มั่นใจวัดไชยวัฒนารามรอดน้ำท่วม

อธิบดีกรมศิลป์มั่นใจวัดไชยวัฒนาราม-โบราณสถานติดเจ้าพระยา ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำเหนือ ย้ำผนังกั้นน้ำมีประสิทธิภาพป้องกันได้

5 ก.ย.2567 – นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร  กล่าวว่า จากการประชุมเตรียมแผนรับมือสถานการณ์น้ำร่วมกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวานนี้ ซึ่งกรมชลประทานได้แจ้งการปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 1,500 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เพื่อรองรับปริมาณน้ำเหนือต่อเนื่อง จากการคาดการณ์ปริมาณน้ำจะใกล้เคียงกับปี 2565  แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากพายุระลอกใหม่ที่จะทำให้ปริมาณน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น คาดว่าปริมาณน้ำยังไม่มากเท่ากับปี 2554 ทั้งนี้ กรมศิลปากรได้แจ้งถึงประสิทธิภาพการติดตั้งพนังกั้นน้ำบริเวณวัดไชยวัฒนาราม รวมถึงโบราณสถานที่อยู่กับแม่น้ำเจ้าพระยาที่สามารถรองรับน้ำจากแนวตลิ่งได้สูงถึง 2.40 เมตร ล่าสุด ระดับน้ำยังต่ำกว่า แนวตลิ่งหลายสิบเซนติเมตร  

ขณะที่ โบราณสถานสำคัญตลอดแนวแม่เจ้าพระยา ได้มีการติดตั้งพนังกั้นน้ำแบบพับได้ ได้แก่ วัดกษัตราธิราชวรวิหาร วัดธรรมมาราม โบราณสถานบ้านฮอลันดา-บ้านโปรตุเกส และการวางแนวกระสอบทรายที่วัดเชิงท่า โบราณสถานป้อมเพชร อีกทั้งยังติดตามสถานการณ์ประจำวันร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มั่นใจว่า การดำเนินการดังกล่าวจะช่วยป้องกันพื้นที่โบราณสำคัญของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาได้ทั้งหมด

นายพนมบุตร กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่โบราณสถานภาคเหนือคลี่คลายแล้ว แต่กำชับให้สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ติดตามสถานการณ์พายุระลอกใหม่ที่อาจส่งผลกระทบอีก โดยปฏิบัติตามแผนรับมือความเสี่ยงอย่างทันท่วงที พร้อมกับเข้าไปสำรวจความเสียหายของโบราณสถานที่ถูกน้ำท่วม โดยพบว่า โบราณสถานไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เช่น ที่วัดภูมินทร์ จังหวัดน่าน พบว่า ภาพจิตรกรรมฝาผนังปู่ม่านย่าม่านไม่ได้รับผลกระทบแต่ได้เฝ้าระวังความชื้นที่อาจทำให้เกิดความเสียหายได้ ซึ่งความเสียหายทั้งหมดได้จัดสรรงบฉุกเฉินของกรมศิลปากรในการบูรณะซ่อมแซมต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ซ่อมอีก! จนท.กรมศิลป์ สำรวจตึกไทยคู่ฟ้า พบบางจุดชำรุด

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อช่วงสายวันที่ 13 มี.ค. เจ้าหน้าที่ทำเนียบฯ ได้นำเจ้าหน้าที่จากกองโบราณคดี กรมศิลปากร มาตรวจสอบตึกไทยคู่ฟ้า ทั้งภายนอก และภายในตามจุดต่าง ๆ