใจ แต่ปีนี้ทุกคนเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าถ้าสังคมอยู่ไม่ได้ ธุรกิจก็อยู่ไม่ได้ แม้ธุรกิจก้าวหน้าไปมาก แต่หากไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม การขยายก็ทำได้ยาก และยิ่งสภาพแวดล้อมเปลี่ยนเกิดภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วมใหญ่ทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก ปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ก็สำคัญ

สมชัย เลิศสุทธิวงค์


“โลกวันนี้ ESG จำเป็น เราถูกบังคับจากผู้บริโภคเขาจะใช้เราหรือไม่ เทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่แคร์เรื่องนี้ กฎกติกาอันใหม่ คู่แข่ง สังคมและชุมชนสำคัญ ทำอะไรไม่ง่าย การที่เราจะบริหารธุรกิจใดก็ตามเล็กใหญ่ต้องมองการเติบโตอย่างยั่งยืน ไม่ทำก็อยู่ในโลกใบนี้ไม่ได้ เอไอเอสโชคดีที่ทำธุรกิจสมัยใหม่ ดิจิทัลไลฟ์เซอร์วิสโพรวายเดอร์ เอาดิจิทัลเซอร์วิสไปใส่ในมือลูกค้า ให้ความสะดวกสบายและลดค่าใช้จ่าย อีกทั้งช่วยสังคมและสิ่งแวดล้อมไปแบบอัตโนมัติ การสื่อสารช่วยลดการเดินทางลด CO2 ได้มาก แต่การปรับตัวต้องทำไปด้วยกันทั้งอีโค่ซิสเต็ม หรือเรียกว่า อีโค่ซิสเต็ม อีโคโนมี”นายสมชัยกล่าว

นายพิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า แนวทางของเซ็นทรัลเดินตามรอยผู้บริหารยุคบุกเบิกที่เน้นให้ต้องดูแลธุรกิจขนาดเล็กและกลาง เซ็นทรัลจึงเดินมาในแนวทางนี้ สิ่งที่ให้ความสำคัญ คือ การศึกษา ด้านการเกษตรกร และเอสเอ็มอี  จากการลงพื้นที่บ่อย พบสิ่งแวดล้อมมีปัญหามาก เลยมาเขย่าแผนและพัฒนาจนเป็นที่ท่องเที่ยวได้ พยายามดูแลทุกที่ให้ดีสุดตามคอนเซ็ปท์ เซ็นทรัล ออฟ” ด้วยหลักคิดว่าทำธุรกิจสำเร็จคืนกำไรสังคม แต่ตอนหลังเปลี่ยนไปสู่การสร้างคุณค่าร่วม (create shared value) โดยทำไปพร้อมกับการทำธุรกิจ ดูแลสิ่งแวดล้อม ชุมชน สังคม ควบคู่กัน ขณะเดียวกันก็สอนพนักงานเซ็นทรัลให้เปลี่ยนแนวคิดให้พร้อมช่วยเหลือ ทั้งการแบ่งปันคุณค่าและความรู้  

พิชัย จิราธิวัฒน์

 “เรื่องความยั่งยืนต้องปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก เริ่มจากโรงเรียนให้เด็กรุ่นใหม่เติบโตมาด้วยแนวคิดเหล่านี้ จะทำให้ทุกคนเข้าใจเห็นคุณค่าและมีส่วนร่วม  ยกตัวอย่างเรื่องการปลูกป่าว่า กลุ่มเซ็นทรัลได้ปลูกกาแฟ และอาโวคาโด้ไปแล้ว 6,000 ไร่ และทำศูนย์เรียนรู้มีคนมาเยี่ยมชมวันละ 200-300 คน ทำเป็นที่ท่องเที่ยวเป็นจุดเช็คอินของจังหวัด “

 หัวข้อถัดมา The New Leader’s Perspective: Sustainability Way Forward ดร.ชญาน์ จันทวสุ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานความยั่งยืนองค์กร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวว่า ความยั่งยืนไม่ใช่ปัญหาของคนใดคนหนึ่งแต่เป็นของทั้งโลก ตอนนี้  ทุกอุตสาหกรรมเน้นเรื่อง ESG ซึ่งกระทบซัพพลายเชนจำนวนมาก และเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คุยกันมาหลายปี แต่ใน 2-3 ปีนี้พบปัญหาจริง อากาศร้อนขึ้นทุกปีทำสถิติใหม่ตลอด และอุทกภัยรุนแรงขึ้นส่งผลกระทบอย่างมาก การผลิตกระทบหมด เป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันแก้ไขไม่สามารถทำคนเดียวได้ แต่เรื่องนี้เป็นทั้งปัญหาและเป็นโอกาส  สินค้าที่ตอบโจทย์ในการลดปัญหาก๊าซเรือนกระจก ถ้าช่วยตั้งแต่ต้นทางทุกคนปรับตัวหมด จะเป็นโอกาสที่ทุกคนเดินไปในโซลูชั่นใหม่ๆ

 “ผมมองคล้ายทุกภาคอุตสาหกรรมเป็นเรื่องเดียวกัน GC เป็นการผลิตอุตสาหกรรมพื้นฐาน คงทำซีโร่คาร์บอนไม่ได้ทั้งหมดเพราะใช้พลังงานเยอะมาก มองไป 20-30 ปีข้างหน้า ความท้าทายคือต้นทุนการทำให้ปลอดคาร์บอน” แต่แนวทางที่พอจะไปได้คือลดของเดิมและไม่สร้างของใหม่ ธุรกิจใหม่ในอนาคตหน้าตาจะเหมือนเดิมต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น” ดร.ชญาน์ กล่าวและย้ำว่าเมืองไทยต้องเริ่มคิดถ้าลดไม่ได้ 100% จะทำได้แค่ไหน ยุโรป อเมริกาทำ carbon capture โดยรัฐบาลสนับสนุน “แผนเราปี 2040 เก็บได้ 500 คาร์บอนจะไปเก็บใต้พื้นทะเล เทคโนโลยีมีแต่การลงทุนสูง ต้องร่วมมือกันทำโครงสร้างพื้นฐานใช้ในอนาคต เทคโนโลยีได้แต่ติดเรื่องต้นทุน

 ม.ล.ดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่าสภาพภูมิอากาศเป็นความท้าทายมากที่สุด ทุกหน่วยงานต้องพึ่งพากัน แก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต้องใช้คนทั้งโลกร่วมแก้ปัญหา เพราะโลกเปลี่ยนแปลงไปมาก ดูจากเหตุการณ์ล่าสุด ดอยตุงฝนตกเกินปริมาณเกิดแลนด์สไลด์ 75 จุด ไฟฟ้าถูกตัดขาด เดินทางไปไม่ได้ การสร้างชีวิต Rebuild ต้องดูจะแก้ระยะกลาง ระยะยาวอย่างไร

 “ผมอยู่ดอยตุงมา 20 ปีต้องบอกว่าปีนี้รุนแรงที่สุด ทั้งพายุฝนถล่ม ดินถล่ม โชคดียังไม่ถล่มในหมู่บ้าน เราโชคดีมีทุนบริหารจัดการ ที่อื่นถ้าไม่พร้อมจะเป็นอย่างไร หากอุณหภูมิขึ้น 2 องศา ไม่แน่ใจว่ากาแฟจะยังมีคุณภาพอยู่หรือไม่ ดอยตุงเริ่มศึกษาและเตรียมพร้อมรับมือ โจทย์มีทั้งเรื่องเทคโนโลยีและสภาพอากาศ คนผลิตไปต่อไม่ได้ ผลผลิตตกลง ส่งผลกระทบแน่นอน ถ้ากาแฟราคาแพงขึ้นอาจไปต่อไม่ได้”

มล.ดิศปนัดดา กล่าวอีกว่า องค์ความรู้ด้านยั่งยืนเยอะมาก ประสบการณ์ปลูกป่า 400,000 ไร่ ป่าชุมชนอีก 100,000 ไร่ จะทำอย่างไรเพื่อสร้างแรงจูงใจให้ชาวบ้านปลูกป่าและอนุรักษ์ป่า ให้ความสำคัญเท่ากันทุกคนเตรียมตัวหรือยังมีดาต้าหรือยัง ดอยตุงจึงตั้งหน่วยงานใหม่ 2 ยูนิต ขึ้นมาเพื่อช่วยนำนโยบายความยั่งยืนของบริษัทไปสู่ชุมชน และเริ่มนำเสนอผลิตภัณฑ์ Carbon-Neutral Coffee บอกต่อการไม่บุกรุกป่า กาแฟไม่รุกป่า ถ้าประเทศไทยเตรียมการล่วงหน้าจะดีกว่าประเทศอื่นๆ ถ้าทำได้จะเป็นเกมเชนเจอร์ในภูมิภาค เอกชนทุกบริษัทต้องลุกขึ้นมาหา ถ้าได้ทำงานด้วยกันในแต่ละสโคป ตอนนี้เวลาไม่มีแล้ว ต้องหาพาร์ตเนอร์เพื่อเดินไปได้เร็วไม่งั้นเปลี่ยนไม่ทันเวลา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯอิ๊งค์ชู 3 ประเด็นบนเวทีสุดยอดอาเซียน

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์เวทีสุดยอดอาเซียน ชู 3 ข้อ ความยั่งยืนของสมาชิก-ความมั่นคงของมนุษย์-การบูรณาการร่วมกันระดับภูมิภาค เชื่อมโยงอาเซียนที่แข็งแรง สู่การ 'กินดีอยู่ดี' ของประชากรกว่า 700 ล้านคนในภูมิภาค

แพลตฟอร์มสร้างความยั่งยืนในสังคม ชวนเปิดประตูสู่ชีวิตใหม่ด้วยกาย-ใจแข็งแรง

การขับเคลื่อนสังคมโลกในยุค 2024 ที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และธรรมชาติ ตลอดจนการเผชิญกับวิกฤตโรคระบาด