บรรพชาอุปสมบท-บวชชีพรหมโพธิ ปฏิบัติธรรมสังเวชนียสถาน ถวายเป็นพระราชกุศล

วธ.ร่วมกับวัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี จัดบรรพชาอุปสมบทและบวชชีพรหมโพธิ เดินทางไปปฏิบัติธรรม - ศึกษาพุทธประวัติ ณ พุทธสังเวชนียสถานอินเดีย - เนปาล

18 ก.ค.2567- นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับวัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี คณะพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย - เนปาล และมูลนิธิพระธรรมวิทยากรไทยในแดนพุทธภูมิ จัดโครงการบรรพชาอุปสมบทและบวชชีพรหมโพธิ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 - 30 กรกฎาคม 2567 รวมระยะเวลา 13 วัน ณ วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี จ.สมุทรปราการ วัดไทยพุทธคยา รัฐพิหาร และพุทธสังเวชนียสถาน สาธารณรัฐอินเดีย และสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล โดยมีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางลาลีวรรณ กาญจนจารี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม นางสาวพลอย ธนิกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรร เข้าร่วมพิธี ณ วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี จังหวัดสมุทรปราการ

รมว.วธ. กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานผ้าไตร สำหรับอุปัชฌาย์ จำนวน 1 ไตร และสำหรับผู้บรรพชาอุปสมบท จำนวน 73 ไตร และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบให้ข้าราชการทุกประเภท พนักงานราชการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และพนักงานรัฐวิสาหกิจที่เข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทและบวชชีพรหมโพธิ ถวายเป็นพระราชกุศลครั้งนี้ ไม่ถือเป็นวันลา เสมือนเป็นการปฏิบัติราชการ ปฏิบัติงานและได้รับเงินเดือนตามปกติ ซึ่งโครงการบรรพชาอุปสมบทและบวชชีพรหมโพธิฯ ครั้งนี้ มีบุคลากรภาครัฐ ภาคีเครือข่ายภาคเอกชน และประชาชนสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบท จำนวน 73 คน บวชชีพรหมโพธิ จำนวน 73 คน และบวชเนกขัมมะ จำนวน 98 คน นอกจากนี้ มีผู้บวชสมทบในโครงการฯเพิ่มเติมอีกแบ่งเป็นบรรพชาอุปสมบทจำนวน 25 คน และบวชชี 34 คน รวมมีผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 303 คน

" โครงการนี้จัดทำขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนจากภาคส่วนต่างๆ ได้แสดงออกถึงความจงรักภักดี ความกตัญญูกตเวทีต่อสถาบันหลักของชาติ ตลอดจนให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันบำเพ็ญคุณงามความดี ถวายเป็นพระราชกุศลด้วยการปฏิบัติธรรมในพุทธสังเวชนียสถาน ที่สำคัญให้ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ได้พัฒนาคุณธรรม จริยธรรมและศีลธรรม เพื่อนำหลักธรรมมาปรับใช้ในการดำรงชีวิต เพื่อธำรงรักษาและร่วมกันเผยแพร่พุทธศาสนา” รมว.วัฒนธรรม กล่าว

นางสาวสุดาวรรณ กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ถวายพระพรชัยมงคล ขลิบผม และปฐมนิเทศ ตลอดจนซักซ้อมพิธีการ ณ วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี ในวันที่ 18 ก.ค. จากนั้นในวันที่ 19 ก.ค. จะมีการซ้อมขานนาค/ซ้อมบวชชีพรหมโพธิ และอบรมการรักษาศีล ณ วัดไทยพุทธคยา รัฐพิหาร สาธารณรัฐอินเดีย และวันที่ 20 กรกฎาคม จะมีพิธีมอบผ้าไตรพระราชทานแก่ผู้บรรพชาและมอบผ้าสไบ พร้อมเข็มที่ระลึกแก่ผู้บวชชีพรหมโพธิ ศีล 10 ณ ปริมณฑลต้นพระศรีมหาโพธิ์ และประกอบพิธีอุปสมบท ณ พระอุโบสถวัดไทยพุทธคยา จากนั้นระหว่างวันที่ 20 - 28 ก.ค. 2567 ผู้เข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบท และบวชชีพรหมโพธิ จะปฏิบัติธรรม ฟังบรรยายธรรมะและศึกษาพุทธประวัติ ณ สังเวชนียสถาน และวันที่ 29 ก.ค.จะมีทำพิธีลาสิกขา/ลาศีล 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ย้อนเวลา 4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ

ชวนแต่งชุดไทยเดินทางย้อนเวลากลับไปสู่ช่วงต้นกรุงศรีอยุธยา  ดื่มด่ำกับบรรยากาศโบราณสถานยามค่ำคืนที่งดงามในงาน “ 4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ” ภายใต้แนวคิด “ย้อนเวลา ส่องวิถี ปลุกแสงสี พระนครศรีอยุธยา” โดยจะจัดกิจกรรมตามวัดและโบราณสถานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์

สืบสานประเพณีถวายผ้าพระกฐินวัดหนองแวง แหล่งรวมมรดกวัฒนธรรม

5 พ.ย.2567 - นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า เนื่องในเทศกาลกฐิน พุทธศักราช 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานผ้าพระกฐินให้กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) นำไปถวายพระสงฆ์ที่จำพรรษา

'หมูเด้ง' ซุปตาร์ดันวัฒนธรรมไทยสู่ระดับโลก

“หมูเด้ง”ซุปเปอร์สตาร์ฮิปโปแคระที่โด่งดังเป็นไวรัลทั่วโลกจากความน่ารักขี้เล่น  สื่อต่างประเทศนำไปลงข่าว นิตยสาร TIME พาดหัวข่าวเป็นไอคอนไลฟ์สไตล์ที่กิน นอน และแอคชั่นดราม่า สร้างปรากฎการณ์หมูเด้ง  ช่วยให้ยอดนักท่องเที่ยวเข้าชมสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี เพิ่มทวีคูณ 

ลอยกระทงวิถีไทย สืบสานประเพณีงดงาม

วันลอยกระทงปีนี้ ตรงกับวันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2567 จัดเป็นเทศกาลประเพณีสำคัญของคนไทยที่จะได้ร่วมกันสืบสานคุณค่าประเพณีอันดีงาม โดยการทำกระทงสวยงามหลากหลายรูปแบบ นำไปลอยตามแม่น้ำลำคลอง เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ