คัมภีร์ใบลานที่วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม ประดิษฐานอยู่ที่หอพระไตร คัมภีร์โบราณนี้มีความสำคัญเทียบเท่ากับวัด ซึ่งเป็นวัดประจำพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เป็นคัมภีร์ใบลานที่เคยประดิษฐานอยู่ ณ พระที่นั่งอนันตสมาคมตั้งแต่สมัย ร. 4 ถือว่าเป็นคัมภีร์ใบลานฉบับหลวงประจำรัชกาล จนกระทั่งในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดฯ ให้อัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดราชประดิษฐ์เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน จนได้รับการยกย่องว่าเป็น “คัมภีร์ใบลาน 2 รัชกาล”
ด้วยเหตุนี้ กรมศิลปากร (ศก.) โดยสำนักหอสมุดแห่งชาติ ดำเนินความร่วมมือกับวัดราชประดิษฐ์ เพื่อเผยแพร่การอนุรักษ์จัดเก็บคัมภีร์ใบลานวัดราชประดิษฐฯ เพื่อทำการสำรวจ ลงทะเบียน จัดเก็บเอกสารโบราณ และซ่อมแซมในส่วนที่ชำรุดให้เต็มใบ ซึ่งใช้ระยะเวลา 2 เดือนในการทำงานอนุรักษ์ ปัจจุบันโครงการแล้วเสร็จ ทาง ศก. ส่งมอบคัมภีร์ใบลานจำนวน 894 ผูก ให้แก่วัดราชประดิษฐฯ ดูแลอนุรักษ์ต่อไป
คัมภีร์ใบลานส่วนใหญ่เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับพระไตรปิฎกที่มีความสำคัญ ได้แก่ วรด.1-3 (วัดราชประดิษฐฯ เลขที่ 1-3) เรื่อง อนาคตวังสะ สมัยรัชกาลที่ 4 อายุประมาณ 170 ปี, วรด.14,17,28-32,83,98 (วัดราชประดิษฐฯ เลขที่ 14,17,28-32,83,98) เรื่อง วังสมาลินี, อรรถกถาสังยุตตนิกาย, ฎีกามหาวงศ์, โยชนาอภิธัมมัตถสังคหะและปุคคลบัญญัติ ฉบับหลวงสร้างซ่อม รัชกาลที่ 5 อายุ 139 ปี
พนมบุตร จันทรโชติ อธิบดี ศก. กล่าวว่า สำนักหอสมุดแห่งชาติได้ดำเนินโครงการความร่วมมือกับวัดราชประดิษฐฯ อนุรักษ์จัดเก็บคัมภีร์ใบลานตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค.-21 มี.ค. โดยมีคณะสงฆ์และประชาชนร่วมเป็นเครือข่าย อส.มศ. เพิ่มขึ้น จำนวน 7 รูป/คน ประกอบด้วยการอนุรักษ์จัดเก็บ ซ่อมแซมส่วนที่ชำรุดและจัดทำทะเบียนคัมภีร์ใบลาน จัดระบบคัมภีร์ใบลานเพื่อให้บริการตามหลักวิชาการ ออกเลขทะเบียนบัญชีรายชื่อคัมภีร์ใบลาน ตั้งเป้าหมายให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้พระไตรปิฎกสมัยรัตนโกสินทร์กลางกรุงที่สำคัญ เนื่องจากเป็นคัมภีร์ 2 รัชกาล มุ่งเน้นการอนุรักษ์ สืบสานมรดกภูมิปัญญาของบรรพชนให้มีอายุยืนยาว พร้อมบูรณาการเครือข่ายให้มีส่วนร่วมและสร้างการรับรู้สู่ประชาชน
วัฒนา พึ่งชื่น นักภาษาโบราณชำนาญการพิเศษ กลุ่มหนังสือตัวเขียนและจารึก สำนักหอสมุดแห่งชาติ กล่าวว่า จากการสำรวจเพื่อจัดเก็บคัมภีร์ใบลานของวัดราชประดิษฐฯ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่สนพระทัยและใส่พระทัยในพระพุทธศาสนา ด้านหน้าคัมภีร์ปรากฎพระราชลัญจกรประจำรัชกาลของทั้ง 2 พระองค์ คือรัชกาลที่ 4 อยู่ทางด้านซ้าย และรัชกาลที่ 5 อยู่ทางด้านขวา นอกจากนัยยะของการย้ายจากพระที่นั่งอนันตสมาคม มาประดิษฐานยังวัดราชประดิษฐฯ แล้ว อีกนัยยะคัมภีร์ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 แต่เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนแปลง ทำให้คัมภีร์ใบลานบางผูก เกิดชำรุดเสียหายไป ในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงสร้างคัมภีร์ผูกที่หายไปขึ้นมาใหม่ อาจจะเรียกได้ว่า เป็นการซ่อมสร้าง เพื่อให้คัมภีร์เต็มทุกผูก และได้ประทับตราพระราชลัญจกรลงบนคัมภีร์ กล่าวได้ว่าเป็นวัดแห่งแรกที่พบคัมภีร์ใบลานในลักษณะนี้
“ การสำรวจคัมภีร์ใบลานส่วนใหญ่เนื้อหาเกี่ยวกับพระไตรปิฎก พบว่าคัมภีร์ที่ได้รับความเสียหายถึง 80% เนื่องจากสภาพอากาศและสัตว์ โดยสามารถนำมาจัดเก็บอนุรักษ์ได้เพียง 20% ตามหลักวิชาการใช้ไม้ประกับประกบด้านข้างของคัมภีร์ เพื่อเป็นการรักษาทรงไม่ให้โค้งงอ ใช้ผ้าห่อคลุมเพื่อให้ระบายอากาศได้ดียิ่งขึ้น และออกเลขทะเบียนบัญชีรายชื่อคัมภีร์ใบลาน จำนวน 67 มัด มีเลขทะเบียน 144 เลขที่ รวมทั้งสิ้นจำนวน 894 ผูก เพื่อการอนุรักษ์และซ่อมแซมให้เต็มใบในลำดับต่อไป ทั้งนี้ คัมภีร์ใบลานที่วัดราชประดิษฐฯ ได้รับการถอดแปลเนื้อหาเป็นภาษาไทยแล้วจึงไม่กังวลในส่วนที่หายไป ทั้งนี้ทางวัดกำลังซ่อมแซมหอพระไตร สร้างตู้กระจกบรรจุคัมภีร์ เพื่อให้ง่ายต่อการดูแลรักษาและพัฒนาเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ประชาชนเข้ามาศึกษาเรียนรู้ด้วย ” วัฒนา กล่าว
นอกจากนี้ ที่วัดราชประดิษฐฯ ยังพบคัมภีร์ใบลานที่คุณค่า รัชกาลที่ 5 ทรงสร้างฉบับพิเศษ ตัวคัมภีร์ประดับด้วยลายรดน้ำและลงรักปิดทองงดงาม มีจำนวน 10 ผูก เนื้อหาเกี่ยวกับมิลินทปัญหา เรื่องราวของการถกเถียงเชิงปรัชญาของพระนาคเสนกับพระยามิลินท์ แต่เนื่องจากมีความชำรุดต้องมีการดำเนินการซ่อมแซมลำดับต่อไป อีกทั้งมีกล่องพระธรรมบรรจุคัมภีร์ใบลานทำจากไม้ สร้างสมัยร. 5 จำนวน 87 กล่อง ทำด้วยไม้เป็นมีรูปทรงคล้ายกับหนังสือ โดยใช้ฝีมือด้านปราณีตศิลป์ลักษณะของการทำด้วยศิลปะงานคร่ำไทย ฝังทองเหลืองลงในเนื้อไม้ บริเวณสันกล่องขึ้นรูปเป็นเส้นอักษรจารึกชื่อตามหมวดหมู่คัมภีร์ใบลาน ระบุปี จ.ศ.1247(พ.ศ.2428) สันนิษฐานว่า มีอายุอย่างน้อย 139 ปี ซึ่งสำนักช่างสิบหมู่จะดำเนินการอนุรักษ์ซ่อมแซมต่อไป
ถือเป็นความร่วมมือครั้งประวัติศาสตรในการอนุรักษ์คัมภีร์ใบลานฉบับหลวง 2 รัชกาล จนสำเร็จ สืบสานมรดกทรงคุณค่าของชาติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พระเจ้าตอง' กลับพะเยา หลังโดนขโมย 36 ปีก่อน ค้นพบที่สวิต กรมศิลป์พิสูจน์แล้วของจริง
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้ประสานงานและติดตามนำ “พระเจ้าตอง” กลับจังหวัดพะเยา รับส่งมอบพระเจ้าตอง จากนางสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
ชมพิพิธภัณฑ์ยามค่ำ Night at The Museum
กลับมาอีกครั้งสำหรับบิ๊กอีเว้นท์ของคนรักพิพิธภัณฑ์ เมื่อกรมศิลปากร โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กำหนดจัดกิจกรรม "ชมพิพิธภัณฑ์ยามค่ำ" Night at the Museum ในเทศกาลท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน
บูรณะวัดไชยวัฒนารามนำชีวิตชีวาสู่มรดกโลก
วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา งดงามทรงคุณค่า เป็นหนึ่งในหลักฐานที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่และรุ่มรวยทางวัฒนธรรมของกรุงศรีอยุธยาอดีตเมืองหลวงอันยิ่งใหญ่ วัดเก่าแก่แห่งนี้เป็นโบราณสถานสำคัญของอยุธยา และเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาที่โดย
'4วัด1วัง'เที่ยวมรดกโลกอยุธยายามราตรี
กระแสตอบรับดีสำหรับโครงการท่องเที่ยวโบราณสถานยามค่ำคืนในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปีนี้กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร ยกระดับท่องเที่ยวโบราณสถานยามราตรีเปิดโบราณสถานให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมเพิ่มขึ้นเป็น 5 แห่ง ประกอบด้วย
ย้อนเวลา 4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ
ชวนแต่งชุดไทยเดินทางย้อนเวลากลับไปสู่ช่วงต้นกรุงศรีอยุธยา ดื่มด่ำกับบรรยากาศโบราณสถานยามค่ำคืนที่งดงามในงาน “ 4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ” ภายใต้แนวคิด “ย้อนเวลา ส่องวิถี ปลุกแสงสี พระนครศรีอยุธยา” โดยจะจัดกิจกรรมตามวัดและโบราณสถานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์