แจงยื่นแก้พ.ร.บ.ป.ป.ช. กระทบการทำงานอัยการ-ศาล ทำงานเพิ่ม 15,000 คดี

17 ก.พ.2567 - นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)กล่าวถึงพรรคเพื่อไทยขอถอนร่างเสนอแก้ไขพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต ออกจากการประชุมร่วมรัฐสภา วันที่16ก.พ.ว่า ป.ป.ช.ไปชี้แจงเจตนารมณ์ให้คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล)ทราบเจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับดังกล่าวว่า รัฐธรรมนูญปี2540 กำหนดให้ป.ป.ช.มีหน้าที่รวบรวมหลักฐานส่งอัยการสูงสุด เพื่อส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เอาผิดนักการเมืองทุจริต แสดงให้เห็นเจตนารมณ์เบื้องต้นป้องกันไม่ให้ผู้เสียหายหรือประชาชนฟ้องผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้โดยตรง เพื่อป้องกัน หากมีการฟ้องได้โดยตรง นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีอาจถูกฟ้องอยู่เรื่อยๆ และพยานหลักฐานข้อเท็จจริงที่ผู้เสียหายต้องไปรวบรวมก็เป็นภาระ ดังนั้นจึงให้มีองค์กรรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนหนึ่งก่อนส่งฟ้องศาล ขณะที่รัฐธรรมนูญปี2550 มีการปรับแก้ให้ผู้เสียหายยื่นฟ้องไปที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้ แต่ต้องตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งเพื่อกลั่นกรองรวบรวมพยานหลักฐานจากฝ่ายผู้เสียหายหรือผู้ร้อง ก่อนส่งให้ศาลพิจารณาตัดสิน หลักการต่างๆจึงชี้ให้เห็นรัฐธรรมนูญไม่มีเจตนารมณ์ให้ผู้เสียหายยื่นฟ้องได้โดยตรง ต้องผ่านกระบวนการก่อน เพราะความผิดของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นความผิดต่อแผ่นดิน ตำแหน่งหน้าที่ คนที่เสียหายจริงๆคือรัฐ เพราะผู้กระทำคือเจ้าหน้าที่รัฐ
      
นายนิวัติไชย กล่าวว่า ส่วนเรื่องบทเฉพาะกาลที่มีเนื้อหาให้ผู้เสียหายสามารถพิจารณายื่นฟ้องคดีย้อนหลังได้โดยตรงในคดีที่ป.ป.ช.ลงมติให้ข้อกล่าวหาตกไปหรือไม่รับคำร้องนั้น ขณะนี้มีปริมาณคดีที่ป.ป.ช.พิจารณาให้ตกไป 15,000เรื่อง จะรื้อฟื้นคดีกลับมาหรือไม่ หรือการให้อัยการสูงสุดเป็นผู้กลั่นกรองคดีอีกชั้น ในคดีที่ป.ป.ช.ไม่รับหรือสั่งให้ตกไปนั้น ต้องดูว่าอัยการจะรับไหวหรือไม่ ใน15,000เรื่องเหล่านี้ ดังนั้นบทเฉพาะกาลนี้อาจมีปัญหาต่อการทำงานของอัยการในการฟ้องคดี เป็นข้อห่วงใยที่ป.ป.ช.ชี้แจงให้วิปรัฐบาลรับฟัง จึงเอากลับไปทบทวนให้กฎหมายมีความรอบคอบ ทั้งนี้การรื้อฟื้นคดีย้อนหลัง แม้มจะสามารถทำได้ เพราะไม่ใช่ย้อนหลังในทางเป็นโทษ แต่อาจทำให้คดีไม่มีที่สิ้นสุด เพราะผู้ถูกกล่าวหาแม้จะถูกสอบสวนจบไปแล้ว แต่กลับถูกรื้อฟื้นคดีขึ้นมาอีกในเรื่องเดียวกันซ้ำซ้อนไม่จบสิ้น ถ้าจะไปยื่นฟ้องต่อศาลเอง ก็ต้องไปหาหลักฐานเพิ่มเติมเอง เรื่องนี้ไม่กระทบต่อป.ป.ช. แต่จะไปสร้างภาระให้อัยการ ศาล ที่ต้องมาพิจารณาคดีย้อนหลังเหล่านี้ อาจจะไปเพิ่มบุคลากรให้อัยการ ศาลหรือไม่ เพราะมีปริมาณคดีมากขึ้น เป็นการเพิ่มภาระอัยการ ศาล

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ป.ป.ช. แจ้งมติ 'สส.มงคลกิตติ์' ลาสภาฯไปดูหนังผิดจริยธรรมหรือไม่

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีมีข่าวคณะกรรมการ ป.ป.ช

เปิดชื่อ 3 แคนดิเดต เข้ารับการสรรหาเป็นเลขาธิการ ป.ป.ช. คนใหม่

นายนนทิกร กาญจนะจิตรา ประธานกรรมการสรรหาบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งเลขาธิการกรรมการป.ป.ช. ได้ประกาศรายชื่อผู้สมัครเข้ารับการสรรหาฯ ตามที่ได้มีประกาศคณะกรรมการสรรหาฯ ลงวันที่ 6 มิ.ย. 2567 รับสมัครบุคคลเข้ารับการสรรหาดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. นั้น บัดนี้การรับสมัครสรรหาได้เสร็จสิ้นแล้ว อาศัยอำนาจตามข้อ 7

ศาลนัดฟังคำสั่ง 'บิ๊กโจ๊ก' ฟ้องหมิ่น 'อัจฉริยะ' 6 ส.ค. ปัดมีคนเรียก 10 ล้าน แลกแฉ

ศาลนัดฟังคำสั่ง 'โจ๊ก' ฟ้องหมิ่น ‘อัจฉริยะ’ 6 ส.ค. 'บิ๊ก ตร.' ย้อนถามกลุ่มนายพลชลบุรีโดนคดีกลับไม่ถูกปลดออก ปัดมีคนเรียกเงิน 10 ล้าน แลกแฉนายพล

วิจารณ์แซ่ด! อัยการปราบทุจริตฯ สั่ง สอท. ส่งสำนวนคดีเว็บพนันพันบิ๊กตร. ให้ ป.ป.ช.

'อัยการปราบทุจริตฯ' ร่อนหนังสือด่วนที่สุดให้ 'สอท.' รับสำนวนคดีเว็บพนันพันบิ๊กตำรวจ ไปส่ง ป.ป.ช. ทั้งที่ อสส. ยังไม่ได้มีคำสั่งชี้ขาดข้อหารือ วิจารณ์เเซ่ดบรรทัดฐานใหม่