ศิลปินอาเซียนจะได้เข้าร่วมในมหกรรมศิลปะนานาชาติ เวนิส เบียนนาเล่ หรือ International Art Exhibition La Biennale di Venizia ครั้งที่ 60 แสดงศักยภาพผ่านนิทรรศการ The Spirits of Maritime Crossing : วิญญาณข้ามมหาสมุทร และจะมีการฉายภาพยนตร์สั้นเรื่องใหม่ นำแสดงโดย Marina Abramović ศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลก ผู้ชนะรางวัลสิงโตทองคำ ที่เวนิส เบียนนาเล่ และพิเชษฐ กลั่นชื่น ศิลปินไทย โดยจัดแสดงที่ Palazzo Mangilli Valmarana นครเวนิส สาธารณรัฐอิตาลี เรื่องราวภาพยนตร์และนิทรรศการนี้จะเน้นการเดินทางข้ามทะเล และการพลัดถิ่นเกี่ยวข้องโดยตรงกับธีม” Foreigners Everywhere” ของเวนิส เบียนนาเล่ปีนี้
ล่าสุด มูลนิธิ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ ร่วมกับ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผสานความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชน และเครือข่ายพันธมิตรประกาศความพร้อมจัดงาน The Spirits of Maritime Crossing : วิญญาณข้ามมหาสมุทร ซึ่งเป็นกิจกรรมหลักในมหกรรมศิลปะนานาชาติ เวนิส เบียนนาเล่ ครั้งที่ 60 ซึ่งจะเปิดให้เข้าชมระหว่างวันที่ 20 เม.ย. – 24 พ.ย.2567 ภายในงานพบกับศิลปะที่โดดเด่นตั้งแต่ภาพวาด ประติมากรรม สื่อผสม และวิดีโอจัดวาง เจาะลึกประเด็นเรื่องการพลัดถิ่น ลัทธิล่าอาณานิคม และการผสมผสานของวัฒนธรรมที่หลากหลายทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เน้นไปที่สัญลักษณ์การข้ามน้ำและทางทะเลเป็นพิเศษ
ฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บ.ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ประธานกรรมการและผู้ก่อตั้งมูลนิธิ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ กล่าวว่า การจัดแสดงนิทรรศการในเวนิส เบียนนาเล่ เราได้รับเกียรติจาก 15 ศิลปินที่มีชื่อเสียงจากภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ร่วมแสดงผลงาน 40 ชิ้น นับว่าเป็นโอกาสพิเศษที่ ศ. ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ในฐานะภัณฑารักษ์ และศิลปินไทย ได้แสดงศักยภาพในการจัดแสดงผลงานศิลปะให้ทัดเทียมนานาชาติ ในการแสดงให้เห็นว่า ต้นทุนทางศิลปวัฒนธรรมและมรดกทางวัฒนธรรมที่พัฒนาสู่คุณค่าทางศิลปกรรมของภูมิภาคอาเซียน จะได้เผยแพร่สู่สายตาชาวโลก สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยและอาเซียนในงานระดับโลก เป็นการยกระดับให้เกิดคุณค่าทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์แก่เมือง และชุมชน มูลนิธิฯ ส่งเสริมให้เกิดความเชื่อมโยง พร้อมทั้งเผยแพร่เอกลักษณ์วัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมอาเซียนที่จะจัดแสดงขึ้นในมหกรรมศิลปะนานาชาติเวนิส เบียนนาเล่ ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและได้รับการยอมรับจากวงการศิลปะทั่วโลก
“ จากบันทึกประวัติศาสตร์ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จประพาสชมผลงานศิลปะในงานเวนิส เบียนนาเล่ ค.ศ 1897 พระองค์ทรงจ้างศิลปินและสถาปนิกชาวอิตาเลี่ยนอย่าง Galileo Chini , Mario Tamagno, Corrado feroci มาร่วมออกแบบ และสร้างสถานที่สำคัญต่างๆ ในประเทศไทย ต่อมาในรัชสมัยของรัชกาลที่ 6 โปรดเกล้าฯ ให้มีการออกแบบและสร้างบ้านที่เรียกว่า วิลล่านรสิงห์ ปัจจุบัน คือ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล มีรูปแบบสถาปัตยกรรมเวเนเชียน โกธิค รีไววัล อาคารตกแต่งด้วยองค์ประกอบยุคโกธิคแบบเมืองเวนิช คล้ายกับที่ Palazzo Ca’d’Oro (Golden House) อันเป็นเอกลักษณ์ นิทรรศการนี้จะเผยแพร่ผลงานศิลปะร่วมสมัยของคนไทยและนำไปสู่สัมพันธไมตรีอันดีระหว่างไทยกับอิตาลีที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตยาวนาน157 ปี “ ฐาปน กล่าว
ด้าน ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ประธานอำนวยการและผู้อำนวยการศิลป์ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ กล่าวว่า The Spirits of Maritime Crossing : วิญญาณข้ามมหาสมุทร เป็นงานประวัติศาสตร์ เพราะศิลปินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะได้เข้าร่วมแสดงผลงานมหกรรมศิลปะนานาชาติ เวนิส เบียนนาเล่ เป็นเวลา 8 เดือน และไฮไลท์ภาพยนตร์ The Spirits of Maritime Crossing จะเปิดฉายรอบปฐมทัศน์ที่มูลนิธิ Generali Procuratie Vecchie I จัตุรัส San Marco นิทรรศการเน้นไปที่ความหวังและความตระหนักรู้เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของโลก แนวคิดเรื่องกระแสน้ำและการข้ามทะเลไม่เพียงเกี่ยวกับการค้าและการพาณิชย์ มีมิติความทรงจำและการค้นหาวิธีแก้ปัญหาและความเข้าใจว่าเราจะปรับตัวอย่างไรต่อสภาวะที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เป็นเรื่องกระแสการแลกเปลี่ยนและความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมที่ลดลงและไหลเวียน กระแสน้ำที่นำประสบการณ์และความเร้าใจมาสู่เวนิสจากสถานที่อันห่างไกล The Spirits of Maritime Crossing : วิญญาณข้ามมหาสมุทร จะเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้นสำหรับผู้มาเยือน เพื่อใคร่ครวญและใช้เวลาสัมผัสประสบการณ์การตีความทางศิลปะที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และที่หลบภัย จะได้สัมผัสความสามารถของศิลปินอาเซียน หลายคนเป็นคลื่นลูกใหม่ มีอนาคตไกล
เปาโล ดิโอนีซี เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทยกล่าวว่าไทยและอิตาลีมีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมายาวนาน มีศิลปินชาวอิตาเลี่ยนหลายคนออกแบบสถานที่สำคัญหลายแห่งในประเทศไทย หนึ่งในนั้น ศ.ศิลป์ พีระศรี เราพร้อมจะสนับสนุนกิจกรรมดีๆ และหวังว่าในอนาคตอิตาลีจะเป็นพื้นที่ที่จะเปิดให้ศิลปินไทยได้จัดแสดงผลงานสร้างสรรค์ต่อไป เพราะล้วนมีศักยภาพ ตนสัมผัสจากการร่วมชมผลงานศิลปะร่วมสมัยในบางกอกอาร์ตเบียนนาเล่มา
นักรบ มูลมานัส ศิลปินที่ร่วมแสดงงาน กล่าวว่า ทำงานศิลปะร่วมกับจิตติ เกษมกิจวัฒนา นำเสนอในรูปแบบ VDO Installation เชื่อมโยงกับพื้นที่จัดแสดงที่มีประวัติศาสตร์เข้มข้น ใช้กระจกเป็นสัญลักษณ์ภาพสะท้อนอดีตสยาม-เวนิส มีมิติกรุงเทพฯ ที่ได้รับการยกย่องเป็นเวนิสตะวันออก เราตีความเล่นกับมุมมองประวัติศาสตร์รูปแบบใหม่ๆ ผู้ที่เดินทางมาชมงานศิลปะจะได้รับรู้เกร็ดประวัติศาสตร์ที่ถูกลืมจากผลงานร่วมแสดงมหกรรมศิลปะเก่าแก่ของโลกครั้งนี้
สำหรับรายชื่อ 15 ศิลปินที่ร่วมแสดงงานที่เวนิส เบียนนาเล่ ครั้งนี้ นำโดย มารีน่า อบราโมวิช , พิเชษฐ กลั่นชื่น , ปรียากีธา ดีอา , จิตติ เกษมกิจวัฒนา , นักรบ มูลมานัส , จอมเปท คุสวิดานันโต , บุญโปน โพทิสาน ,อัลวิน รีอามิลโล ,คไว สัมนาง, โม สัท ,จักกาย ศิริบุตร , เจือง กง ตึง , นที อุตฤทธิ์ ,กวิตา วัฒนะชยังกูร และ หยี่ อิ-ลาน เรียกว่าครบเครื่องตั้งแต่ศิลปินชื่อดังจนถึงศิลปินหน้าใหม่มากพรสวรรค์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ยลสายน้ำ ยินทำนอง” Melodies of the River ประมวลภาพความประทับใจในงาน River Festival 2024 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย ปีที่ 10 สืบสานประเพณีลอยกระทงแบบรักษ์โลก ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
สืบสานประเพณีและวัฒนธรรมไทย กับประเพณีลอยกระทงแบบรักษ์โลกในงาน River Festival 2024 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย ปีที่ 10 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 – 16 พฤศจิกายน
ชัยพัฒนาแฟร์ สัญจร นครนายก น้อมรำลึก ร.9
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี นายกกิตติมศักดิ์และประธานกรรมการมูลนิธิชัยพัฒนา พระราชทานพระราชานุญาตให้มูลนิธิชัยพัฒนาจัดงาน “ชัยพัฒนาแฟร์” ขึ้น เพื่อแสดงแนวคิดด้านการพัฒนา
นุ่งโจงห่มสไบลอยกระทง ยลวิถีคืนเพ็ญที่ ’สุขสยาม’
Bangkok River Festival 2024 เทศกาลสายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย ปีที่ 10 “ยลสายน้ำ ยินทำนอง” ที่เชิญชวนมาร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทงริมสองฝั่งสายน้ำเจ้าพระยา
โครงการ ไทยเบฟ…รวมใจต้านภัยหนาว สานต่อปณิธานแห่งการ “ให้” ปีที่ 25 “มากกว่าความอบอุ่น คือสังคมแห่งการให้ที่ยั่งยืน”
จากความผันผวนของสภาพภูมิอากาศ อีกทั้งภัยพิบัติรุนแรงหลายรูปแบบที่ต้องเผชิญในยุคของ Global Boiling (สภาวะโลกเดือด) กระทบต่อหลายพื้นที่ตอนบนของประเทศไทยในแถบภาคเหนือ
4 CEO ชั้นนำ เปิดแนวคิดฝ่าความท้าทายอนาคตที่ยั่งยืน บนเวที SX2024
ความพยายามของประชาคมโลกที่จะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs 2030 (Sustainable Development Goals) ในอีก 6 ปีข้างหน้า