เคยเป็นไหม…ไม่ว่าเราจะรู้สึกมีความสุขหรือเศร้ากับอะไรบางอย่าง เพียงแค่ออกเดินทางไปหาธรรมชาติก็รู้สึกผ่อนคลายสบายใจอย่างบอกไม่ถูกซึ่งในประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่งเลย ในทริปนี้อยากจะพาทุกคนไปเปิดรับความสวยงามของสายน้ำ ภูเขา แบบสโลว์ไลฟ์ที่ ชุมชนตำบลเกาะหมาก อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง บอกเลยว่าได้มาแล้วจะตกหลุมรักแน่นอน
มาถึงจุดหมายปลายทางที่ชมดาว ลานยอ ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ที่พักแนวโฮมสเตย์และลานกางเต็นท์ ริมทะเลสาบสงขลา โอบล้อมไปด้วยต้นโกงกางและต้นลำพูเขียวขจี ลมเย็นๆที่พัดชโลมไล่ความร้อนในร่างกายและความเหนื่อยจากการเดินทางรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที เดินสำรวจรอบๆ ที่นี่แบ่งโซนสำหรับที่พักและลานนั่งชิวๆ มีสะพานทอดยาวออกไปริมทะเลสาบ บริเวณนี้ยังแบ่งเป็นจุดกางเต็นท์และที่นั่งทานอาหารด้วย
เราและเพื่อนร่วมทริปจะปักหลักเที่ยวให้หนำใจที่เกาะหมากตลอดระยะเวลา 2 วัน 1 คืน โดยมี คิม-คิมหันต์ สุวรรณเรืองศรี เจ้าของโฮมสเตย์ พ่วงตำแหน่งประธานชุมชนท่องเที่ยวตำบลเกาะหมาก ที่จะมารับหน้าที่เป็นไกด์นำเที่ยวชุมชนในทริปนี้ สำหรับกิจกรรมท่องเที่ยวที่นี่มีให้เลือกถึง 13 ฐานเลย เพราะความตั้งใจของไกด์คิมคือ อยากจะพัฒนาให้ 11 หมู่บ้านในต.เกาะหมากเป็น 1 หมู่บ้าน 1 จุดเช็คอเพื่อให้เกิดความมีส่วนร่วมในการกระจายรายได้และสร้างแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนที่มีจุดแข็งคือ ธรรมชาติและวิถีชีวิตริมทะเลสาบสงขลาให้ยั่งยืน
ช่วงบ่ายเริ่มกิจกรรมแรก ล่องเรือ 3 เกาะ ได้แก่ เกาะกระ เกาะร้านไก่ และเกาะคำเหียง ใช้เวลาราวๆ 4 ชั่วโมง ทั้ง 3 เกาะตั้งอยู่บนทะเลสาบสงขลา ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้เป็นทะเลสาบ 3 น้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความยาวจากปากน้ำไปทางทิศเหนือประมาณ 80 กิโลเมตร ส่วนที่กว้างที่สุดประมาณ 20-25 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดสงขลา จังหวัดพัทลุง และจังหวัดนครศรีธรรมราช ทำให้มีชุนชนตั้งโดยรอบเพราะมีสภาพทางนิเวศที่หลากหลาย เนื่องจากเป็นที่ไหลรวมกันของต้นน้ำลำคลองเล็ก ๆ มากมาย และยังมีทางออกสู่ทะเลอ่าวไทย ปริมาณและสภาพน้ำ ในทะเลสาบขึ้นอยู่กับน้ำจืดที่ไหลลงมาและน้ำเค็มจากทะเลหนุนเข้ามา และยังมีเกาะที่ตั้งคาบเกี่ยวระหว่าง 3 จังหวัดจำนวนมาก ทำให้กิจกรรมล่องเรือ ถือเป็นอีกไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด
ความน่าสนใจของกิจกรรมล่องเรือในครั้งนี้ คือ การได้เห็นร่องรอยของเรื่องราวในอดีตและความสวยงามที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ขึ้นมา ไม่ให้เสียเวลาเรือไฟเบอร์กลาสลำใหญ่ สำหรับนักท่องเที่ยวแล่นออกจากท่าชมดาว ลานยอ มุ่งหน้าสู่เกาะกระ ระหว่างทางชมทิวทัศน์ของแหล่งน้ำที่เต็มไปด้วยฝูงนกนานาชนิดบินอวดโฉมเหนือผิวน้ำ จุดสังเกตที่ทำให้รู้ว่ามาถึงเกาะกระแล้วจะเห็นศาลาสไตล์จีนสีเหลืองตั้งโดดเด่นอยู่ริมผา เกาะแห่งนี้เป็นเพียงเกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับเกาะสี่ เกาะห้า ซึ่งเป็นเกาะรังนกหรือเข้าใจง่ายๆ คือ เป็นพื้นที่เขตสัปทานรังนกเพราะมีถ้ำจำนวนมาก แต่เกาะกระตั้งอยู่นอกเขตสัมปทาน สันนิษฐานว่าในอดีตเป็นจุดพักและหลบภัยของชาวประมง
ความน่าสนใจเมื่อขึ้นมาชมความสวยงามบนเกาะแห่งนี้คือ การตั้งศาลเจ้าจีนมีองค์เจ้าแม่กวนอิม อักษรจีนที่สลักอยู่บนผนังภูเขา แต่ก็ยังมีพระพุทธรูป ให้สักการะขอพร โดยบริเวณรอบๆเกาะนักท่องเที่ยวสามารถเดินชมทัศนียภาพได้ระยะทาง 350 เมตร ความสนุกของการเดินชมเกาะ คือ จุดถ่ายภาพที่เปิดจากการแปรสภาพของหินภูเขาไปตามกาลเวลา ทำให้รอบเกาะแต่ละจุดเราสามารถถ่ายภาพ เรียกตามชื่อที่ชาวบ้านตั้งขึ้น อย่าง สระน้ำกระจก เขาพิงกัน ต้นโพธิ์เงิน-ทอง หินมังกร สะพานนักษัตร บอกเลยว่าเพลินมาก
เรือแล่นไปต่อที่เกาะร้านไก่ เกาะแห่งนี้ดูมีความลึกลับ พงหญ้าที่ปกคลุมรอบๆ แต่ความงดงามปรากฏขึ้นตรงหน้าเมื่อลงเรือเดินแหวกพงหญ้าเข้ามา เพราะลักษณะของถ้ำที่เกาะนี้ทะลุหากัน หากใครจะมาที่เกาะนี้แนะนำให้มาช่วงน้ำลง เพราะช่วงน้ำขึ้นตั้งแต่เดือน พ.ย.-ธ.ค. น้ำจะหนุนสูงทำให้ไม่สามารถลงเดินชมบนเกาะได้
มาถึงเกาะสุดท้ายที่ เกาะคำเหียง วาปเข้าสู่เขตอ.สทิงพระ จ.สงขลา ไฮไลท์ของเกาะแห่งนี้คือ ผาม่านไม้ ซึ่งเป็นพืชตระกพที่ขึ้นอยู่บนผาหินสูง 20 เมตร แล้วทอดรากยาวลงมาจรดพื้นดินด้านล่างเพื่อดูดซับอาหาร แผ่ม่านกว้างเต็มผาประมาณ 20 เมตร ทำให้เกิดเป็นความสวยงามบนเกาะแห่งนี้ ระหว่างแล่นเรือกลับก็พบชาวประมงที่กำลังยกไซดักปลา ดักกุ้ง เป็นวิถีชีวิตของคนลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาที่ยังทำประมงด้วยภูมิปัญญาแบบดั้งเดิม หากสังเกตบริเวณทั่วผิวน้ำ ก็จะเห็นว่ามีการว่างลอบดักปลาเรียงเป็นแถวจำนวนมากพอสมควรเลย
ถึงที่พัก ลานด้านหน้าเราปักหลักรอชมแสงสุดท้ายของวัน แม้จะไม่หวังว่าวันนั้นจะมีแสงให้ได้ชม เพราะฟ้าปิดครึ้มทั้งวัน แต่เมื่อถึงเวลาแสงสีส้มริบหรี่ที่ถูกบังด้วยม่านเมฆ ก็ค่อยคลี่ออกให้เราได้เห็นดวงอาทิตย์กลมโตสีแดงเข้มค่อยเคลื่อนหายไปหลังเขาแสงสุดท้ายก็ระเบิดออกมาเป็นสีชมพูพาสเทลจากที่มองด้วยตาเปล่า เป็นแสงสุดท้ายของวันที่งดงามมากๆ ซึ่งเพื่อร่วมทริปแต่ละคนต่างก็หยิบกล้องมาบันทึกภาพเก็บไว้กันอย่างสนุกสนาน
ค่ำคืนนี้ยังไม่จบเพราะชมดาว ลานยอ คือจุดที่มองเห็นดาวได้ชัดเจนสมกับชื่อจริงๆ กิจกรรมของเช้าอีกวัน ปั่นจักรยานเที่ยวชุมชนเกาะหมากระยะทางราวๆ 8 กิโลเมตร จุดแรกรองท้องด้วยขนมครกสูตรโบราณของยายแปลก ชมวิวแม่น้ำทะเลสาบสงขลา สักการะเจดีย์ทอง เปลี่ยนมานั่งสามล้อไปชมอุโมงค์ต้นยาง และทุ่งหญ้าสะวันนา ซึ่งตอนนี้หญ้าทั้งทุ่งเป็นสีน้ำตาล เนื่องจากน้ำลด แต่อีก 2 เดือนหลังจากนี้จะเข้าช่วงหน้าฝนทุ่งหญ้าจะกลับมาเขียวขจีอีกครั้ง กิจกรรมสุดท้ายกับงานแฮนด์เมดทำประติมากรรมทราย ที่นำทรายจากในพื้นที่ประเภทต่างๆ มาสร้างสรรค์เป็นงานศิลปะสุดน่ารัก เก็บเป็นของที่ระลึกนำกลับไปตั้งโชว์ที่บ้านเก๋ๆ
ชุมชนเกาะหมากเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติของภาคใต้ที่มีเสน่ห์และทำให้ตกหลุมรักความเรียบง่าย เงียบสงบ เหมือนหลุดมาอีกโลกที่ไม่วุ่นวาย ที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งที่รอให้นักท่องเที่ยวไปสัมผัสความสวยงาม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลุยสำรวจ 'ต้นตะบัน' บนเกาะขายหัวเราะ เสียหายมากกว่าที่เป็นข่าว ห่วงรากขาด หากเจอพายุหนัก
หลังจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกาะหมาก และอบต.เกาะหมาก ร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับการบริหารจัดการเกาะขายหัวเราะ หลังปรากฏเป็นข่าวว่ามีนักท่องเที่ยวเข้าไปโหน นั่ง และโน้มกิ่ง และทำให้กิ่งหัก รากถูกเหยียบจนได้รับความเสียหายนั้น
ห่วง 'ต้นตะบัน' ไม้เก่า 80 ปีบนเกาะขายหัวเราะ บอบช้ำหนัก ปลุกคนเที่ยวร่วมอนุรักษ์
นายอิษฎา เสาวรส ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานตราด กล่าวว่าหลังจากเข้ามาดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานตราด ได้มองเห็นศักยภาพของเกาะหมากในการที่จะเป็นศูนย์กลางของกลุ่มเกาะใกล้เคียง อาทิ เกาะขาม เกาะกระดาด เกาะขายหัวเราะ เกาะระยั้งนอก รวมถึง
รมว.ท่องเที่ยวฯ เช็คอิน 'เกาะขายหัวเราะ' ชูอันซีนแห่งใหม่ตราด
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬาประทับใจ “เกาะขายหัวเราะ” ชูแหล่งอันซีนใหม่จังหวัดตราด พร้อมเหนุนแหล่งท่องเที่ยวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่