ศาลสั่ง'วินโพรเสส'ชดใช้ 1.7 พันล้าน ฟื้นฟูมลพิษ

ศาลสั่งวินโพรเสส ชดใช้ให้ คพ. กว่า 1.7 พันล้าน ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมกรณีปล่อยของเสียสู่แหล่งน้ำ-พื้นที่เกษตรกรรม

3 ก.ย.2567 – นางกัญชลี นาวิกภูมิ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) และโฆษก คพ. เปิดเผยว่า จากกรณีบริษัท วิน โพรเสส จำกัด มีการรับและลักลอบเก็บของเสียเคมีวัตถุจากโรงงานต่างๆ มาเก็บไว้ในพื้นที่ของบริษัทเป็นจำนวนมาก เพื่อส่งไปกำจัด ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องยาวนาน 10 ปี โดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อมาเมื่อปี 2560 คพ.ได้รับเรื่องร้องเรียนปัญหามลพิษจากการประกอบกิจการของบริษัทที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อแหล่งน้ำสาธารณะและพื้นที่เกษตรกรรมของประชาชน จึงได้เข้าตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมบริเวณภายในโรงงานและพื้นที่ใกล้เคียงโรงงาน พบว่า บ่อน้ำของโรงงานมีลักษณะเป็นน้ำเสีย โดยมีสภาพเป็นกรดและปนเปื้อนโลหะหนักและยังตรวจพบการรั่วไหลรั่วซึมจากบ่อน้ำภายในโรงงานออกสู่ภายนอก ส่งผลให้น้ำผิวดินบริเวณใกล้เคียงโรงงานมีค่าความเป็นกรดสูงและปนเปื้อนโลหะหนัก และยังตรวจพบค่าสารอินทรีย์ระเหยง่ายบริเวณด้านข้างโรงงาน บ่งชี้ว่ามีของเสียจากโรงงานระบายออกสู่ภายนอก ก่อให้เกิดความเสียหายแก่แหล่งน้ำสาธารณะและพื้นที่เกษตรกรรมของประชาชน

นางกัญชลี กล่าวว่า คพ. ได้นำปัญหามลพิษกรณีโรงงานของบริษัทดังกล่าว เสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2564 มีมติให้ คพ. พิจารณาดำเนินการ ตามมาตรา 96 และ 97 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ในกรณีที่บริษัทฯ ไม่ดำเนินการชดใช้ค่าเสียหายตามที่กฎหมายกำหนด จะต้องฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทฯ คพ. จึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานรวบรวมพยานหลักฐานและค่าใช้จ่ายในการเรียกค่าสินไหมทดแทน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมวิชาการเกษตร กรมพัฒนาที่ดิน กรมประมง สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 13 (ชลบุรี) สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง และองค์การบริหารส่วนตำบลบางบุตร และได้ทำการประเมินค่าเสียหาย ค่าขจัดมลพิษ และการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำความผิดของบริษัท วิน โพรเสส จำกัด คพ. โดยพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการจังหวัดระยอง ได้ยื่นฟ้องบริษัท วินโพรเสส จำกัด กับพวกรวม 3 คน เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 เพื่อเรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้นต่อภาครัฐและการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามมาตรา 96 และ 97 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535

รองอธิบดี คพ. กล่าวต่อว่า เมื่อวานนี้ วันที่ 2 กันยายน 2567 ศาลจังหวัดระยองได้มีคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสามชดใช้ค่าเสียหายแก่ คพ. เป็นค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม พร้อมดอกเบี้ย และค่าทนายความ รวมเป็นเงินจำนวน 1,743,609,923.46 บาท คดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลจังหวัดระยองได้ภายในกำหนด 1 เดือนนับแต่วันที่ได้อ่านคำพิพากษา หากคดีนี้ไม่มีการยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาและคดีถึงที่สุดแล้ว คพ. จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการบังคับคดี เพื่อนำเงินมาใช้ในการดำเนินการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมตามคำพิพากษาของศาลต่อไป ทั้งนี้ ผลจากคำพิพากษาดังกล่าวจะเป็นบรรทัดฐานให้ผู้ประกอบการต่างๆ ต้องระมัดระวัง และต้องไม่ละเลยการปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พัชรวาท' เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 พบ 5 จว.จุดความร้อนพุ่ง แนะ คพ. เร่งประสานทุกหน่วยเข้าควบคุมแหล่งกำเนิด

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) โดยมีนางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ รายงานการดำเนินงานของ ศกพ. และนำเสนอสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5