'CHOICEISYOURS '7 องค์กร เฟ้นหาไอเดียเด็ดเยาวชนสร้างโลกยั่งยืน

เมื่อโลกร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนเข้าสู่ภาวะโลกเดือด “เรื่องความยั่งยืน”ที่หมายถึงความพยายามดูแลเยียวยาโลก กลายเป็นโจทย์ที่ทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้น ต้องคำนึงถึง เช่นเดียวกับโครงการ CHOICEISYOURS ที่มีขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่สาม เป็นการเฟ้นหาเยาวชนที่มีความคิด และใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)มาประชันไอเดีย เพื่อได้รับสิทธิ์ในการเข้ารับการฝึกงานในองค์กรชั้นนำของประเทศ ซึ่งในปีนี้ มีถึง 7 องค์กรด้วยกันได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ,มูลนิธิชัยพัฒนา ,ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย, เอสซีจี, กลุ่มเซ็นทรัล, โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ และบางจาก คอร์ปอเรชัน ที่เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรรายล่าสุด เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับโครงการ เนื่องจาก บางจาก เป็นอีกหนึ่งองค์กร ซึ่งสนับสนุนโครงการด้านความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคมไทยมาอย่างต่อเนื่อง

โครงการ CHOICEISYOURS ในปี2024  ยังได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบและกติกาการแข่งขันใหม่ เพื่อยกระดับความเข้มข้นของกิจกรรมและส่งเสริมให้นิสิตนักศึกษา  ร่วมผลักดันการปรับเปลี่ยนเพื่อความยั่งยืนในภาคส่วนต่าง ๆ ได้อย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น พร้อมยกระดับศักยภาพในกลุ่มคนเจเนอเรชันใหม่ ด้วยโครงการฝึกอบรมและการได้เรียนรู้จากประสบการณ์ทำงานจริง พร้อมมอบโอกาสในการร่วมงานกับองค์กรชั้นแนวหน้าทั้งในประเทศไทยและในระดับโลก โดยเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษามีอิสระในการแสดงความคิดสร้างสรรค์ เพื่อนำเสนอโครงการซึ่งประยุกต์ใช้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)ตามคอนเซ็ปต์ CHOICEISYOURS ที่หมายถึงน้องๆนิสิตนักศึกษา จะเป็นผู้เลือกเองว่าจะมีความคิดเห็นกับโจทย์ที่ได้รับมาอย่างไร

กฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มโครงการ CHOICEISYOURS  กล่าวว่าหนึ่งในจุดประสงค์หลักของโครงการในปีนี้คือ การเผยแพร่องค์ความรู้เรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงแนวคิด 4 ด้านเรื่อง Rethink, Reduce, Reuse, Recycle  ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างในกลุ่มนิสิตนักศึกษาและคนไทยทั่วไป รวมทั้งได้ร่วมกิจกรรมเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และหาแนวทางเพื่อร่วมยกระดับศักยภาพของนิสิตนักศึกษาไทย ตามโจทย์ด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนของแต่ละองค์กร

หลังจากการประกาศรับสมัคร ผู้เข้าแข่งขันจะต้องนำเสนอโครงการเพื่อแก้โจทย์ด้านความยั่งยืนจากแต่ละองค์กรพันธมิตร ซึ่งจะมีการคัดเลือกโครงงานที่ผ่านเข้ารอบ 60 ทีม (แบ่งออกเป็นทีมละ 2 คน รวมจำนวน 120 คน) ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2567 เพื่อเดินหน้าเข้าสู่กิจกรรมฝึกอบรมและทัศนศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญต่อไป ก่อนที่จะมีการคัดเลือกในรอบรองชนะเลิศให้เหลือ 18 ทีมในเดือนกันยายน พ.ศ. 2567 และรอบตัดสินในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2567 ที่จะถึงนี้ โดยทีมที่ได้คะแนนสูงสุดในแต่ละหัวข้อโจทย์ จะได้รับโอกาสในการเข้าฝึกงานกับองค์กรระดับชั้นนำของประเทศต่อไป

โจทย์ด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนของแต่ละองค์กร ของโครงการ Choiceisyours ในปีนี้ ล้วนมาจาก pain point ของแต่ละองค์ มีดังนี้

กฤษฎา อุตตโมทย์  จากบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า โจทย์ของบริษัทที่ตั้งในปีนี้ เป็นเรื่องการบริหารจัดการขยะกล่องกระดาษจากซัพพลายเออร์ ซึ่งอะไหล่แต่ละชิ้นจะถูกแพ็คมาในกล่องกระดาษขนาดต่าง ๆ ซึ่งหากไม่มีการจัดการที่ถูกวิธี ก็จะทำให้เกิดขยะจากบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษจำนวนมากในแต่ละเดือน โดยโจทย์ที่ผู้เข้าแข่งขันจะต้องนำเสนอแนวคิดแก้ไข คือ ถ้าหากในระยะเวลา 1 เดือน มีปริมาณกล่องกระดาษที่ต้องถูกกำจัดประมาณ 1,000 กิโลกรัม ให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันนำเสนอแนวคิดการจัดการกับขยะกล่องกระดาษดังกล่าวโดยใช้เศรษฐกิจหมุนเวียน โดยแนวคิดที่นำเสนอจะต้องสร้างมูลค่าให้แก่ขยะกล่องกระดาษให้ได้มากกว่า 10 บาท/กิโลกรัม  หรืออยากให้น้องๆช่วยคิดว่าจะทำอย่างไรกับกล่องกระดาษ ทำให้เกิดValue added มากกว่าการชั่งกิโลขาย ซึ่งเป็นโจทย์ท้าทาย

ภากมล รัตตเสรี กรรมการและรองเหรัญญิก มูลนิธิชัยพัฒนา และกลุ่มเซ็นทรัล ที่ได้ร่วมกันสนับสนุนเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนและเศรษฐกิจหมุนเวียนมาก่อนหน้านี้  และผลิตสินค้าจากชุมชนภายใต้แบรนด์ Good goods ที่วางจำหน่าย ในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลดิ์  ได้ร่วมกันตั้งโจทย์ที่เน้นเรื่องการนำเสนอบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จากการประยุกต์ใช้แนวคิดเรื่อง Rethink/Reduce/Reuse/Recycle เพื่อรังสรรค์ขึ้นเป็นบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกใช้ในการบรรจุอาหาร, ต้นไม้ หรืออื่น ๆ ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าต่อยอดสินค้าให้น่าสนใจ และมีความทันสมัย นอกจากนี้ ยังมีโจทย์เรื่องการออกแบบป้ายโครงการเกี่ยวกับพืช ผัก ผลไม้ หรือเป็นบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกที่ใช้กับclean food  ให้มีเอกลักษณ์และสื่อสารเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมและการลดปริมาณขยะในอนาคตได้อย่างชัดเจน  

“งานของมูลนิธิชัยพัฒนา แต่ก่อนคำนึงถึงแต่เรื่องมีกินมีใช้ของชาวบ้าน ช่วยประชาชนยั่งยืนในอาชีพ แต่พอทำๆไป กลายเป็นเรื่องสิ่งแวดล้อม ที่เราต้องคิดว่าทำอย่างไรจะมีโลกให้คนรุ่นต่อไปอยู่อย่างยั่งยืน”  ภากมลกล่าว

โจทย์ของเอสซีจี เมธา ประภาวกุล ผู้อำนวยการสำนักงานการบุคคลกลาง เอสซีจี กล่าวว่า เอสซีจี เป็น“องค์กรแห่งโอกาส” พร้อมเปิดพื้นที่ให้นิสิตนักศึกษาจากสถาบันศึกษาทั่วประเทศมาปล่อยแสง แสดงพลัง ร่วมเสนอความคิดสร้างสรรค์ด้วยนวัตกรรมกรีน ด้วยการนำวัสดุที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว หรือวัสดุเหลือใช้ (Waste) มาใช้ทดแทน “วัตถุดิบจากธรรมชาติ” เพื่อผลิตสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง หรือบรรจุภัณฑ์สินค้า ตามแนวคิด Circular Economy ที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือใช้ที่ไม่มีประโยชน์ เพราะเราเชื่อว่า ไอเดียจากคนรุ่นใหม่จะเป็นพลังสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำให้เป็นไปได้ ตามแนวทาง Passion for Inclusive Green Growth

ธุรกิจในวงการไอที  วสุพล ธารกกาญจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กล่าวว่า  ปัญหาสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีความรุนแรงมากขึ้น จึงเห็นความจำเป็นให้นักศึกษาประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Generative AI หรือ AI ขั้นสูงที่สามารถเรียนรู้เชิงลึกจากชุดข้อมูลที่มีอยู่ และใช้องค์ความรู้เหล่านั้นมาสร้างผลลัพธ์ใหม่ ๆ ที่มนุษย์ต้องการได้ โดยนิสิตนักศึกษาจะต้องนำเทคโนโลยี Generative AI นี้มาประยุกต์ใช้การส่งเสริมสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดความยั่งยืน ในการช่วยลดการใช้ทรัพยากร หรือจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เชิงบวกได้รวดเร็วขึ้น ง่ายดายยิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิผล ทั้งยังช่วยขยายแนวคิดเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียนให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างยิ่งกว่าเดิม

“ทุกพันธมิตร น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้าง carbon footprint ทั้งการใช้คลาวด์ และไอทีต่างๆจะต้องมีการใช้ไฟฟ้า ถึงแม้ว่าเราจะประกาศจะ Net Zero ในปี 2050 ซึ่งเป็นความท้าทายมาก แต่ดูเหมือนว่า จะทำกันไม่ทัน เพราะปัญหามันมาเร็ว ดังนั้น เราจึงต้องเร่งรักษาไม่ให้อุณหภูมิโลกสูงไปกว่านี้ โจทย์ของไมโครซอฟต์ จึงมองว่าเทคโนโลยี Generative AI นี้ ที่อยู่ในภาคธุรกิจต่างๆ แล้ว น้องๆมาช่วยกันคิดว่าเราจะประยุกต์ Generative AI อย่างไร เพื่อช่วยลดการเร่งตัวโลกร้อน  และหากน้องๆมีไอเดียดี ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้มีการต่อยอดไปถึงระดับโลกเลย “วสุพล กล่าว

วงการอสังหาริมทรัพย์ ศิระ อุดล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด กล่าวว่า  การก่อสร้างอาคารของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สามารถสร้างขยะก่อสร้างจำนวนมหาศาลที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทางโนเบิลจึงมอบโจทย์เรื่องการนำเสนอนวัตกรรมวิธีการจัดการขยะก่อสร้างให้กับโครงการก่อสร้างย่านอารีย์และสุขุมวิท เพื่อสร้างประโยชน์ต่อชุมชน ทั้งในแง่ความเป็นอยู่ สุขภาพ หรือการสร้างรายได้ และเพื่อพัฒนาการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างยั่งยืนให้กับองค์กร

“พวกเศษเหล็ก หรือวัสดุต่างๆ ซึ่งเราเองพยายามนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดอยู่แล้ว  แต่ก็ยังมีส่วนที่เหลือเป็นขยะก่อสร้าง เช่น ไม้แบบ งานท่อ ยิบซั่ม ที่ยัง Zero waste ไม่ได้ แนวคิดการจัดการขยะพวกนี้ และการupcycling เพื่อนำของเหลือใช้พวกนี้มาสร้างอะไรใหม่ๆ เป็นโจทย์ของเราที่จะท้าทายน้องๆ “ศิระกล่าว

บางจาก คอร์ปอเรชัน ซึ่งดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์รังสรรค์โลกยั่งยืนด้วยนวัตกรรมสีเขียว กลอยตา ณ ถลาง รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชัน จำกัด มอบโจทย์เรื่องการเสริมสร้างชุมชนที่ยั่งยืนผ่านธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต ด้วยการรวบรวมน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วจากภาคครัวเรือนหรือชุมชน เพื่อผลิตเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel: SAF) ตามโครงการ “ทอดไม่ทิ้ง” ของบางจากฯ ซึ่งรณรงค์การเก็บรวบรวมน้ำมันปรุงอาหารที่ใช้แล้ว มาผลิต SAF เพื่อส่งเสริมทั้งเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG Economy) รวมถึงการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน

“น้ำมันเครื่องบินยั่งยืน จะตอบโจทย์ Net Zero ในปี 2050 เพราะเครื่องบินใช้แบตเตอร์รี่ อย่างรถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้ เราจึงต้องการน้ำมันพืชที่ใช้แล้ว  1ล้านลิตรต่อวันเพื่อผลิต SAF แต่ขณะนี้ ยังทำได้ไม่ถึง จึงเป็นโจทย์ที่จะให้น้องๆช่วยคิดทำโมเดล ทำอย่างไรถึงจะรวบรวมน้ำมันตามนโยบาย”มันทอดไม่ทิ้ง” ได้มากกว่านี้ หรือได้ตามเป้าของเรา  หรือจะต่อยอดโครงการให้กว้างขวางกว่านี้ ซึ่งจะทำให้เกิดความยั่งยืนกับทุกภาคส่วน “กลอยตา กล่าว

ในการเชิญชวนให้นิสิต นักศึกษา มาเข้าร่วมโครงการ  สุพัตรา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายองค์กรสัมพันธ์และภาพลักษณ์ กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า น้องๆทีมที่ได้รับการคัดเลือก   ให้มาร่วมฝึกงานร่วมกับมูลนิธิชัยพัฒนาและเซ็นทรัล ซึ่งจะไม่ได้ความรู้เรื่องการออกแบบเท่านั้น จะได้รู้เรื่องโมเดิร์นเทรด ที่ไม่ได้เป็นความรู้ในห้องเรียน ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่หลากหลาย นับเป็นการต่อยอดให้กับตัวน้องๆเอง

ส่วนกฤษฎา อุตตโมทย์  จากบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย  ผู้ริเริ่มโครงการ กล่าวเชิญชวนน้องๆให้เข้าร่วมโครงการChoiceisyours โดยมีรางวัลคือการได้ฝึกงานกับองค์กรชั้นนำว่า น้องๆที่มีไอเดยดี จะได้ฝึกงานกับเรา ได้เรียนรู้ในการพัฒนาตนเอง และเรียนรู้เรื่องการสร้างความยั่งยืน เพราะนับวันสังคมมีแต่แข่งขัน สำหรับน้องๆ ทำอย่างไร ถึงจะดึงดูดนายจ้าง ในอนาคต เราจึงต้องเตรียมการ ให้เขาเห็น talent ของเรา ซึ่งประสบการณ์การฝึกงานจะทำให้น้องๆได้พัฒนาตัวเอง

โครงการการแข่งขันแนวคิดเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียนและการพัฒนาอย่างยั่งยืน “CHOICEISYOURS“ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและวิกฤติของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในปัจจุบัน ผ่านมุมมองของนิสิตนักศึกษาซึ่งเป็นตัวแทนของคนร่นใหม่ในประเทศไทย เพื่อผลักดันให้เกิดการทำงานประสานกันระหว่างเยาวชนผู้เข้าร่วมประกวด ชุมชน รวมทั้งองค์กรต่าง ๆ ในประเทศ และร่วมขับเคลื่อนการใช้ทรัพยากร ธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในอนาคต ถือเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของทั้ง

นิสิตและนักศึกษาที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถดูรายละเอียดและสมัครได้ที่ https://www.bmw.co.th/th/discover/choice-is-yours.html พร้อมส่งวิดีโอแนะนำทีมและนำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับโครงการ พร้อมแผนการทดลองโดยสังเขป ระหว่างวันที่ 6 มิถุนายน – 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 และสามารถติดตามข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับการแข่งขันได้ที่ CHOICEISYOURS Facebook Fanpage