'นั่งตุ๊กตุ๊ก 'สัมผัสวิถีชุมชน'ริมคลองมหาสวัสดิ์ '

วันหยุดสุดสัปดาห์เป็นช่วงเวลาที่หลายคนได้ใช้เวลาพักผ่อนและออกไปท่องเที่ยว แต่ไม่อยากเดินทางไกล ชอบเที่ยวแบบวันเดย์ทริป หลายจังหวัดใกล้ๆกรุงเทพฯ มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจและมีกิจกรรมสนุกๆให้ทำมากมาย อย่างที่นครปฐม เป็นอีกจังหวัดใกล้กรุงยอดนิยมที่หลายคนเลือกเดินทางไปเที่ยว เพราะมีทั้งพระปฐมเจดีย์ พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย พระราชวังสนามจันทร์ วัดวาอารามงดงาม และคาเฟ่น่ารักๆ  แต่ในทริปนี้อยากพาทุกคนมาท่องเที่ยวสัมผัสกับเสน่ห์ของชุมชนริมคลองมหาสวัสดิ์ ในอ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ที่ยังมีวิถีชีวิตเรียบง่ายและธรรมชาติที่สวยงาม

สำหรับคลองมหาสวัสดิ์ เป็นคลองที่เริ่มต้นจากคลองลัดบางกรวยหรือคลองบางกอกน้อย ใกล้วัดชัยพฤกษมาลา ไหลผ่านเป็นเส้นแบ่งเขตระหว่างอ.บางกรวย จ.นนทบุรี กับเขตตลิ่งชันและเขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ผ่านอ.พุทธมณฑล ไปออกแม่น้ำท่าจีนที่ต.งิ้วราย อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม มีความยาวประมาณ  28 กิโลเมตร คลองสายนี้เริ่มขุดในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อย่นระยะทางไปนมัสการพระปฐมเจดีย์ ถือเป็นคลองที่มีความกว้างที่สุดในสมัยนั้น เริ่มมีชุมชนเข้ามาอยู่อาศัยทั้งชาวไทยและชาวจีนที่ได้มาขุดคลองแห่งนี้

ต่อมาเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ยังได้ให้สร้างศาลาสำหรับประชาชนพักเป็นระยะไปตามริมคลองทุก 100 เส้น เป็นศาลาเขียนตำรายารักษาโรคต่างๆ ติดไว้เป็นการกุศล ต่อมาเรียกกันว่า ศาลายา คือศาลาที่ 1-4 และ 6-7 ศาลาที่ 7 เรียกกันว่าศาลาดิน กับศาลาที่ 5 สร้างในการกุศลปลงศพคนของเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ เรียกกันว่า ศาลาทำศพ ปัจจุบันกลายเป็น ศาลาธรรมสพน์ และเป็นชื่อแขวงกับสถานีรถไฟในเขตทวีวัฒนา ผ่านไปหลายยุคสมัยคลองสายนี้ได้เกิดการพัฒนาไปตามกาลเวลาแต่ปัจจุบันยังคงเป็นเส้นทางสัญจรของชาวบ้านและมีแหล่งท่องเที่ยวชุมชนมากมาย

สำหรับแผนเดินทางเที่ยวนครปฐมในครั้งนี้ เราและเพื่อนร่วมทริปเดินทางด้วยโปรแกรมท่องเที่ยวของเดอะศาลายา เลเชอร์ ปาร์ค ที่ได้จัดทำแพคเกจท่องเที่ยวทริปมนต์รักลูกทุ่ง มีให้เลือกตามสไตล์ 2 แพคเกจ ได้แก่ แพคเกจที่ 1 นั่งรถตุ๊กตุ๊กเที่ยวชุมชุน+หมูกระทะบังกะโลชุดเล็ก และแพคเกจที่ 2 นั่งรถตุ๊กตุ๊กเที่ยวชุมชุน+หมูกระทะถาดยักษ์สำหรับ 4 คน พร้อมกับทำกิจกรรมที่น่าสนใจ

เดินทางมาจุดนัดหมายที่เดอะศาลายา  อ. พุทธมณฑล จ. นครปฐม หากใครไม่สะดวกมารถส่วนตัวสามารถจองแพคเกจล่วงหน้า และเดินด้วยรถไฟเริ่มต้นที่ชุมทางตลิ่งชัน มาลงที่สถานีศาลายา จะมีรถตุ๊กตุ๊กไปรับถึงสถานีเลย เตรียมพร้อมขึ้นรถตุ๊กตุ๊กคันสีม่วงสุดแจ่มสะดุดตา ที่นั่งสบาย ล้อหมุนไปยังนาบัวลุงแจ่ม โดยรถตุ๊กตุ๊กจะวิ่งไปตามเส้นทางถนนในชุมชนทำให้ระหว่างทางได้ชมทิวทัศน์บ้านเรือนที่ตั้งอยู่ริมคลองมหาสวัสดิ์ บ้านเรือนบางหลังยังคงเป็นบ้านไม้ดั้งเดิม บางหลังมีสไตล์โมเดิร์นสมัยใหม่ แม้การพัฒนาจะเติบโตไปอย่างไร แต่ผู้คนที่นี่ยังคงรักษาความสะอาดในแม่น้ำให้ใสแจ่วดูสบายตา

มาถึงนาบัวลุงแจ่ม ตั้งอยู่ติดกับถนนในชุมชน เห็นบึงดอกบัวขนาดใหญ่ ซึ่งเดิมบึงบัวแห่งนี้เคยเป็นผืนนามาก่อน แต่เนื่องจากปัญหาราคาข้าวทำให้ต้องแบ่งพื้นที่ราวๆ 20 ไร่ ทำนาบัวประมาณ 5 ไร่  ย้อนกลับไปในอดีตชาวบ้านที่นี่มีวิถีชีวิตทำนาบัวมานานแล้ว แต่ด้วยปัจจัยหลายๆอย่างทำให้ต้องปรับตัวไปทำเกษตรอย่างอื่น ทำให้คนปลูกบัวเหลืออยู่ไม่เยอะ หนึ่งในนาบัวที่ยังหลงเหลืออยู่ คือ นาบัวลุงแจ่มนอกจากเก็บขาย ก็ยังได้พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำทั้งพับกลีบดอกบัว และพายเรือในบึงบัว และด้วยวิธีการปลูกดอกบัวสลับเวียนกันหลากหลายสายพันธุ์ เพื่อให้ดอกบัวเกิดใหม่ นักท่องเที่ยวมาเดินไหนก็สามารถที่จะได้ชมบัวตลอดทั้งปี

 ล้อหมุนไปต่อที่ บ้านศาลาดิน เป็นชุมชนริมคลองมหาสวัสดิ์ ที่ทำท่องเที่ยวเชิงเกษตร และยังเป็นศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เช่น การแปรรูปข้าวโดยปราชญ์ชาวบ้านปราณี สวัสด์แดง การให้ความรู้ในการนำผักตบชวาที่ก่อปัญหาแก่เส้นทางสัญจรมาทำเป็นปุ๋ยชุมชนร่วมกันจัดตั้งศูนย์ OTOP บ้านศาลาดิน เรายังได้มีโอกาสมาเรียนรู้การทำข้าวตัง สูตรเฉพาะของบ้านศาลาดิน ที่ใช้ข้าวไรซ์เบอรี่และข้าวกล้องหอมมะลิ ผ่านกระบวนการทำพร้อมนำลงไปทอดเสร็จใหม่ๆ พักให้อุ่นเราก็น้ำปรุงมาทาหน้าข้างตัง ท็อปด้วยหมูหยองและงา ได้รสชาติเข้มข้นและกรุบกรอบ เหมาะกับซื้อไปเก็บไว้กินเล่นมากๆ ข้ามอีกฝั่งจากจุดสาธิตทำข้าวตัง จะเป็นที่ตั้งของตลาดน้ำบ้านศาลาดิน ที่นี่เป็นตลาดขนาดเล็ก ที่คนในชุมชนจะนำของมาขายไม่ว่าจะเป็นผักสวนครัว อาหารคาว อาหารหวาน และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ แต่จะเปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์  

นั่งรถตุ๊กตุ๊กลัดเลาะเข้าไปในย่านชุมชนมาไหว้พระที่วัดสาลวัน เป็นวัดเล็กๆ ที่คนในชุมชนได้เข้ามาทำบุญตักบาตร หรือทำกิจกรรมวันสำคัญทางศาสนา  ภายในวัดมีความสงบร่มเย็นมีจุดให้สาการะพระองค์ใหญ่ ท้าวเวสสุวรรณ และองค์เทพต่างๆ ที่ประชาชนให้ความเคารพนับถือ

ล่วงเลยเวลามาพอสมควร ท้องน้อยๆก็เริ่มหิว รถตุ๊กตุ๊กจึงมุ่งหน้ากลับมายังเดอะศาลายาปิดท้ายทริปเติมอาหารลงกระเพาะด้วยหมูกระทะถาดยักษ์ ที่ตกแต่งหมูในถาดเป็นเจดีย์ ล้อมด้วยของทะเลทั้ง กุ้ง หมึก หอย พร้อมผักสดสุดอลังการ กระทะร้อนๆนำเนื้อหมูลงไปปิ้ง จิ้มกับน้ำจิ้มรสเด็ด กินฟินๆให้พุงกาง นอกจากนี้ยังสามารถเลือกรสชาติของน้ำซุปและน้ำจิ้มแบบใดก็ได้ตามสไตล์ของแต่ละร้านได้เลย คือ หมูกระทะญี่ปุ่นที่ร้านฮารุสุกี้ยากี้ หมูกระทะเกาหลีที่ร้านฮาวอน หมูกระทะฮ่องกงที่ร้านฮ่องกงเปี้ยนตัง และหมูกระทะบังกระโลที่ร้านบังกะโลริเวอร์ ส่วนหมูกระทะบังกะโลชุดเล็ก จะนั่งทานที่ร้านบังกะโล ริเวอร์ จัดเต็มกับหมูนุ่มๆ ซีฟู้ด ลูกชิ้น ผักสดๆ และน้ำจิ้มแจ่วสูตรเด็ด กับบรรยากาศนั่งสบายๆ ริมคลองมหาสวัสดิ์

หากยังไม่จุใจที่เดอะศาลายา ยังมีกิจกรรมให้ทำสนุกๆอีกด้วยนะ โชว์แฟนตาซีในถ้ำหนุมาน” ที่เล่าเรื่องราวของมัจฉานุกับการผจญภัยกล่องสมบัติ ให้ได้เพลิดเพลินกันตลอดเวลา 45 นาที การเพ้นท์หน้ากากโขนจากปูนปลาสเตอร์หล่อโดยใช้สีไทยโทน ผ้ามัดย้อมจากสีธรรมชาติ พายเรือคายัค ขับเรือเป็ด ชมคลองมหาสวัสดิ์ ทำพวงกุญแจ 12 ราศี หรือจะเป็นการผ่อนคลายที่ วาริสปา ทั้งคอร์สนวดไทย นวดสปาอโรมา ขัดผิวกาย อาบแช่น้ำนม แช่เกลือสปา หรืออบซาวน่า ใครที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโปรแกรมเที่ยวหรือกิจกรรมอื่นๆ ได้ที่โทร. 08-1257-6053, 09-0197-6009, 0-2429-8401 ต่อ 141 Facebook : THE SALAYA