รุ่นใหม่วัยเยาว์ 5 ศาสนา ท่อง'กะดีจีน'

ชุมชนกะดีจีนหรือชุมชนกุฎีจีนถือเป็นชุมชนที่อยู่ร่วมกันบนความหลากหลายทางความวัฒนธรรมและความเชื่อมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ย่านนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับทุกวัยและทุกศาสนา ในพื้นที่มีชุมชนและศาสนสถานแต่ละศาสนา ทั้งพุทธ คริสต์ อิสลาม เพื่อส่งต่อเรื่องราวพหุวัฒนธรรม เยาวชนรุ่นใหม่จาก 5 ศาสนา ร่วมกิจกรรมเปิดโลกการเรียนรู้ของกรมการศาสนา (ศน.) ภายใต้โครงการ”เยาวชนสานศรัทธาสู่วิถีชีวิตและสายใยแห่งการเรียนรู้”  ณ ย่านกะดีจีน   เขตธนบุรี กรุงเทพฯ โดยมีนายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา ทอดน่องท่องย่านกะดีจีนกับเหล่าเด็กยุคใหม่ พร้อมด้วยผู้แทนองค์การทางศาสนา 5 ศาสนา ครูพี่เลี้ยง โดยชาวกะดีจีนเปิดบ้านต้อนรับ

ตลอดหนึ่งวันเต็มของการทัวร์กะดีจีน  เริ่มจากเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ธนบุรี  บริเวณโรงเรียนวัดกัลยาณมิตร  ที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของพื้นที่ผ่านนิทรรศการหลากหลายโซน พร้อมภาพประกอบและสิ่งของจัดแสดงที่เป็นตัวแทนของธนบุรี  ก่อนจะไปต่อกันที่มัสยิดบางหลวง มัสยิดแห่งชุมชนมุสลิมที่อาคารมัสยิดสีขาวหน้าตาเหมือนวัดไทยพุทธชนิดที่แยกไม่ออก หลังคามุงจั่ว หน้าบันประดับลวดลายปูนปั้นดอกโบตั๋น ศิลปะนิยมสมัยรัชกาลที่ 3 ปกติมัสยิดไม่ได้เปิดให้เข้าไปชมด้านใน แต่โอกาสพิเศษนี้น้องๆ เข้าไปภายในมัสยิด ซึ่งเป็นโถงละหมาด มิห์รอบของมัสยิดหลังนี้เป็นซุ้มสามยอดประดับกระจกสี ประดับด้วยลายพันธุ์พฤกษาที่ผสานศิลปะไทย จีน และตะวันตก เข้าด้วยกัน  พร้อมเรียนรู้หลักคำสอนและหลักปฏิบัติทางศาสนาอิสลาม 

จากนั้นเดินทางไปวัดกัลยาณมิตร  วัดริมเจ้าพระยาแห่งนี้สร้างสมัยรัชกาลที่ 3 เยาวชนได้สักการะหลวงพ่อโตศักดิสิทธิ์  ก่อนจะไปศาลเจ้าเกียนอันเกง เยี่ยมชมศาลเจ้าเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาสร้างโดยชาวจีนที่ตามเสด็จสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในคราวที่ทรงตั้งกรุงธนบุรีเป็นราชธานี  ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนย่านกะดีจีน ภายในประดิษฐานพระโพธิสัตว์กวนอิม  ชาวไทยเชื้อสายจีนนิยมกราบไหว้ขอพรเป็นมงคล

ท่องเที่ยวกุฎีจีนไม่พลาดเดินเท้าเข้าซอยไปบ้านทำขนมฝรั่งกุฎีจีน ใกล้กับโบสถ์คริสต์ซางตาครู้ส ชาวบ้านสาธิตการทำขนม และชวนให้น้องๆ ลิ้มลองขนมฝรั่งฯ อารยธรรมจากชาวโปรตุเกสที่อาศัยอยู่ในไทยสมัยกรุงธนบุรี มรดกวัฒนธรรมที่ยังมีลมหายใจมาจนทุกวันนี้  มื้อเที่ยงเยาวชนอิ่มอร่อยกับเมนูอาหารหลากหลายที่ชุมชนกุฎีจีน ก่อนไปพิกัดสุดท้ายคริสตศาสนสถาน วัดซางตาครู้ส  สัมผัสโบสถ์สวยโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมตะวันตก หลังคาโดมสีชมพูสะดุดตา สวยสง่าท่ามกลางชุมชนหลากวัฒนธรรม

นายชัยพล สุขเอี่ยม  กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้สืบเนื่องจากกรมการศาสนาร่วมกับ 5 องค์การทางศาสนา ได้แก่ พุทธ อิสลาม คริสต์ พราหมณ์ – ฮินดู ซิกข์ จัดอบรมผู้นำเยาวชนศาสนิกสัมพันธ์ รุ่นที่ 2 ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ  เปิดพื้นที่ให้เยาวชน 5  ศาสนา ทำกิจกรรมร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ เรียนรู้หลักธรรมคำสอนทางศาสนา วิถีชีวิต วัฒนธรรมของแต่ละศาสนา และมีการคัดเลือกและแต่งตั้งคณะกรรมการผู้นำเยาวชนศาสนิกสัมพันธ์ รุ่นที่ 2 เป็นแกนนำจัดกิจกรรมร่วมกับกรม ผู้นำเยาวชนเสนออยากให้ ศน.จัดโครงการท่องเที่ยวในพื้นที่ที่อยู่ร่วมกันบนความต่างทางศาสนา นำมาสู่การต่อยอดขยายผลจัดโครงการฯ ในชุมชนกะดีจีน  ที่มี 4 ความเชื่อ 3 ศาสนา เมื่อเยาวชนไปศาสนสถานแต่ละศาสนา จะได้เรียนรู้หลักคำสอนและหลักปฏิบัติทางศาสนาจากผู้นำศาสนา ทั้งบาทหลวง อิหม่าม พระ และผู้ดูแลศาลเจ้าจีน   

“การท่องเที่ยวมิติศาสนาที่กะดีจีนส่งเสริมให้เยาวชนทั้ง 5 ศาสนา ได้เรียนรู้วิถีชีวิต วัฒนธรรมของแต่ละศาสนา การอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมนอกจากการเรียนรู้ในห้องเรียนหรือจากค่ายอบรม น้องๆ เยาวชนทั้งระดับมัธยมต้และมัธยมปลายได้ประสบการณ์จริงจากชุมชนย่านกะดีจีน ได้เรียนรู้หลักธรรม หลักปฏิบัติ วัฒนธรรมของแต่ละศาสนา สร้างความเข้าใจอันดีระหว่างศาสนิกชนทุกศาสนา สามารถปรับตัวตามวิถีชีวิต อยู่ร่วมกัน ทำให้เกิดความสุขความสมานฉันท์ ส่วนหลักธรรมแต่ละศาสนา นำมาพัฒนาตนให้เป็นคนดี มีคุณธรรมจริยธรรม เป็นผู้นำด้านศาสนิกสัมพันธ์และถ่ายทอดประสบการณ์ที่ได้รับไปสู่น้องๆ รุ่นต่อไป  สำหรับโครงการต่อไปจะเน้นส่งเสริมเยาวชน 5 ศาสนา เรียนรู้ข้ามวัฒนธรรม หรือ Cross Culture เพื่อเพิ่มทักษะความเข้าใจความต่างวัฒนธรรมและยอมรับความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยจะจัดกิจกรรมตามภูมิภาคต่างๆ ของไทย  “ นายชัยพล กล่าวในท้าย