สนุกกับดนตรีจากศิลปินชาติพันธุ์ใจกลางสยาม

งาน’เสียงชาติพันธุ์ ลือลั่นทั่วสยาม’ เริ่มต้นขึ้นอย่างมีสีสันความหลากหลายชาติพันธุ์ในไทย โดยนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และนางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช พร้อมคณะ อาทิ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ นายนายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ โฆษกกระทรวงฯ น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ น.ส.สกาวใจ พูนสวัสดิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ ฯลฯ เข้าร่วม

งานนี้จัดโดยกระทรวงวัฒนธรรม และเครือข่ายพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์เพื่อเฉลิมฉลองวาระสำคัญของประเทศไทยที่จะมีกฎหมายชาติพันธุ์ จากการที่คณะรัฐมนตรีผ่านร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 ที่เสนอโดยกระทรวงวัฒนธรรม และศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) และผ่านวาระที่หนึ่งในสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว โอกาสนี้ นายเสริมศักดิ์ และนางระเบียบรัตน์ ได้ร่วมเต้นรำลีซูเปิดงาน

นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า หัวใจของกฎหมายฉบับนี้ คือ การคุ้มครองและส่งเสริมให้เกิดความเท่าเทียมกัน เราจะไปด้วยกัน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และกฎหมายนี้จะประกาศใช้อีกไม่นาน และงานนี้กระทรวงตั้งใจให้เป็นการเชื่อมผสานวัฒนธรรม ด้วยท่วงทํานองของดนตรี ที่อยากให้ทุกคนได้เห็น ได้สัมผัส และได้เรียนรู้เพื่ออยู่ร่วมกัน ความแตกต่างไม่ใช่ความแปลกแยก เช่นเดียวกับสังคมไทยที่หลอมรวมผู้คน เป็นสังคมพหุวัฒนธรรมที่งดงามและมีความหลากหลายเป็นทุนทางวัฒนธรรมของชาติ

โอกาสนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ติดภารกิจลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ส่งวีดิโอกล่าวเปิดงานมาเผยแพร่ในพิธีเปิดงาน ใจความว่า รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนพี่น้องชาติพันธุ์ทุกกลุ่มอย่างไม่เลือกปฏิบัติ โดยรัฐบาลได้อนุมัติร่าง พ.ร.บ.ชาติพันธุ์ ฉบับแรกของประเทศตามที่กระทรวงวัฒนธรรม โดยศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร เสนอ เพื่อคุ้มครองสิทธิทางวัฒนธรรม ส่งเสริมศักยภาพ และสร้างความเท่าเทียมอย่างเป็นธรรม เพื่อให้พี่น้องทุกกลุ่มชาติพันธุ์เข้าถึงสิทธิในฐานะพลเมืองไทยอย่างเสมอภาค ผมเชื่อมั่นและเห็นคุณค่าของทุกกลุ่มวัฒนธรรมที่มีความหลากหลาย เเละให้ความสำคัญกับการนำทุนทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญา องค์ความรู้ต่างๆ มาต่อยอดในทางเศรษฐกิจ รัฐบาลจึงพร้อมสนับสนุนและส่งเสริมศักยภาพของพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ให้ดำรงอยู่อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีรายได้ เเละมีคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นพลังสร้างสรรค์ เป็นหุ้นส่วนในการพัฒนาประเทศไทยร่วมกันอย่างยั่งยืน

สำหรับรูปแบบเป็นงานนิทรรศการดนตรีจากศิลปินชาติพันธุ์หลากหลายภูมิภาค ได้แก่ สุวิชาน พัฒนาไพรวัลย์ ศิลปินปกาเกอะญอ, Nimman Street Orchestra ลีซู, คณะพรสวรรค์ ภูเก็ต, Yoov Muas ศิลปินป๊อบชาวม้ง, Good Mood และ Sri Popa-Jay Run 2 นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมการเรียนรู้และทดลองเล่นเครื่องดนตรีชาติพันธุ์ Eco Print มัดย้อมผ้าสีธรรมชาติ  โกโก้เทสติ้ง เป็นต้น และมีการออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ อาทิ ผ้าทอพื้นบ้าน โกโก้ กาแฟ ชา และน้ำผึ้ง เป็นต้น กิจกรรมมีตั้งแต่วันที่ 16-17 มีนาคม 2567 นี้ ที่ลานสยามสแควร์ Block i บริเวณซอย 7 สนใจไปเที่ยวชมงานกันได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

วธ.จัดมหกรรม‘ปลาร้า หมอลำอีสาน’ ยกระดับวัฒนธรรมพื้นบ้านให้ดังก้องโลก

กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับจังหวัดขอนแก่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และภาคเอกชนระดับประเทศ อาทิ หอการค้าไทยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย บริษัท

สุดม่วน! วธ.จัด ‘หมอลำเฟสติวัลร้อยแก่นสารสินธุ์’ หนุนยูเนสโกขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมจับต้องไม่ได้

กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับจังหวัดขอนแก่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และภาคเอกชนระดับประเทศ อาทิ หอการค้าไทยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย บริษัท ขอนแก่น อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด Sustainable Brands (SB) Thailand และ บริษัท

พิกัด 11 วัด งานอารามอร่ามประดับไฟรับปีใหม่

เพื่อส่งมอบความสุขปลายปีและเสริมสิริมงคลแก่ชีวิต กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) จัดกิจกรรม “อารามอร่าม 11 วัด 1  โบสถ์พราหมณ์1 พิพิธภัณฑ์ ประดับไฟฉลองต้อนรับเทศกาลปีใหม่ 2568 “ ถือเป็นอีกหมุดหมายที่ห้ามพลาดและไม่ได้จัดเป็นประจำ เพราะ

ฉลอง'ต้มยำกุ้ง' กระหึ่มโลก ชวนลองเมนูมรดกวัฒนธรรม

โด่งดังก้องโลกกับเมนูต้มยำกุ้งของดีเมืองไทย กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม จัดงานฉลองต้มยำกุ้งและเคบายา มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ ในโอกาสที่ ยูเนสโก ได้ประกาศขึ้นทะเบียน “ต้มยำกุ้ง” (Tomyum Kung) และ “เคบายา” เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (Representative List

แสดง'โขน-โนรา'สานสัมพันธ์ที่เขมร

25 พ.ย.2567 - นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) มีนโยบายนำมิติทางศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมมาส่งเสริมความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศไทยในภูมิภาคอาเซียนและเวทีนานาชาติ