![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/07/แนวคันดิน.jpg)
จุดเริ่มต้นการค้นพบ ศ.ดร.สันติ ภัยหลบลี้ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ค้นพบแนวคันดินใน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งบ่งชี้ถึงการมีอยู่ของชุมชนโบราณเมื่อ700-1,000 ปีก่อน คาดว่ามีคนประมาณ 300-500 คนอาศัยอยู่การค้นพบนี้เกิดจากการสำรวจภาพถ่ายทางอากาศของกรมแผนที่ทหารในปี 2519 ซึ่งแปลความโดย ศ.ดร.สันติ โดยพบว่าพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบน้ำท่วมถึง ปัจจุบันใช้เป็นพื้นที่ทำนาและทำไร่สวนยางพาราแต่พบแนวคันดินที่มีลักษณะกว้างและสูงกว่าคันนาปกติทั่วไปในพื้นที่บ้านเขาดินใต้ ต.บ้านกรวด โดยแนวคันดินนี้กว้าง 3 เมตร สูง 0.5-1 เมตร จากการสอบถามชาวบ้านพบว่า แต่เดิมคันดินสูงกว่า 2 เมตรและเต็มไปด้วยจอมปลวกและต้นไม้รกทึบต่อมาชาวบ้านได้ปรับพื้นที่ให้สะอาดและต่ำลงเพื่อใช้เป็นถนนในการทำการเกษตร
ขอบเขตพื้นที่ จากการลงสำรวจและรังวัดแนวคันดิน พบว่าแนวคันดินดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าประกอบด้วยคันดินด้านทิศตะวันตกและทิศตะวันออกยาว 200 เมตร และคันดินด้านทิศใต้ยาว 330 เมตรส่วนทิศเหนือกำหนดเขตจากธารน้ำธรรมชาติห้วยเสว คำนวณพื้นที่ครอบคลุมได้ 66,000 ตารางเมตร หรือ 41 ไร่
![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/07/พื้นที่โดยรอบแนวคันดิน.png)
แนวคันดินนี้มีขนาดเล็กกว่าเมืองโบราณทรงสี่เหลี่ยมอื่นๆ เช่น เมืองนครราชสีมาและเมืองเชียงใหม่ 20-40 เท่า จึงนิยามว่าเป็นระดับชุมชนโบราณมากกว่าเมืองขนาดใหญ่ โดยคาดการณ์จำนวนประชากรที่เคยอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ประมาณ 300-500 คน
อายุและหลักฐานโบราณคดี จากการสำรวจและเก็บหลักฐานทางโบราณคดีในพื้นที่ภายในแนวคันดินพบเศษภาชนะดินเผาจำนวนมาก กระจายตัวอยู่ทั่วพื้นที่ 41 ไร่ โดยเศษภาชนะทั้งหมดบ่งชี้ว่าเป็นแหล่งผลิตจากกลุ่มอุตสาหกรรมเตาเครื่องปั้นดินเผาโบราณ อ.บ้านกรวดจ.บุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางทิศ ตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 5-10 กิโลเมตร มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 16-19 (ประมาณ 700-1,000 ปี) นอกจากนี้ยังพบเศษอิฐจำนวนมากในพื้นที่ ซึ่งบ่งชี้ว่าภายในแนวคันดินเดิมน่าจะมีอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทำด้วยอิฐ
![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/07/ศ.ดร.สันติ-ภัยหลบลี้.jpg)
จากการขยายพื้นที่สำรวจโดยรอบแนวคันดิน พบว่าห่างออกไปประมาณ 1.3 กิโลเมตรทางทิศตะวันตก เป็นที่ตั้งของปราสาทหนองตะโก และทางทิศตะวันออกห่างออกไปประมาณ 1.4 กิโลเมตรพบเนินขนาดใหญ่ที่เกิดจากการทับถมของเศษตะกรันหรือขี้แร่ที่เหลือจากการถลุงเหล็ก โดย อิสราวรรณอยู่ป้อม กำหนดอายุกิจกรรมถลุงเหล็กดังกล่าวว่าเคยดำเนินอยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 18 (ประมาณ 800 ปี)
ศ.ดร.สันติเชื่อว่าแนวคันดินหรือชุมชนโบราณที่พบมีความสัมพันธ์กับแหล่งอุตสาหกรรมถลุงเหล็กโบราณทั้งในด้านพื้นที่และเวลา จึงกล่าวได้ว่า แนวคันดินล้อมรอบพื้นที่รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 41 ไร่ ใน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์คือที่อยู่อาศัยของชุมชนโบราณเมื่อ 700-1,000 ปีก่อนและอาจเป็นกลุ่มคนที่ประกอบกิจกรรมการถลุงเหล็กในอดีต
![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/07/หลักฐานโบราณคดี.jpg)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'หมอโอ๋' มองดราม่าอัญเชิญพระเกี้ยว อย่าเห็นคนรุ่นใหม่เป็นศัตรู ขอให้รู้ผู้ใหญ่จะตายก่อน
พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร หรือ หมอโอ๋ เจ้าของเพจ "เลี้ยงลูกนอกบ้าน" ได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กว่าด้วยเรื่องอัญเชิญพระเกี้ยว