เปิดสำรับแห่งการเดินทาง'บ้านสุริยาศัย'

จากบ้านพักของตระกูลบุนนาคสู่ร้านอาหาร’บ้านสุริยาศัย’ ซึ่งรวบรวมสำรับอาหารไทยหลากหลายสายสกุลมาไว้ในที่เดียวกัน ในโอกาสบ้านโบราณทรงคุณค่าเดินทางผ่านกาลเวลามากว่า 100 ปี บ้านสุริยาศัย ร่วมกับ SARRANแบรนด์จิวเวลลีระดับโลกที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทยแท้ มีผลงานทำให้กับศิลปินระดับโลกอย่าง ลิซ่า BLACKPINK, Alicia Keys  สร้างการเดินทางบทใหม่ของบ้านเก่าหลังนี้ด้วยแคมเปญ “ The Journey”  ที่เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ผ่านอาหารไทยทุกคำและเครื่องประดับสุดหรูที่ชุบชีวิตดอกบุนนาคกลับมาเบ่งบานอีกครั้งผ่านคอลเลคชั่น ”เจริญ:บุนนาค”

บอกเล่าเรื่องราวแคมเปญ The Journey โดย ไพศาล อ่าวสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิสโตร เอเชีย จำกัด บริษัทในกลุ่ม บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไฮไลท์แคมเปญ  คือ ดอกบุนนาค เป็นที่มาของบ้านสุริยาศัยของตระกูลบุนนาค ดังนั้น ดอกบุนนาคเบ่งบานอีกครั้งในรูปแบบของ Jewelry ผสานกับการเล่าเรื่องวิวัฒนาการอาหารตั้งแต่รัชกาลที่ 5 จนถึงปัจจุบัน  มี 3 เรื่องที่ผ่านการเดินทางมากว่า 100 ปี ที่บรรจงรังสรรค์เป็นอาหารและเครื่องประดับ คือ  The Story of Charon แรงบันดาลใจมาจากคำว่า “เจริญ“ ที่ ร.5 ทรงสั่งผลิตภาชนะและพระราชทานให้กับข้าราชบริพารและข้าราชการเพื่อนำความเจริญมาสู่ตนและครอบครัว และยังใช้เป็นของกำนันสำหรับการทูตในสมัยนั้นอีกด้วย  The Legacy of Baan-Nak แรงบันดาลใจจากตระกูลบุนนาคที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย และ The Century of Baan Suriyasai เฉลิมฉลองบ้านสุริยา อาคารอนุรักษ์ดีเด่น และบ้านแห่งการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทย วิถีชีวิตความอยู่ของคนไทย ผ่านตัวบ้าน และอาหารไทยโบราณ

ส่วนสำรับอาหารชาววัง The Journey  ไพศาล กล่าวว่า สื่อถึงความเจริญก้าวหน้า การพัฒนาประเทศ วัฒนธรรม และความโดดเด่นของแต่ละยุคสมัย ตั้งแต่ยุคสมัยรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 10 เปิดต่อมรับรสด้วยความเรียบง่าย”ดั้งเดิม” อย่างเมี่ยงผลไม้แบบโบราณตัวไส้ทำจากมะพร้าวเคี่ยวแล้วปรุงให้มีรสหวานนำเค็ม เสิร์ฟพร้อมเงาะและสละ ทานพร้อมมะม่วงเปรี้ยว ขิงอ่อน และยอดผักชี เสริมรสชาติของจานนี้ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น

ต่อด้วยเครื่องว่าง “3 กษัตริย์”  พาย้อนไปสมัย ร.5 เสิร์ฟในคอนเซ็ป เงิน ทอง นาค รวมเอาวัฒนธรรมต่างชาติมาผสมผสาน สอดแทรกวัตถุดิบไทยๆ ในจานมีขนมครกหน้าปูกะทิ-ไข่ปลาแรมฟิชดำ สะเต๊ะลือตำรับวังสวนสุนันทา รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม หอมเครื่องเทศ และทาร์ตกุ้งทอดมัน ประยุกต์จากกุ้งทอดมันตำรับวังบางขุนพรหม

เมนูต่อมายำทวาย ตำรับอาหารชาววังสายพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ ในรัชกาลที่ 5 เป็นเมนูที่นิยมปรุงรับประทานในวันสำคัญเท่านั้น จานนี้ประกอบด้วยผัก 5 ชนิด เสิร์ฟพร้อมน้ำยารสชาติกลมกล่อมหวานอมเปรี้ยวกำลังดี หอมกลิ่นน้ำพริกเผาและเครื่องแกง ความหลากสีของวัตุดิบเสมือนกับกองพลเสือป่าสมัยรัชกาลที่ 6

ซุปแบบร่วมสมัย ต้มข่าหอยเชลล์กับหมี่ขาวทอดกรอบ จานนี้เป็นตัวแทนยุคสมัยการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ร. 7 โดดเด่นอาหารประเภทเส้น ด้วยเป็นยุคข้าวสารมีราคาสูง รัฐบาลรณรงค์ให้ประชาชนบริโภคอาหารประเภทเส้นทดแทนรสชาตินวลของของตัวซุปเข้ากันได้ดีกับเส้นหมี่ทอดกรอบ

อาหารหลักธีม“พอเพียง” สำรับนี้เป็นการรวบรวมยุคสมัยรัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 เข้าด้วยกัน สองยุคแห่งความเรียบง่าย ไม่หวือหวา แต่ก็ไม่หยุดอยู่กับที่ เลือกใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่ายนำมาปรุงให้ออกมามีรสไทยแท้ กุ้งแม่น้ำย่างน้ำปลาหวานรสชาติเข้มข้นปรุงจากน้ำตาลโตนดและน้ำปลาชั้นดีเคี่ยวจนมีสีใสและเหนียวกำลังดี แกงชักส้มปลาทูย่าง หาทานได้ยาก คล้ายแกงส้มแต่แตกต่างปรุงรส โดยใช้มะกรูด รสชาติจัดจ้านกระตุ้นความอยากอาหารได้เป็นอย่างดี น้ำพริกหนำเลี๊ยบหมูสับ พร้อมกับเครื่องแนมอย่างปลาช่อนแดดเดียวทอดและผักสด เสิร์ฟพร้อมข้าวหอมมะลิ  ทั้ง 4 คอร์สนี้ พีระโรจน์ ศิริปัญจนะ หรือ เชฟใหม่ เชฟประจำบ้านสุริยาศัย ปรุงอย่างพิถีพิถัน

ส่วนของหวาน “เจริญ” เปรียบกับยุคปัจจุบันที่มีความเจริญทางเทคโนโลยี แต่ยังคงวัฒนธรรมและความเป็นไทยสืบเนื่องอดีตจนถึงปัจจุบัน ดีไซน์เมนูที่แปลกใหม่ โดย เชฟอิน- ณรงค์ฤทธิ์ แซ่ขอ เชฟรุ่นใหม่  เสนอเจลลี่น้ำผึ้งและส้มซ่า ปรุงรสชาติด้วยน้ำผึ้งเล็กน้อย  ไอศกรีมมะพร้าวน้ำหอมกับครัมเบิ้ล พร้อมขนมทองเอกลวดลายดอกพุดตาล รสสัมผัสนุ่มนวล

แคมเปญนี้ เชฟอิน-ณรงค์ฤทธิ์ แซ่ขอ  เชฟรุ่นใหม่ชื่อดังร่วมดีไซน์ขนมหวาน  เชฟอิน เผยที่มาว่า มาจากแบรนด์ “บ้านสุริยาศัย” และ “SARRAN”  อยากได้เมนูร่วมสมัย แต่ปลายทางมีความเรียบง่าย หยิบดอกพุดตาล ดอกไม้ที่สื่อความเจริญ มั่นคง  ทั้งนี้ เลือกใช้เป็นทองเอกโบราณ  แกะสลักเป็นดอกก่อนแล้วขึ้นรูปกับซิลิโคน แล้วทำเป็นพิมพ์ดอกพุดตาน เสิร์ฟพร้อมคุกกี้ผงทอง พร้อมไอศกรีมกะทิทรงเครื่อง เสิร์ฟพร้อมมะพร้าวอ่อนจากบ้านแพ้ว มีครัมเบิลวานิลลา และใส่กาหยู จ.ระนอง บ้านเกิดของตนเอง เม็ดสีขาวเล็กๆ เป็นไวท์ช็อกคริสปี้ช่วยให้จานนี้สนุกขึ้น ส่วนเจลลี่ส้มซ่าแนะนำเป็นคำสุดท้ายตัดเลี่ยน

ด้าน ศรัณญ อยู่คงดี นักออกแบบเจ้าของแบรนด์ SARRAN  กล่าวว่า  ยินดีได้ร่วมทำแคมเปญกับ“บ้านสุริยาศัย”  SARRAN เป็น Jewelry แบรนด์ระดับโลกที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทย เมื่อมาผสานกับเรื่องราวความเป็นไทยแท้ของตำรับเมนูอาหารชาววังบ้านสุริยาศัยจะสร้างสีสันและเสน่ห์แห่งความงดงามในความเป็นเครื่องประดับSARRAN คอลเลกชันนี้จะมีรูปแบบเข็มกลัดทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดยมีขนาดโอเวอร์ไซส์ แรงบันดาลใจจากบ้านหลังนี้ชอบที่มีความเรียลลิสติก ทำให้เราเคารพกับกาลเวลาในอดีต บ้านโดดเด่นสถาปัตยกรรมและตกแต่งดอกไม้ที่เป็นเชิงชายจึงนำความชาญฉลาดของผู้หญิงในอดีตที่สร้างดอกไม้สวยๆ มาใช้กับคอลเลกชันนี้

​​“ มีหลายคนถามว่า ชอบคอลแลปส์กับแบรนด์ไหนบ้าง ผมบอกเลยว่า ผมคอลแลปส์กับแบรนด์ที่จริงจังและเรียล คือการเล่าเรื่องแบบจริงใจ จึงเลือกทำคอลเลกชั่นกับบ้านสุริยาศัย  ทุกครั้งที่พูดถึงบ้านสุริยาศัยมักจะเอ่ยถึงบ้านที่เริ่มต้นจากรัชกาลที่ 5 จนถึงปัจจุบัน  บ้านหลังนี้มีต้นบุนนาคอยู่คู่บ้าน แต่ปัจจุบันดอกบุนนาคไม่บานแล้ว เรารังสรรค์ให้ดอกไม้กลับมาเบ่งบานอีกครั้งด้วยคอลเลกชันของเราดีกว่า เครื่องประดับในคอลเลคชั่นจะอบร่ำแบบโบราณ เมื่อซื้อไปจะมีกลิ่นดอกบุนนาคในยุคปัจจุบัน พร้อมภาพวิดีโอการอบร่ำแบบโบราณด้วย ” ศรัณญ กล่าว

สำหรับสำรับ“The Journey” แต่ละเมนูซ่อนเร้นประวัติศาสตร์ แต่ชัดเจนในรสชาติความอร่อยที่ผสมผสานไทยและตะวันตกอย่างลงตัว อิ่มเอมกับเซ็ตเมนูอาหาร“บ้านสุริยาศัย” ยังให้สิทธิ์ซื้อเครื่องประดับ Limited edition สุดหรูของ SARRAN ในราคาพิเศษได้ที่นี่ที่เดี่ยว ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงวันที่ 31 สิงหาคมนี้  บ้านสุริยาศัยเปิดบริการทุกวัน 174 ถนนสุรวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ