ศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์น้ำท่วม อว.รายงาน สถานการณ์น้ำประจำวันที่ 18 กันยายน 2567พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำล่วงหน้า 72 ชั่วโมง (วันที่ 18 กันยายน 2567)
ภาคเหนือ 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ เพชรบูรณ์ ตาก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 15 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ อุบลราชธานี นครราชสีมา
ภาคตะวันออก 5 จังหวัด ได้แก่ ตราด จันทบุรี ชลบุรี ปราจีนบุรี นครนายก
ภาคใต้ 10 จังหวัด ได้แก่ ระนอง พังงา ภูเก็ต ชุมพร สุราษฎร์ธานี กระบี่ ตรัง สตูล นราธิวาส และยะลา
เฝ้าติดตาม พายุดีเปรสชัน บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ซึ่งคาดว่าจะแรงขึ้นเป็นพายุหมุนเขตร้อน และเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลาง หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีลมแรง ฝนเพิ่มขึ้น ขอให้ติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ด้านปริมาณอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำกักเก็บคงเหลือ 48,630 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 69% ของความจุ โดยมีเขื่อนที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 80% ของความจุ ได้แก่ เขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล และเขื่อนห้วยหลวง คาดการณ์ฝน ช่วงวันที่ 18 – 20 ก.ย. 67 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับพายุดีเปรสชัน บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ซึ่งคาดว่าจะแรงขึ้นเป็นพายุหมุนเขตร้อน และเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลาง หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ทำให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ประเทศไทยมีลมแรงและฝนเพิ่มขึ้น และอาจมีฝนตกหนักถึงหนักมากต่อเนื่องได้ในบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางด้านตะวันตก ภาคตะวันออก และภาคใต้
คาดการณ์คลื่น ช่วงวันที่ 18 – 20 ก.ย. 67 ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเล อันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้คลื่นลมทะเลฝั่งอันดามันและอ่าวไทยสูงประมาณ 2.0 – 3.0 เมตร
ข้อมูลจาก คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือติดตามสถานการณ์เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.thaiwater.net และแอปพลิเคชัน ThaiWater