เปิดบ้าน'เกริก ยุ้นพันธ์'ศิลปินแห่งชาติ ผู้สร้างพิพิธภัณฑ์เด็กเมืองอยุธยา

ถนนอู่ทอง ใน ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นถนนที่เชื่อมแหล่งท่องเที่ยวโบราณสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์  ไม่ว่าจะเป็นพระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์ วัดพนมยงค์ วัดศาลาปูนวรวิหาร วัดตึก วัดเชิงท่า ภายในถนนเส้นนี้มีบ้านที่จัดสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเกริกยุ้นพันธ์ ตั้งอยู่ท่ามกลางมวลหมู่ต้นไม้สีเขียวขจี  เมื่อได้เดินเข้ามาด้านในพื้นที่แห่งนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พิพิธภัณฑ์ บนพื้นที่ 2 ไร่ 1 งาน ยังมีหอศิลป์ครูเกริก ยุ้นพันธ์ โดยผู้เป็นเจ้าของ คือ ศ.เกริก ยุ้นพันธ์  ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี 2565  

ภายในบริเวณบ้านของ ศ.เกริก ที่มีทั้งอาคารพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ นับเป็นบ้านอีกหลังที่เต็มไปด้วยแหล่งเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน รวมไปถึงคนทั่วไปที่ต้องการเข้ามาซึมซับเรียนรู้ศิลปะและงานเขียน โดยได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) โดยกองกองทุนส่งเสริมวัฒนธรรม เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ สร้างแรงบันดาลใจด้านศิลปะ ให้แก่เด็ก เยาวชน เกิดความคิดสร้างสรรค์ พัฒนาต่อยอด ให้เกิดผลงานทางศิลปะและงานด้านวรรณกรรมในรูปแบบใหม่

ศ.เกริก ในวัย 66 ปี ยังคงเป็นนักเขียนหนังสือเด็ก ผ่านเวลามากกว่า 40 ปี เขียนหนังสือเด็กไปกว่า 200 เล่ม พลังของการสร้างสรรค์งานเขียนและวาดภาพประกอบยังคงเต็มเปี่ยมไม่แตกต่างจากวัยหนุ่มที่ตั้งใจเดินบนเส้นทางของนักเขียนหนังสือเด็ก เพียงเพื่อต้องการให้เด็กและเยาวชน ได้ซึมซับความคิด ทัศนคติ ในการดำเนินชีวิตเป็นพลเมืองที่ดีในสังคม

“ช่วงที่เรียนมัธยม สมัยนั้นที่โรงเรียนจะมีการสอนร้องเพลงของเด็ก เพลงอาขยาน อย่างคำร้อง แมวเอ๋ยแมวเหมียวรูปร่างประเปรียวเป็นนักหนา ร้องเรียกเหมียวเหมียวเดี๋ยวก็มา เคล้าแข้งเคล้าขาน่าเอ็นดู ซึ่งคำร้องจะมีการใช้คำที่คล้องจองสัมผัสกันและเห็นภาพได้ในทันที ทำให้รู้สึกชอบการใช้ภาษา จึงได้ทำงานวารสารโรงเรียนเรียนรู้การเขียนเรื่อยมา พอมาถึงวัยเรียนมหาวิทยาลัย ได้เข้าคณะศึกษาศาสตร์ วิชาเอกศิลปศึกษา ที่มศว นับเป็นช่วงที่สนใจและเริ่มต้นเขียนวรรณกรรมสำหรับ โดยได้ส่งภาพประกอบสำหรับหนังสือเด็กเรื่อง ชาวนาไทย ไปประกวดรางวัล  NOMA ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเราได้รางวัล 1 ใน 13 คน จากกว่า 90 ประเทศที่ส่งประกวด เป็นการจุดประกายให้อยากทำเขียนหนังสือเด็ก จึงพัฒนาตัวเองด้วยการอ่านวรรณกรรมเด็กทุกวัน โดยเฉพาะหนังสือเด็กจากต่างประเทศ ลับฝีมือจนคมพอพร้อมที่เขียนหนังสือเด็ก และในปี 2551 ยังได้รางวัล The International Board on Books for Young People (IBBY) บ่งบอกว่าเป็นผู้ที่ทำหนังสือเด็กได้อย่างมีคุณภาพ ยิ่งทำให้มั่นใจว่าตนสามารถทำหนังสือเด็กที่ดีและมีคุณภาพได้” ศ.เกริก เล่าจุดเริ่มต้นเส้นทางนักเขียนหนังสือเด็ก

หลังจากเรียนจบ ศ.เกริก เป็นเรือจ้างในโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ม.ราชภัฏธนบุรี และแห่งสุดท้ายได้สอนอยู่ที่มศว โดยสอนวิชาวรรณกรรมสำหรับเด็ก ทำให้เป็นบ้านอีกหลังที่ได้ต่อยอดความรู้และฝึกปลายปากกาการเขียนหนังสือเด็กมากยิ่งขึ้นจนเกษียณ จึงเริ่มคิดที่จะต่อยอดความตั้งใจจากเมื่อครั้งที่เดินทางไปญี่ปุ่น ได้มีโอกาสเข้าชม พิพิธภัณฑ์ของคิตาฮารา เมืองฮาโกเน่ ที่มีการจัดแสดงของเล่นเด็ก ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากๆ เพราะทำให้ได้เห็นวิวัฒนาการของเล่นในแต่ละยุค ที่ยังแฝงไปด้วยเรื่องราวของประวัตศาสตร์การพัฒนาความเจริญในแต่ยุคสมัยอีกด้วย และยังมีที่เกาหลี เยอรมนี มาเลเซีย สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งในตอนนั้นประเทศไทยยังไม่มี  จึงปักหมุดซื้อที่ดินในอยุธยา แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของไทย เพื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์

แม้บ้านเกิด ศ.เกริก จะอยู่จ.ฉะเชิงเทรา แต่เพราะความชอบส่วนตัวตั้งแต่เด็กที่โรงเรียนได้พามาทัศนศึกษาที่อยุธยาชมโบราณสถานและวัดต่างๆ ที่เป็นทั้งแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยว โดยจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วน คือ บ้านพักอาศัยจะอยู่ด้านในสุด ส่วนตรงกลางจะเป็นพิพิธภัณฑ์ของเล่นสำหรับเด็กและข้าวของเครื่องใช้ทั้งคนไทยและต่างชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะมีความเชื่อกันว่าพิพิธภัณฑ์ เป็นปัจจัยหนึ่งในการพัฒนาคนนอกจากการอ่านหนังสือ ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเกี่ยวกับของเล่นที่ทำจากดิน หิน กระดาษ แก้ว กระเบื้อง ตะกั่ว เขซลลูลอยด์ สังกะสี พลาสติก เซลลูลอยด์และสังกะสี มีชนิดไขลาน หยิบจับ ผลักไสและใส่ถ่าน มีทั้งของเล่นที่เป็น เด็กหญิงและเด็กชาย ที่ทุกคนต้องคุ้นตาแน่นอน ส่วนด้านหน้าเป็นหอศิลป์ที่จัดแสดงผลงานศิลปะของตน ที่มีจำนวนกว่า 450 ชิ้น  มีทั้งผลงานศิลปะนาอีฟ ผลงานต้นฉบับหนังสือสำหรับเด็ก 

ศ.เกริก บอกว่า หัวใจสำคัญของการเขียนหนังสือเด็ก คือ ภาษาสำหรับเด็ก ต้องอ่านแล้วเห็นภาพตรงไปตรงมา ไม่ต้องอธิบายหรือตีความให้ยุ่งยาก อ่านแล้วเข้าใจได้ง่ายสามาถนำไปใช้ปรับปรุงพฤติกรรมและทัศนคติเชิงบวกเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตในสังคม เหมือนสอนเติบโตไปเป็นคนที่มีคุณภาพ เพราะหากเด็กได้อ่านหนังสือที่ดีก็จะต่อยอดให้เด็กได้อ่านเล่มต่อไป และซึมซับความคิดที่สอดแทรกอยู่ในหนังสือ ซึ่งเป็นความตั้งใจที่ยังอยากเขียนหนังสือให้เด็กๆได้อ่าน เล่มที่จะออกเร็วๆนี้เรื่องมาร์สแมนกับยายเช้า ที่จะแบ่งเป็นตอน 1 ปีจะเขียน 2 ตอน เป็นเรื่องราวให้เด็กๆน่าติดตาม และพร้อมที่จะเปิดบ้านตอนรับเด็กและเยาวชน คนทั่วไปที่อยากจะมาเรียนรู้ศิลปะงานเขียน เพื่อเป็นแรงบันดาลใจและต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ของทุกคนได้ 

ด้าน นายประสพ เรียงเงิน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวว่า การได้เดินทางมายังบ้านของ ศ.เกริก ยุ้นพันธ์ เหมือนกับได้ย้อนไปในวัยเด็ก เพราะพื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความสนุกสนานและความรู้ ที่สามารถชมได้ภายในพิพิธภัณฑ์ของเล่นฯ ที่ศ.เกริกได้นำมาจัดแสดงกว่า 400,000 ชิ้น และยังมีหอศิลป์ที่จัดแสดงผลงานภาพวาดประกอบหนังสือเด็ก จึงถือว่าเป็นแหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยวที่มีคุณค่า ดังนั้นการเปิดบ้านศิลปินของศ.เกริก และศิลปินท่านอื่นๆ ที่ได้เปิดไปแล้วกว่า 30 แห่งทั่วประเทศ ถือเป็นคืนกำไรให้กับบ้านเกิด ในการเป็นตัวอย่างและต้นแบบที่ดี  อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นท่องเที่ยว ขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในจังหวัดด้วย

ผู้ที่สนใจเข้าชมพิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเกริกยุ้นพันธ์และหอศิลป์  เลขที่ 45  หมู่ที่ 2 ถ.อู่ทอง ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดทุกวันอังคาร – วันอาทิตย์ (เปิดวันหยุดนักขัตฤกษ์และวันหยุดราชการ)   ตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.00 น. หยุดทุกวันจันทร์ 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หออัครศิลปินจัดวันเด็ก สืบสานงานศิลป์เพื่อเด็กไทย

วันเด็กแห่งชาติปี 2568 กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) จัดกิจกรรมวันเด็กที่หออัครศิลปินสร้างรอยยิ้มและความสุข โดยมี วราพรรณ ชัยชนะศิริ รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เป็นประธาน เปิดงาน "หออัครศิลปิน

วันเด็กหออัครศิลปินคึกคัก สร้างสุขและรอยยิ้มน้องๆ หนูๆ แห่ชมหมูเด้ง ตัวตึงถึงไทย

วันเด็กแห่งชาติ ปี 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เยี่ยมชมบูธกิจกรรมของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เนื่องในงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ณ โถงตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา

สวธ. จัดวันเด็กปี 68 ชวนเรียนรู้งานศิลป์ พบมาสคอต 'น้องหมูเด้ง Thai Cuteness ตัวตึง ถึงไทย'

วันเด็กแห่งชาติ ปี 2568 กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) จัดกิจกรรมวันเด็กแบบจัดเต็มเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ศิลปะและวัฒนธรรมให้แก่เด็กและเยาวชนไทย เพื่ออนุรักษ์ สืบสานและต่อยอดมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่อย่างยั่งยืน และมุ่งปลูกฝังให้เติบโตเป็นคนดี มีคุณธรรม รักษาวัฒนธรรมที่ดีงามของชาติไว้

สวธ.ชวนประกวดเยาวชนต้นแบบมารยาทไทย ชิงรางวัลถ้วยพระราชทานกรมสมเด็จพระเทพฯ

กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ร่วมกับ กองทุน ดร.อุเทน เตชะไพบูลย์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทั่วประเทศจัดการประกวด "เยาวชนต้นแบบด้านมารยาทไทยและมารยาทในสังคม ปี 2568"

วธ.จัดมหกรรม‘ปลาร้า หมอลำอีสาน’ ยกระดับวัฒนธรรมพื้นบ้านให้ดังก้องโลก

กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับจังหวัดขอนแก่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และภาคเอกชนระดับประเทศ อาทิ หอการค้าไทยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย บริษัท