อีกไม่กี่วันก็จะเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ตั้งแต่ 12-16 เมษายน ตามวันหยุดราชการ และการเฉลิมฉลองเนื่องจากยูเนสโก ประกาศขึ้นทะเบียนเทศกาลสงกรานต์เป็นมรดกโลก ทำให้งานสงกรานต์ในปีนี้ยังลากยาวถึงวันที่ 21 เม.ย. แน่นอนว่าสีสันของความสนุกสนานนอกจากงานกิจกรรมเล่นน้ำแล้ว การดื่มสังสรรค์เป็นสิ่งที่ยากจะหลีกเลี่ยง ดังนั้นก็ควรดื่มอย่างมีความรับผิดชอบ เช่น ดื่มไม่ขับ กลับรถบริการสาธารณะ เพื่อลดอุบัติเหตุที่นำมาซึ่งความสูญเสียจากสาเหตุเมาแล้วขับในช่วงวันหยุดเทศกาล โดยในช่วงวันสงกรานต์ปีที่แล้ว ตั้งแต่วันที่ 11 – 17 เม.ย. 66
เพื่อลดอบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ นายกษิดิศ ขันธรัตน์ ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) กล่าวว่า เทศกาลสงกรานต์ ปี 2567 จะมีความแตกต่างจากปีที่ผ่านๆมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระยะเวลาของเทศกาลสงกรานต์ ที่ปีนี้รัฐบาลกำหนดให้สามารถจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองได้ถึง 21 วัน แต่ช่วงควบคุมเข้มข้น 7 วันระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2567 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และการที่องค์การยูเนสโก รับรองให้ประเพณีสงกรานต์ถือเป็นมรดกโลก ทำให้หลายพื้นที่จัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องและทำให้มีรถบนถนนและการเดินทางมากกว่าปกติ ส่งผลให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ได้กำหนดการรณรงค์ภายใต้ชื่อ “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” ซึ่ง ทาง สคอ.และ สสส.ได้ร่วมสื่อสารประชาสัมพันธ์เน้นย้ำเรื่อง “ดื่มเหล้า เมาถึงสมอง ดื่มไม่ขับ”เพื่อสร้างความตระหนักขับขี่ปลอดภัยและสื่อสารถึงแอลกอฮอล์ที่ดูดซึมเข้าร่างกายแม้เพียงไม่นาน จะส่งผลต่อการควบคุมของสมอง การตัดสินใจ กล้าทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ เกิดการคึกคะนอง ใจร้อน ขาดสติ จนนำไปสู่อุบัติเหตุ
ทั้งนี้ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ได้รายงานสถิติอุบัติทางถนนสะสม7 วัน(วันที่ 11-17 เมษายน 2566)เกิดอุบัติเหตุรวม 2,203 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ2,208 คน ผู้เสียชีวิต 264 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดคือจังหวัดเชียงราย 68 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดคือ จังหวัดกรุงเทพมหานคร 22 ราย และจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุดคือ จังหวัดนครศรีธรรมราช สาเหตุจากขับรถเร็ว ร้อยละ 38.22 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 23.97 ตัดหน้ากระชั้นชิดร้อยละ 17.57 ส่วนยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 80.46 รถกระบะ ร้อยละ 7.43
นายกษิดิศ กล่าวต่อว่า ความเสี่ยงของการขับขี่โดยทั่วไปในช่วงเทศกาล มักมาจากขาดการพักผ่อนที่เพียงพอก่อนเดินทาง ขาดการวางแผนการเดินทาง ดื่มแล้วขับ ง่วง วูบหลับใน เสียหลักลงข้างทาง พาตัวเองเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง การไม่ชำนาญเส้นทาง เร่งรีบ ขับเร็ว ชนปะทะกับคนในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการเล่นน้ำสงกรานต์ที่ต้องเพิ่มความระมัดระวัง คือ หากเส้นทางมีการเล่นน้ำ รถที่ขับไปอาจมองไม่เห็นทาง ถนนลื่น เสี่ยงนั่งท้ายกระบะ ไม่สวมหมวกนิรภัย พื้นที่เล่นน้ำมีรถหนาแน่น สาดน้ำแรง รถล้ม ถนนลื่น มีแอ่งน้ำ ดื่มน้ำเมาในเขตห้ามดื่ม (Safety Zone ) เหตุทะเลาะวิวาท การลวนลาม ซึ่งช่วงเทศกาลมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาจำนวนมาก มีรถ มีคนบนถนนมากกว่าปกติ เสี่ยงสูง
“รวมทั้ง นโยบายขายน้ำเมาเปิดผับถึงตี 4 บนถนนมีคนเมา รถเสี่ยง คนเสี่ยง มากกว่าปกติ ซึ่งความเสี่ยงที่จะเกิดชึ้นดังกล่าว ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องวางแผนรับมือให้ดี กำกับดูแลอย่างเข้มข้น ก็จะทำให้ความเสี่ยงต่อการเกิดความสูญเสียลดลง”นายกษิดิศ กล่าว
อีกแรงขับเคลื่อนในการลดจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนจากสาเหตุเมาแล้วขับ บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) หรือ DMHT ร่วมกับมูลนิธิแก้ไขปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์ (มปอ.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) LINE MAN และสมาคมการค้าธุรกิจร้านอาหารกลางคืน จัดทำโครงการ “DRINKiQ ดื่มไม่ขับ กลับ LINE MAN RIDE” เพื่อรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวและลูกค้าที่มาใช้บริการร้านอาหารกลางคืนตระหนักรู้เกี่ยวกับอุบัติเหตุบนท้องถนนจากการดื่มแล้วขับ และส่งเสริมให้ธุรกิจร้านอาหารกลางคืนให้บริการและเสิร์ฟเครื่องดื่มอย่างรับผิดชอบ โดยลูกค้าและนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการร้านอาหารกลางคืน16 แห่ง และดื่มอย่างรับผิดชอบผ่านช่องทางออนไลน์ และเรียกใช้บริการรถรับส่ง LINE MAN RIDE ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
พล.ต.ต. ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า สำหรับปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนส่วนหนึ่งมาจากมนุษย์เป็นอันดับต้นๆ รองลงมาคือสภาพทางกายภาพของถนนที่เป็นส่วนประกอบ อุบัติเหตุที่เกิดจากการเมาแล้วขับยังคงเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของอุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศไทย โดยสถิติจากช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาพบว่า เมาแล้วขับเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 โดยมีการขับรถเร็วเป็นสาเหตุอันดับ 1 และการขับรถผิดกฎจราจรเป็นอันดับ 3 สำหรับค่าเฉลี่ยการเกิดอุบัติเหตุในช่วงสงกรานต์ 3 ปีย้อนหลังของศปถ. มีแนวโน้มการเกิดอุบัติที่ลดลงโดยผู้บาดเจ็บเฉลี่ยอยู่ที่ 13% 1และผู้เสียชีวิตเฉลี่ยอยู่ที่ 15% โดยสถิติผู้เสียชีวิตจากบช.น.มีค่าเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯโดยในปีพ.ศ.2564 จำนวน 16 ราย ปีพ.ศ.2565 จำนวน 17 ราย และปีพ.ศ.2566 จำนวน 29 ราย ซึ่งมาจากหลายปัจจัย ทั้งนี้ในปีพ.ศ. 2567 มีเป้าหมายที่จะลดอุบัติเหตุบนท้องถนนให้ได้ 5%
“ทั้งนี้วันหยุดในช่วงสงกรานต์ปีนี้อาจจะยาวถึง 21 เม.ย. ซึ่งไม่เหมือนในปีที่ผ่านๆมา อาจจะเป็นปัจจัยในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเพิ่มขึ้นกว่าสงกรานต์ปีที่แล้ว จึงได้เตรียมพร้อมกำลังตำรวจเพื่อดูแล อาทิ ตั้งด่วนตรวจวินัยทางจราจรที่มีการปรับตามนโยบายการเปิด-ปิดสถานบันเทิงในเวลา 04.00 น. ประมาณ 105 จุดทั่วกรุงเทพฯ การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดในพื้นที่สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และท้องถนน การดูแลประชาชนที่เดินทางออกนอกกรุงเทพฯ ” พล.ต.ต. ธวัช กล่าว
ดร. เก่งการ เหล่าวิโรจนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) กล่าวว่า การส่งเสริมการดื่มอย่างรับผิดชอบเป็นหนึ่งในพันธกิจหลักของดิอาจิโอ ภายใต้แผนงานด้านความยั่งยืน 10 ปี SOCIETY 2030: SPIRIT OF PROGRESS ด้วยความมุ่งมั่นสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อสังคม DMHT ได้จัดทำองค์ความรู้ DRINKiQ เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับพื้นฐานเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มอย่างรับผิดชอบและการดื่มไม่ขับให้กับคนไทยมาอย่างต่อเนื่องกว่า 10 ปี ผ่านกิจกรรมรูปแบบต่างๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์
ศิวภูมิ เลิศสรรค์ศรัญย์ รองประธานอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์องค์กร LINE MAN Wongnai กล่าวว่า “LINE MAN ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มออนดีมานด์แบบครบวงจร ครอบคลุมบริการสั่งอาหารเดลิเวอรี บริการขนส่งออนดีมานด์อื่นๆ ยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการดังกล่าว ผ่านบริการ LINE MAN RIDE บริการเรียกรถมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ และแท็กซี่ โดยทั้งบริการ 2 ล้อและ 4 ล้อ มีรองรับกว่า 100,000 คัน ตลอด 24 ชั่วโมงที่ปลอดภัย ไว้ใจได้ รับส่งถึงที่ ทั้งยังมีบริการคอลเซ็นเตอร์ เพื่อให้ผู้ใช้บริการรู้สึกปลอดภัย สามารถโทรแจ้งตลอด 24 ชั่วโมง
ดร. ญาณี เลยวานิชเจริญ เลขาและกรรมการ สมาคมการค้าธุรกิจร้านอาหารกลางคืน กล่าวว่า ช่วงสงกรานต์มีทั้งคนไทยและต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งการฉลองควรเป็นไปอย่างสร้างสรรค์และรับผิดชอบ ด้วยการให้ร้านอาหารสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการ Drink ทั้ง 16 แห่ง ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล เสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างรับผิดชอบ ดูแลให้ลูกค้าบริโภคเครื่องดื่มในลิมิต ดูแลส่งกลับบ้านอย่างปลอดภัย และเปิดปิดร้านอาหารตามเวลาที่กฎหมายกำหนด ยังให้ความร่วมมือต่อนโยบายของภาครัฐ รวมถึงกฎหมายต่างๆ อย่างเข้มข้น เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นอันตราย
สำหรับร้านอาหารกลางคืนที่เป็นสมาชิกของสมาคมการค้าธุรกิจร้านอาหารกลางคืน 16 ร้านที่เข้าร่วมโครงการฯ ประกอบด้วย 1. Route 66 2. Onyx 3. Venti 4. Terra 5. Heap ทุกสาขา 6. สำราญเริงใจ 7. เครือ full moon 8. เครือโรงเหล้าแสงจันทร์ 9. แซ่บในหลืบ ทุกสาขา 10. เล่นใหญ่ 11. บาร์ลมดี 12. Playfarm 13. Atmos 14. Beegroove 15. Letana 16. สิงห์ป่ะล่ะ
อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการดื่มไม่ขับ ผ่านโครงการ DRINKiQ ดื่มไม่ขับ กลับ LINE MAN RIDE ตลอดทั้งปีพร้อมทั้งส่วนลดพิเศษ LINE MAN RIDE 60% สำหรับลูกค้าใหม่ 25% สำหรับลูกค้าปัจจุบันที่ใช้บริการ LINE MAN ECO และส่วนลด 30% สำหรับลูกค้าใหม่ที่ใช้บริการ LINE MAN BIKE ตลอด 24 ชั่วโมง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เหล่าทัพตบเท้าสวนสนาม ครั้งแรกในรัชกาลที่ 10 | ห้องข่าวไทยโพสต์สุดสัปดาห์
เหล่าทัพตบเท้าสวนสนาม ครั้งแรกในรัชกาลที่ 10 | ห้องข่าวไทยโพสต์สุดสัปดาห์
'ICC' ฟันรวบ เนทันยาฮู.. ไม่ง่าย!! | จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์
'ICC' ฟันรวบ เนทันยาฮู.. ไม่ง่าย!! จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์ : วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ.2567
ต่อลมหายใจ ‘ทักษิณ’ | ห้องข่าวไทยโพสต์สุดสัปดาห์
ห้องข่าวไทยโพสต์สุดสัปดาห์ : วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2567