19 ก.ย.2567- ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับงานวิจัยรักษาข้อเข่าเสื่อมว่า
งานวิจัยที่เพิ่งตีพิมพ์ในวารสาร Science Advances โดยทีมวิจัยในประเทศจีนอาจเป็นข่าวดีมากๆสำหรับผู้ที่กำลังประสบปัญหาปวดเข่าอยู่ครับ…งานวิจัยนี้มีที่มาจากปัญหาการรักษากระดูกอ่อนที่เสื่อมสภาพ ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยจำนวนมาก โดยทีมวิจัยตั้งสมมติฐานว่าการเพิ่มความแข็งแรงและประสิทธิภาพของเซลล์กระดูกอ่อน (chondrocytes) อาจช่วยฟื้นฟูกระดูกอ่อนได้ดีขึ้น พวกเขาจึงทำการค้นหาสารเคมีที่สามารถเพิ่มความแข็งแรงของเซลล์เหล่านี้ ในการศึกษานี้ ทีมวิจัยได้ใช้วิธีการคัดกรองสารเคมีแบบ high-throughput screening โดยทดสอบสารเคมีกว่า 2,000 ชนิดกับเซลล์กระดูกอ่อนที่มีการติดฉลากด้วยยีนเรืองแสงสีเขียว EGFP ซึ่งช่วยให้สามารถติดตามการแสดงออกของยีนที่สำคัญต่อการทำงานของเซลล์กระดูกอ่อนได้ จากการคัดกรองนี้ พวกเขาพบว่าสารชื่อ “FPH2” (โครงสร้างแสดงในภาพ) สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์กระดูกอ่อนได้อย่างดีมาก
ทีมวิจัยได้ทำการทดสอบ FPH2 ในหลายรูปแบบ ทั้งในหลอดทดลองและในสัตว์ทดลอง โดยพบว่า FPH2 ช่วยให้เซลล์กระดูกอ่อนคงคุณสมบัติเฉพาะตัวได้ดีขึ้น และยังคงผลิตโปรตีนสำคัญอย่าง collagen type II และ aggrecan แม้จะอยู่ในสภาวะที่ไม่เหมาะสม เช่น การเพาะเลี้ยงในสภาพที่มีออกซิเจนสูง นอกจากนี้ FPH2 ยังช่วยให้เซลล์เคลื่อนที่ได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ในการทดลองกับสัตว์ทดลอง ทีมวิจัยพบว่าเซลล์กระดูกอ่อนที่ได้รับการรักษาด้วย FPH2 สามารถผสานกับเนื้อเยื่อโดยรอบได้ดีกว่าเซลล์ที่ไม่ได้รับการรักษา และสามารถสร้างกระดูกอ่อนใหม่ที่มีคุณภาพดีกว่า นอกจากนี้ พวกเขายังพบว่าการใช้ FPH2 ในรูปแบบของไฮโดรเจลที่ไม่มีเซลล์ สามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคข้อเสื่อมในหนูทดลองได้
ในระดับโมเลกุล ทีมวิจัยค้นพบว่า FPH2 ทำงานโดยการยับยั้งเอนไซม์ที่ชื่อว่า carnitine palmitoyl transferase I หรือ CPT1 ซึ่งเป็นเอนไซม์สำคัญในกระบวนการเผาผลาญไขมัน การยับยั้ง CPT1 นี้ส่งผลให้เกิดการปรับเปลี่ยนกระบวนการเมตาบอลิซึมของเซลล์ ทำให้เซลล์มีพลังงานมากขึ้นและสามารถปรับตัวต่อสภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมได้ดีขึ้น
ผลการศึกษานี้มีความน่าสนใจและอาจสร้างผลกระทบที่สำคัญ เนื่องจากเปิดโอกาสใหม่ในการรักษาโรคข้อเสื่อมและการบาดเจ็บของกระดูกอ่อน ซึ่งปัจจุบันยังเป็นปัญหาที่รักษาได้ยากและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประชากรสูงอายุ การค้นพบนี้แสดงให้เห็นว่าการใช้สารเคมีขนาดเล็กสามารถปรับปรุงคุณสมบัติของเซลล์เพื่อการรักษาได้ ซึ่งมีข้อดีหลายประการเมื่อเทียบกับการรักษาด้วยยีนบำบัดหรือการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด เช่น มีความปลอดภัยสูงกว่า ง่ายต่อการผลิตและการเก็บรักษา และมีต้นทุนที่ต่ำกว่า นอกจากนี้ การค้นพบนี้ยังอาจนำไปสู่การพัฒนายาและวิธีการรักษาใหม่ๆ สำหรับโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อ โดยอาศัยหลักการของการเพิ่มความแข็งแรงและประสิทธิภาพของเซลล์ผ่านการปรับเปลี่ยนกระบวนการเมตาบอลิซึม ซึ่งอาจเป็นแนวทางใหม่ในการพัฒนาการรักษาโรคเรื้อรังหลายชนิดในอนาคต.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พบข้อมูล ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี ถ้าติดเชื้อ ฝีดาษลิง พบเสี่ยงเสียชีวิตสูงถึง 27%
อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค)
'หวัดนก - H5N1' จ่อประชิด ดร.อนันต์ เผย เขมรเจอเด็กหญิงติดเชื้อเสียชีวิต 1 ราย
ดร. อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูน
ข่าวดี! นักไวรัสวิทยา เผยประสิทธิภาพวัคซีนฝีดาษ ให้สัญญาณที่ดีในการป้องกันฝีดาษลิง
ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ไบโอเทค โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana ว่าข้อมูลนี้จาก Montreal ของแคนาดา