รมว.วธ.เผยยอดสักการะพระบรมสารีริกธาตุที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวงกว่าล้านคน ประสานจังหวัดดูแลอำนวยความสะดวกปชช. กราบในส่วนภูมิภาค
4 มี.ค.2567 – นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ตามที่เปิดให้ประชาชนสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคัลลานะจากสาธารณรัฐอินเดีย เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ถึงวันที่ 3 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมานั้น ถือเป็นมหากุศลที่ยิ่งใหญ่เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุพระสารีบุตร และพระโมคัลลานะ จากสาธารณรัฐอินเดีย มาให้ประชาชนได้สักการะบูชา อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 4 มีนาคม ได้อัญเชิญไปประดิษฐานณ หอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ และจะเปิดให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าสักการบูชา ระหว่างวันที่ 5-8 มีนาคม เวลา 09.00-20.00 น.
นายเสริมศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากนั้นจะอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ วัดมหาวนาราม จังหวัดอุบลราชธานี เปิดให้เข้าสัหการะระหว่างวันที่ 10-13 มีนาคม 2567 และอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล จังหวัดกระบี่ ระหว่างวันที่ 15-18 มีนาคม หลังจากนั้นวันที่ 19 มีนาคม จะจัดพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุส่งมอบคืนให้แก่สาธารณรัฐอินเดีย
“ จากการเปิดให้ประชาชนเข้ากราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวงตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมา มีประชาชนเดินทางเข้ากราบสักการะกว่า 1 แสนคนต่อวัน ไม่มีวันไหนที่ต่ำกว่าแสนคน บางวันเข้ากราบสักการะเกือบ 2 แสนคน โดย 9 วัน มีพุทธศาสนิกชนเข้ากราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุกว่า 1 ล้านคน และเชื่อมั่นว่า ในจังหวัดที่อัญเชิญไปจะมีประชาชนเข้ากราบสักการะจำนวนมากเช่นเดียวกัน โดยได้ย้ำกับผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้อง ขอให้ดูแลอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนแทนรัฐบาล เพื่อให้งานนี้เป็นมหากุศลอัญยิ่งใหญ่ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ส่วนมีโอกาสจะขยายเวลาเพิ่มหรือไม่นั้น คงไม่สามารถทำได้ เพราะต้องดำเนินการตามความร่วมมือที่ได้ลงนามไว้กับทางสาธารณรัฐอินเดีย แต่ที่ผ่านมา ได้มีการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนทั้งจังหวัดใกล้เคียงและประเทศเพื่อนบ้านที่นับถือศาสนาพุทธ ทั้งลาว พม่า กัมพูชา ได้เข้ากราบสักการะได้มากที่สุด โดยทางจังหวัดจะต้องบริหารจัดการทั้งสถานที่และเวลาให้เหมาะสม เช่น เปิดให้เข้ากราบสักการะเร็วขึ้น เป็นต้น เพราะถือว่าเป็นช่วงเวลามหามงคลที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก” นายเสริมศักดิ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วธ.จัดมหกรรม‘ปลาร้า หมอลำอีสาน’ ยกระดับวัฒนธรรมพื้นบ้านให้ดังก้องโลก
กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับจังหวัดขอนแก่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และภาคเอกชนระดับประเทศ อาทิ หอการค้าไทยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย บริษัท
สุดม่วน! วธ.จัด ‘หมอลำเฟสติวัลร้อยแก่นสารสินธุ์’ หนุนยูเนสโกขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมจับต้องไม่ได้
กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับจังหวัดขอนแก่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และภาคเอกชนระดับประเทศ อาทิ หอการค้าไทยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย บริษัท ขอนแก่น อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด Sustainable Brands (SB) Thailand และ บริษัท
พิกัด 11 วัด งานอารามอร่ามประดับไฟรับปีใหม่
เพื่อส่งมอบความสุขปลายปีและเสริมสิริมงคลแก่ชีวิต กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) จัดกิจกรรม “อารามอร่าม 11 วัด 1 โบสถ์พราหมณ์1 พิพิธภัณฑ์ ประดับไฟฉลองต้อนรับเทศกาลปีใหม่ 2568 “ ถือเป็นอีกหมุดหมายที่ห้ามพลาดและไม่ได้จัดเป็นประจำ เพราะ
ฉลอง'ต้มยำกุ้ง' กระหึ่มโลก ชวนลองเมนูมรดกวัฒนธรรม
โด่งดังก้องโลกกับเมนูต้มยำกุ้งของดีเมืองไทย กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม จัดงานฉลองต้มยำกุ้งและเคบายา มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ ในโอกาสที่ ยูเนสโก ได้ประกาศขึ้นทะเบียน “ต้มยำกุ้ง” (Tomyum Kung) และ “เคบายา” เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (Representative List
แสดง'โขน-โนรา'สานสัมพันธ์ที่เขมร
25 พ.ย.2567 - นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) มีนโยบายนำมิติทางศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมมาส่งเสริมความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศไทยในภูมิภาคอาเซียนและเวทีนานาชาติ