อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ หรือเมืองเก่าศรีเทพ กินพื้นที่ราว ราว 2,900 ไร่ ประกอบด้วยชุมชนโบราณ มีลักษณะเป็นเมืองซ้อนเมืองขนาดใหญ่ มีความโดดเด่นทั้งด้านศิลปกรรม สถาปัตยกรรม ศาสนาและวัฒนธรรม สะท้อนถึงการเป็นศูนย์กลางทางการแลกเปลี่ยนสินค้าที่สามารถติดต่อกับภูมิภาคอื่น ๆ ได้สะดวก และความเจริญรุ่งเรืองต่อเนื่องกันถึง 3 ยุค ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย ยุคทวารวดี จนถึงยุคขอมเรืองอำนาจ โดยนักวิชาการบางท่าน สันนิษฐานว่าเมืองศรีเทพเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรม ทวารวดี หรือเมืองศรีเทพนั้นคือ ทวารวดี ไม่ใช่เมืองนครปฐมโบราณ หรือเมืองอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรีตามที่เชื่อกันมา โดยเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566 องค์การยูเนสโก ได้ประกาศให้อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพเป็นมรดกโลก
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองของอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ในฐานะมรดกโลก ทางกรมศิลปากรจึงได้จัดงาน Light & Sound การแสดงมหัศจรรย์แสงแห่งศรีเทพ (Si Thep World Heritage Illumination 2024) ที่มีทั้งการแสดง แสงสีเสียง และการแสดงโขนซึ่งจบไปเมื่อช่วงวันที่ 3-5 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยมีผู้เข้าชมมากกว่า 1 ล้านคน เชื่อว่าผู้เข้าร่วมงาน ยังคงตราตรึงในความอลังการตระการตาของงานไม่มากก็น้อย
จึงขอพาทุกคนย้อนไปดูบรรยากาศที่แสนจะประทับใจ กับการแสดงที่ไม่ได้จัดตรงอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพโดยตรง แต่จัด ณ บริเวณเขาคลังนอก ซึ่งอยู่นอกพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพห่างไปราวๆ 2 กิโลเมตร แต่เขาคลังนอกนี้ มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ไม่ยิ่งหย่อน เพราะเป็นศาสนสถานขนาดใหญ่ในสมัยทวารวดี และสันนิษฐานว่าตรงนี้น่าจะเป็นมหาสถูป เพราะมีฐานขนาดใหญ่ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ก่อด้วยศิลาแลง ที่ปัจจุบันยังคงสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ ประดับตกแต่งฐานด้วยอาคารจำลองขนาดต่างๆอยู่โดยรอบ ภายในทึบตัน มีบันไดทางขึ้นทั้ง 4 ด้าน และยังมีสถูปก่อด้วยอิฐตั้งอยู่ด้านบนล้อมรอบด้วยกำแพงแก้วและซุ้มประตู สันนิษฐานว่าน่าจะมีอายุร่วมสมัยกับโบราณสถานเขาคลังในที่ตั้งอยู่ภายในเมือง คือ ราวพุทธศตวรรษที่ 13-14 จึงถือได้ว่าเขาคลังนอกเป็นหนึ่งในศาสนสถาน ขนาดใหญ่และสมบูรณ์มากที่สุดในบรรดาศาสนสถานร่วมสมัยเดียวกัน
พื้นที่โดยรอบบริเวณเขาคลังนอกมีความกว้างสามารถจัดกิจกรรมต่างๆ ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อตัวโบราณสถาน หากมาในช่วงเวลาปกติ ที่ไม่มีการจัดงานต่างๆนอกจากได้ชื่นชมความงดงามของเขาคลังนอกแล้ว ข้ามไปอีกฝากถนนอยู่ห่างไม่ไกลสามารถเดินมาช้อปปิ้งหาเมนูอร่อยๆได้ที่” ตลาดยักษ์แคระ” ตลาดขายของที่ชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงจะนำอาหารและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นมาวางขาย มีซุ้มให้นั่งทานมีการตกแต่งน่ารักๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ทานและทิ้งขยะต่างๆ ให้เป็นที่เป็นทางช่วยรักษาความสะอาดในบริเวณเขาคลังนอกอีกด้วย โดยตลาดจะเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 08.00-17.00 น.
กลับมาที่งานมหัศจรรย์แสงแห่งศรีเทพที่จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 3-5 พฤษภาคม ที่ผ่านมา งานนี้บอกเลยว่าทางกระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร จัดอย่างยิ่งใหญ่สมฐานะเมืองมรดกโลก บรรยากาศภายในงานผู้คนเริ่มถยอยเดินทางมากันอย่างเนื่องแน่นตั้งแต่ช่วงเย็น ก่อนที่จะมีการแสดงโชว์ต่างๆ บริเวณโดยรอบเขาคลังนอกก็มีการจัดบูธอาหารและขายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ซึ่งจะแยกออกมาจากตลาดยักษ์แคระ เราสะดุดตากับบูธของวิสาหกิจชุมชนงานสานงานฝีมือ อ.ศรีเทพ ที่ทางสิทธิชัย พูดดี หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ได้นำแพทเทิร์นลายคนแคระ ลายเขาคลังนอก และลายกนกผักกูด ให้ชุมชนได้มาต่อยอดเป็นลวดลายบนตระกร้าสานโดยใช้หวายเทียม มีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เวลาถือก็จะเห็นลายทั้ง 3 ปรากฎอยู่บนตระกร้าสวยงาม แปลกตามากถัดมาอีกบูธข้างๆ กลุ่มทอผ้าบ้านวังขอน อ.ศรีเทพ ก็ได้นำลวดลายจากทางอุทยานศรีเทพ เช่นเดียวกับลายตระกร้าสาน แต่ในส่วนของการทอผ้าจะต้องมีการแกะลายและนำมามัดเป็นลายโดยนำแต่ละลายมาร้อยเรียงอยู่บนผืนผ้า เพิ่มอัตลักษณ์ให้อ.ศรีเทพที่มีลายผ้าอันงดงาม เดินมาชมบูธกิจกรรมของทางอุทยานฯ ก็มีโซนให้ทำงานศิลปะระบายศรีลงบนกระเป๋าผ้า โดยทำกราฟฟิคลวดลายต่างๆ ที่ปรากฎอยู่บนปรางค์ศรีเทพ และโบราณสถานให้ผู้ที่มาร่วมงานได้สะบัดฝีแปรงออกแบบสีสันให้กระเป๋า
มาเยี่ยมชมนิทรรศการ 120 ปี การค้นพบเมืองโบราณศรีเทพ เมืองมรดกโลก ที่จัดขึ้นเล็กๆ แต่ครอบคลุมด้วยเนื้อหาที่ทำให้เราเข้าใจถึงความเป็นมา การค้นพบ การสำรวจ ขุดค้น ขุดแต่ง และการศึกษาเมืองโบราณศรีเทพในช่วง 120 ปีที่ผ่านมา เดินชมทำกิจกรรมต่างๆ ยังมีบูธให้เช่าชุดผู้ที่มาน่วมงานจึงได้แปลงโฉมมาในชุดไทยโบราณ หรือชุดไทยแบบร่วมสมัยเดินเที่ยวงานถ่ายรูปกันเพลิดเพลิน ถึงเวลามาชมการแสดงไฮไลท์ของงานมหัศจรรย์แสงแห่งศรีเทพกันแล้ว คือ Light & Sound ที่ได้จัดขึ้นอยู่ทางด้านหลักของเขาคลังนอก การแสดงชุดมหัศจรรย์แสงแห่งศรีเทพ ทางดร.สุเมธ ยอดแก้ว ผู้ช่วยคณบดี และอาจารย์ประจำหลักสูตรแอนนิเมชันและวิชวลเอฟเฟกต์ และผศ.ดร.บุรินทร์ ธราวิจิตรกุล คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ร่วมออกแบบการแสดงชุดนี้
จากการพูดคุยคร่าวๆ ถึงแนวคิดการออกแบบ 2 อาจารย์แห่งม.เชียงใหม่ บอกว่า ต้องการที่จะปลุกจิตวิญญาณของพื้นที่ให้มีสีสัน โดยใช้เทคนิคการฉาย Projection Mapping การฉายแสงเลเซอร์ และBeam Light เพื่อร้อยเรียงเรื่องราวเมืองโบราณศรีเทพตั้งแต่อดีตก่อนเจอเมืองโบราณแห่งนี้ ผังเมือง ที่จะฉาย Mapping ลงบนตัวโบราณสถานเขาคลังนอก และการสร้างสรรค์เหนือจินตนาการโดยใช้เทคนิคการยิงเลเซอร์สร้างส่วนที่หายไปของเขาคลังนอกให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง
เมื่อถึงเวลาแสงไฟรอบตัวก็พลันดับลง มีความสว่างเพียงบริเวณผนังกำแพงของเขาคลังนอก จากก้อนอิฐไร้สีสันก็กลายเป็นภาพเคลื่อนไหวเล่าเรื่องราวของศรีเทพสุดอลังการน่าตื่นเต้น เสียงเพลงประกอบปลุกเร้าให้เราจ้องมองทุกภาพที่เคลื่อนไหวอยากใจจดจ่อ จนกระทั่งถึงช่วงท้ายที่เป็นไฮไลท์แสงเลเซอร์สีฟ้าค่อยๆประกอบร่างเป็นเงาองค์เจดีย์ที่อยู่เหนือฐานเขาคลังนอกอย่างงดงาม เป็นการสร้างสรรค์ที่สุดยอดและประทับใจอย่างยิ่ง
จบจากการชม Light & Sound ทางฝั่งด้านหน้าก็จะเป็นการแสดงโดยสำนักการสังคีต เปิดฉากด้วยการร่ายรำระบำศรีเทพ ที่สร้างขึ้นมาใหม่ตากจินตนาการลักษณะทางสถาปัตยกรรมโบราณวัตถุ ประติมากรรมปูนปั้น สอดคล้องกับทำนองเพลงคู่ทวารวดี ที่อ่อนช้อยงดงาม จากนั้นก็เป็นคิวของการแสดงโขน ตอนลักนางสีดา ยกรบ สุดตระการตา บริเวณด้านหน้าเวทีเต็มไปด้วยผู้คนที่ชมโขนอย่างหนาแน่น ท่ามกลางความงดงามของโบราณสถานยามค่ำคืนแสงไฟที่สาดส่องไปยังตัวเขาคลังนอกยิ่งสร้างให้ค่ำคืนนี้มีแต่ความสวยงามและน่าประทับใจ
การได้มาเยือนเมืองโบราณศรีเทพ หรือเมืองโบราณอื่นที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย ไม่เพียงแค่ความสวยงามจากภายนอก แต่เรายังได้เรียนรู้ร่องรอยของประวัติศาสตร์การก่อสร้างเมือง ความเป็นอยู่และภูมิปัญญาของเหล่าบรรพบุรุษในอดีต ซึ่งการจัดกิจกรรมต่างๆ ก็ยิ่งทำให้เมืองโบราณมีชีวิตชีวาน่ามาเยือนมายิ่งขึ้น ติดตามกิจกรรมต่างๆ เพิ่มเติมได้ทาง www.sithep.org
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไทยติด TOP 8 ประเทศร่ำรวยมรดกทางวัฒนธรรมมากที่สุดในโลก
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ผลสำเร็จการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ไทย ในรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มุ่งมั่นยกระดับศักยภาพของคนไทยและทุนทาง
ยูเนสโก ขึ้นทะเบียน แกนกลางปักกิ่ง (Central Axis) เป็นมรดกโลก
ที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประกาศขึ้นทะเบียนแกนกลางปักกิ่ง (Central Axis) เป็นแหล่งมรดกโลกแห่งใหม่ โดยแกนกลางปักกิ่งมีความยาว 7.8 กิโลเมตร
ฉลอง 'ภูพระบาท' เป็นมรดกโลก รัฐบาลเปิดให้ประชาชนเข้าชมฟรี
นายกฯ เชิญชวนทุกคนร่วมแสดงความยินดี และเฉลิมฉลองที่ภูพระบาท จ. อุดรธานีได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกแห่งใหม่ โดยรัฐบาลเปิดให้เข้าชมภูพระบาทฟรี ตั้งแต่วันนี้ 28 กรกฎาคม – 12 สิงหาคม 2567 พร้อมเดินหน้าผลักดันให้เกิดแหล่งมรดกโลกแห่งใหม่อย่างต่อเนื่อง
ยก ‘ภูพระบาท’ เป็นมรดกโลก
คนไทยได้เฮ! อีก ยูเนสโกขึ้นทะเบียน "ภูพระบาท" จ.อุดรธานี
ยูเนสโกขึ้นทะเบียน 'ภูพระบาท' เป็นมรดกโลก
น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) เป็นประธาน การแถลงข่าวการประกาศขึ้นทะเบียนอุทยานประวัติศาสตร์