![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/07/1.ก้าวสู่ปีที่-9-KX-รวมพลังพันธมิตรขับเคลื่อนไทยฝ่าวิกฤติภูมิรัฐศาสตร์ใหม่-.jpg)
‘
คงไม่ต้องสงสัยแล้วว่า ทำไมหลายประเทศจึงพยายามมุ่งส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ เพราะในโลกการแข่งขันที่รุนแรงทุกวันนี้ ทุกประเทศล้วนตื่นตัวให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ โดยมองว่าจะเป็นอาวุธสำคัญทางการค้าสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ
อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศไทยในช่วงประมาณ 10ปีที่ผ่านมา ได้วางกลยุทธิ์และให้ความสำคัญกับนวัตกรรมอย่างมาก มีการก่อตั้งKX – Knowledge Xchange หน่วยงานผู้นำด้านการขับเคลื่อนนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (KMUTT) ที่ผนึกกำลังร่วมกับ Partner จากต่างประเทศได้แก่ Big Mango, AWS, TechNode Global และหน่วยงานอื่นๆ อีกมากมาย มาเป็นองค์การที่ช่วยขับเคลื่อนให้เกิดนวัตกรรมที่เป็นนานาชาติ ภายใต้รูปแบบการสนับสนุน”สตาร์ทอัพ “หรือผู้ประกอบการรายใหม่อย่างครบเครื่อง ซึ่งไม่ได้จำกัดแค่สตาร์ทอัพไทยเท่านั้น แต่ยังขยายขอบเขตการสนับสนุนระดับนานาชาติอีกด้วย
ล่าสุดเมื่อเร็วนี้ ในวาระ ปีที่ 9 ของการเปิดดำเนินการ “KX “ได้เปิดตัว ” นวัตกรรม”ภายใต้โครงการ TECHBITE ที่มีศักยภาพสูง สามารถแข่งขันในตลาดโลก ในงานชื่อว่าโครงการ KX TECHBITE 5.0 โดย Startups : Investment and Demo Dayซึ่งเป็นการรวมพลังภาคอุตสาหกรรม ภาคเอกชน ภาครัฐ เพื่อโชว์ผลงานสตาร์ทอัพผู้ประกอบการและนวัตกรรมเด่นที่KXใ้ห้การสนับสนุนผลัดดัน ซึ่งในงานพรั่งพร้อมด้วย ผู้นำวงการStartups, Venture Capital และนักลงทุน โดยงานจัดขึ้น ณ อาคาร KX – Knowledge Xchange ถนนกรุงธนบุรี
![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/07/2.ดร.ภัทรชาติ-โกมลกิตติ-กล่าวเปิดงาน.jpg)
ดร.ภัทรชาติ โกมลกิติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KX – Knowledge Xchange กล่าวว่าเรากำลังก้าวสู่ยุคที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและกำลังคนที่มีไอเดียสร้างสรรค์และสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ รัฐบาลมีแนวนโยบายIgnite Thailand ยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลกท่ามกลางภูมิรัฐศาสตร์โลกที่เปลี่ยนโฉมจากโลกมหาอำนาจขั้วเดียวเป็นหลายขั้วขณะที่ทรัพยากรมีจำกัด ซึ่งเศรษฐกิจ การเมืองสังคม เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อมล้วนเชื่อมโยงเป็นเนื้อเดียวกันหากมองอนาคตเศรษฐกิจไทยจะมั่นคงยั่งยืนและก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลางได้นั้นทั้งภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม-เอกชนภาคการศึกษาของไทยต้องปรับตัวรอบด้าน วางแผนอย่างมีกลยุทธ์ ลงทุนให้ถูกทิศทางไม่เพียงดึงนักลงทุนมาเปิดอุตสาหกรรมในไทยเท่านั้น แต่ไทยต้องพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีของเราเองที่สามารถ ‘ขยายสเกล’ออกสู่ตลาดโลกได้ KX- Knowledge Xchange ศูนย์แลกเปลี่ยนและส่งเสริมนวัตกรรมนานาชาติครบวงจรซึ่งก้าวล้ำด้วยนิเวศนวัตกรรม ที่สำคัญ KX ยังมีวิสัยทัศน์มุ่งมั่น ที่จะก้าวเป็นผู้นำฮับของสตาร์ทอัพระดับโลกอีกด้วย
ผลการดำเนินงาน KX – Knowledge Xchange ในช่วงปี 2021 -2024ได้สร้างผลดีต่อระบบนิเวศสตาร์ทอัพซึ่งเป็นผู้สร้างสรรค์นวัตกรรม โดยสร้างสตาร์ทอัพ 202 ทีม, เจรจาจับคู่ธุรกิจ 103 ราย,จัดกิจกรรมส่งเสริมนวัตกรรม 2,500 งาน, ร่วมมือกับหุ้นส่วนพันธมิตรกว่า 80 องค์กร, จัดหาแหล่งทุนกว่า 4.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 177 ล้านบาท และ Total Portfolio Valuation มีมูลค่า 24 ล้านเหรียญสหรัฐ
![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/07/กระดูกเทียม.jpg)
“ในโลกปัจจุบันคนไทยไม่สามารถเดินเพียงลำพังได้ การเติบโตต้องเข้าถึงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และร่วมทำงานกับเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศจะเห็นว่า KX สามารถสร้าง 202 สตาร์ทอัพจาก 11 ประเทศ เรายังเป็นแหล่งรวม Mentors ชั้นนำจาก 6 ประเทศและหุ้นส่วนพันธมิตรระดับโลก เป้าหมายของ KXจะสร้างแพลตฟอร์มนวัตกรรมเปิดเพื่อเสริมพลังศักยภาพให้ผู้ประกอบการในการนำโซลูชั่นทคโนโลยีมาสู่ตลาดในทุกระยะของเส้นทางนี้ KX ร่วมทำงานกับภาคอุตสาหกรรมและภาครัฐในการยกระดับทีมที่เปี่ยมพลังเพื่อสร้างสรรค์ความก้าวหน้าเติบโตทางสังคมและเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน”ดร.ภัทรชาติกล่าว
ผลงานเด่น KX ที่เป็นความสำเร็จ 5 ผลงาน ซึ่งได้รับความสนใจในตลาดนานาชาติ 1. ออสซีโอแล็บส์ (OsseoLabs) นับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของเทคโนโลยีทางดิจิทัลเฮลท์แคร์และการแพทย์ด้วยโซลูชั่นและวัสดุทดแทนกระดูกแบบมีรูพรุน 3D พริ้นติ้งเฉพาะบุคคล รายแรกของเอเซียปฏิวัติรูปแบบใหม่ของระบบปลูกถ่ายผ่าตัดขากรรไกรใบหน้า กระดูก และข้อ ปัจจุบันได้รับการสนับสนุนจากเงินทุนร่วมลงทุนกว่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะนี้กำลังเตรียมเปิดตัวขั้นตอนการผ่าตัดในระดับสากลเช่น การสร้างขากรรไกรล่าง การสร้างกระดูกเท้าใหม่ การสร้างกระดูกสันหลังใหม่
![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/07/13.NPI-ระบบที่นอนอัตโนมัติ-AI-Robotic-ป้องกันแผลกดทับ.jpg)
2.เอ็นพีไอ (NPI) โดยสตาร์ทอัพไทย คิดค้นระบบที่นอนอัจฉริยะอัตโนมัติควบคุม-ป้องกันแผลกดทับและกระจายการรับแรงโดดเด่นด้วย Robotic AI เซ็นเซอร์เชื่อมต่อ IoT เป็นรายแรกของ มุ่งขยายตลาดจากไทยไปยังเอเซียและอเมริกา ได้แก่ ไต้หวัน แคนาดาสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน แคนาดา
3.หมุดจัดฟันขนาดเล็กความแข็งแรงสูง (ZeroLoss) เป็นรายแรกของโลกที่ใช้เทคโนโลยีอากาศยาน (FSP : Fine Shot Peening) โดยกระบวนการยิงปรับพื้นผิวแรงสูงด้วยอนุภาคละเอียดที่ปลอดภัยทางชีวภาพ ทำให้โครงสร้างภายในแข็งแรงเสริมประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการจัดฟัน ปัจจุบันสตาร์ทอัพได้นำร่องส่งออกไปยังเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
4.ไอคิวบ์ (iCube) โซลูชั่นบริหารจัดการอุตสาหกรรมแบบไร้รอยต่อ ช่วยให้การตัดสินใจเชิงธุรกิจเป็นไปด้วยระสิทธิภาพสามารถวิเคราะห์และจัดการข้อมูลการผลิตแบบเรียลไทม์ ลดต้นทุน และพัฒนากระบวนการผลิต
5.มตกัต (Modgut) สุขภาพที่ดีเริ่มที่จุลินทรีย์ลำไส้ ซึ่งดูแล 70% ของระบบภูมิคุ้มกันและเกี่ยวข้องกับ 90%โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง สตาร์ทอัพไทยได้วิจัยพัฒนาด้วยความร่วมมือจากโรงพยาบาลชั้นนำเปิดบริการวิเคราะห์ไมโครไบโอมเฉพาะบุคคล และวางตลาด 4 สูตรอาหารเพื่อสุขภาพ ‘พรีฟังชั่นนัล โปรไบโอติกส์’มุ่งขยายตลาดไปยังสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม
นอกจากนี้ ยังมีอีก 13 สตาร์ทอัพ ดาวรุ่ง ได้แก่ 1.คาร์บอน โฟลว์ (Carbonflow )เทคโนโลยีชีงภาพวัดการไหลของคาร์บอน ด้วย AIและดาวเทียมเพื่อลดค่าใช้จ่ายลงจากวิธีเดิมได้ถึง 10 เท่า
2.แมค ออกซิโดซิ่ง( Mac Oxidizing )เทคโนโลยีบำบัดก๊าซเรือนกระจกและสารพิษในน้ำ
3.ยูเฟรเซีย(Uphasia)แอปพลิเคชั่นฟื่นฟูทักษะการพูดของผู้ป่วยโรคสมอง
4.ไบโอแบล็ก (Bioblack) อาหารเพื่อสุขภาพจากข้าวเหนียวดำ GI โบราณของชาวล้านนาวิถีเกษตรอินทรีย์ด้วยการทำงานร่วมกับชุมชนในรูปของ BioBlack Community Enterprise
5.อินดิสทิงค์( Undistinct) ระบบเอไอและออโตเมชั่นในการยืนยันตัวตน
6.คลิน( CLINS) เป็นแพลตฟอร์มช่วยร่นเวลาในการทดสอบยา อาหารและอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้ลงได้กว่า 35%
7.สแกมทิฟาย(SCAMTIFY ) แพลตฟอร์มป้องกันการหลอกลวงทางออนไลน์
8.มุม(MOOM )แพลตฟอร์มออกแบบโครงสร้างสถาปัตยกรรมความยั่งยืนและค่าใช้จ่าย
9.ดูโฟนิกส์(DuPhonics )AIเรียนรู้การอ่านเขียนและ STEMในโลกเมตาเวิร์สแบบเรียลไทม์ ให้เลือกทั้ง ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ สำหรับเด็กเจน-อัลฟ่า วัย 4 -15 ปี
10.ทินแมนไทยแลนด์ (Tinman Thailand )เป็นแพลตฟอร์มพัฒนาบุคลากรใช้ประเมินจับคู่นักเรียนกับอาชีพที่เหมาะสม
11.แฮปโป ( HAPPO)แอปพลิเคชั่นส่งเสริมสุขภาพจิต
12.โค้ดเวนเจอร์(Code/Venture)แพลตฟอร์ม AI การเรียนรู้การเขียนโปรแกรม Gamifield Coding
13. ทาราโก ( TaraGo)การท่องเที่ยวชนบทไทยและอาเซียนที่ยั่งยืน
![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/07/4.ดร.เคตะ-โอโน-ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรม-KX-..jpg)
ดร.เคตะ โอโน (Keita Ono) ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรม KX Knowledge Xchange กล่าวว่านับจากKX – Knowledge Xchange เปิดดำเนินงานในปี 2016 ด้วยปณิธานอันมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนนวัตกรรมและผู้ประกอบการด้วยองค์ความรู้แบบเปิด เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยสร้างระบบนิเวศและผนึกความร่วมมือทุกภาคส่วน ภายในตึก KX 20 ชั้น มีหน่วยงานและองค์กร 44 แห่งที่มาเปิดกิจการและร่วมมือกันในภารกิจเป็นส่วนหนึ่งของ Startup Ecosystem ครบครันสิ่งอำนวยความสะดวกและนิเวศ อาทิ กิจกรรมบ่มเพาะนวัตกรรมสร้างผู้ประกอบการ, FABLAB Bangkok บริการสร้างต้นแบบ(Prototyping service), การให้คำปรึกษา (Business consultation), พื้นที่ (Co-working space, Event space),การสนับสนุนด้านเทคโนโลยี (Technology support), คำปรึกษาด้านกฏหมาย (Legal consultation) และการพัฒนาทักษะ(Workshop & Training)
” โครงการ TECHBITE ซึ่งปี 2567 นี้ KXเน้นย้ำคุณภาพระดับอินเตอร์อย่างต่อเนื่อง ผนึกกำลังพันธมิตรทั้งในและนานาชาติ โครงการ TECHBITE 5.0เริ่มตั้งแต่เดือนก.พ- ก.ค. 2567 ได้รับความสนใจอย่างท่วมท้น มีทีม Startup สมัครเข้าร่วม 80 บริษัทจากหลากหลายอุตสาหกรรมทั่วประเทศไทยและชาวต่างประเทศด้วย KX ซึ่งเรามีเมนเทอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆมา ส่งเสริมให้ความรู้ บ่มเพาะ วิจัยพัฒนาแนวคิด วิเคราะห์ทดสอบทดลองความเป็นไปได้ สนับสนุนเครื่องมืออุปกรณ์ของศูนย์ KXในการสร้างต้นแบบ เสริมทักษะด้านการวางแผนการตลาด หาแหล่งเงินทุนที่คาดหวังสำหรับการเติบโตในอนาคต โดยทั้ง 13ผลงานที่นำมาแสดงก็เป็นส่วนที่สำคัญของงานนี้”ดร.เคตะกล่าว
![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/07/14.สแกมทิฟาย-ป้องกันการหลอกลวงทางออนไลน์-ด้วย-AI-เพียงคลิ๊กเดียว.jpg)
![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/07/15.ดูโฟนิกส์-ระบบ-AI-เรียนรู้อ่านเขียน-STEM-ในโลกเมตาเวิร์สเรียลไทม์-.jpg)
![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/07/16.อินดิสทิ้งท์-Indistinct-AI-ออโต้เมชั่นยืนยันตัวตนเข้าออกอาคาร-ทำธุรกรรม.jpg)
![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/07/17..HAPPO-ระบบเอไอ-ส่งเสริมสุขภาพจิต-.jpg)
![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/07/18.-CodeVenture-แพลตฟอร์มการเรียนเขียนโปรแกรม-Coding-ผ่านเกมอินเตอร์แอคทีฟ.jpg)
![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/07/19.ยูเฟเซีย-แอปพลิเคชั่นฟื้นฟูทักษะการพูดผู้ป่วยทางสมอง-.jpg)
![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/07/20..MAC-Oxcidizing-Technology-นวัตกรรมเครื่องบำบัดอากาศเสีย-และน้ำเสีย.jpg)
![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/07/20..MAC-Oxcidizing-Technology-นวัตกรรมเครื่องบำบัดอากาศเสีย-และน้ำเสีย-1.jpg)
![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/07/21..คาร์บอนโฟลว์-แพลตฟอร์มวัดคาร์บอนเครดิต-และซ้อขาย-มาตรฐานโลก-สำหรับไร่เกษตร.jpg)
![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/07/22.ทินแมน-ไทยแลนด์-แพลตฟอร์ม-HR-พัฒนาและสรรหาบุคคลากร.jpg)
![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/07/23.คลินซ์-แพลตฟอร์มย่นระยะการทดลองในสัตว์และทดสอบคลินิกในมนุฯษย์-.jpg)
![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/07/25.ไบโอแบลค-อาหารกราโนลาจากข้าวเหนียวดำของล้านนา.jpg)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“เบทาโกร” จับมือ “มทร.ล้านนา” และ “มจธ.” ยกระดับทักษะพนักงานระดับ ปวส. ศึกษาต่อปริญญาตรี ด้วยรูปแบบ “โรงเรียนในโรงงาน”
“บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน)” หรือ “BTG” โดย “ดร.ถนอมวงศ์ แต้ไพสิฐพงษ์” (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่ กลุ่มงานบริหารส่วนกลาง ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ
ลุยงานวิจัยสู่ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ อย. จัด e-Consult ช่วยผู้ประกอบการ
รัฐเร่งผลักดันงานวิจัยสู่ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ อย. จัด e-Consult พร้อมระบบสนับสนุนผู้ประกอบการ นักวิจัย ออกผลิตภัณฑ์นวัตกรรมสุขภาพสู่ท้องตลาดเร็วขึ้น
ครั้งแรก! APCO สร้างชีวิตใหม่ให้ผู้ Bye Bye HIV เข้าทำงานที่ปรึกษาใช้ภูมิคุ้มกันบำบัดจากพืช
ครั้งแรกของโลก! บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO ผู้นำนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดจากสารสกัดพืชธรรมชาติของไทย และทีมนักวิจัย Operation BIM ก้าวไปอีกขั้น