ไปย้อนวันวานเที่ยวงานวัด' สมโภชพระอาราม 196 ปี  วัดประยุรฯ'

รับปีมังกรทอง จุดพลุตระการตา

ทุกครั้งที่มีโอกาสโดยสารเรือด่วนเจ้าพระยา เหมือนราวกับว่าเราได้ใช้ช่วงเวลาพักจากความเหนื่อยล้า นั่งชมวิวสองฝั่งริมน้ำเจ้าพระยาไปอย่างช้าๆ  ผ่านบ้านเรือนไม้เก่า  อาคารสมัยใหม่ ร้านอาหาร โรงเรียน และวัดสำคัญต่างๆ ซึ่งจุดหมายปลายทางของการใช้เรือโดยสารเมื่อวานนี้เราได้มุ่งหน้าไปที่วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร สามารถลงเรือได้ที่ท่าสะพานพุทธฯ

เพื่อมาร่วมงาน   “สมโภชพระอาราม 196 ปี  วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร” ซึ่งจัดขึ้นภายใต้นแนวคิด “สุขสราญรุ่งโรจน์ สมโภชวัดประยูร” นับเป็นการจัดงานต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 โดยบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อพาทุกคนไหว้พระขอพร ย้อนวันวาน ชิมอาหารท้องถิ่น ชมศิลปินร่วมสมัย เที่ยวงานปลอดภัย ใส่ใจรักษ์โลก เทศกาลร้านอาหารอร่อย ของเด็ดและดี ร้านค้าชุมชนกว่า 120  ร้านค้า และร่วมชมมหรสพและการแสดงอีกมากมาย ตั้งแต่วันนี้-14  มกราคม 2567  ตั้งแต่เวลา 16.00-23.00  น.

งานสมโภชวัดประยุรฯ ยังคงเป็นอีกหนึ่งเทศกาลงานวัดแบบดั้งเดิมและและเป็นการสร้างความเข้มแข็งของชุมชนที่เกิดจากความร่วมมือ บวร อันเป็นโมเดลต้นแบบการพัฒนาชุมชนเมือง ซึ่งวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เปรียบเสมือนศูนย์รวมทางวัฒนธรรมของชาวไทย ย่านกะดีจีน ฝั่งธนบุรี ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นชุมชน 3 ศาสนา 4 ความเชื่อ ได้แก่ พุทธเถรวาท พุทธมหายาน คริสต์ และอิสลาม แต่อยู่ร่วมกันได้อย่างดี ตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี จึงถือเป็นย่านประวัติศาสตร์เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร

 ก่อนจะถึงเวลาของงานวัด ช่วงเช้าเราก็มาชมสถานที่สำคัญต่างในวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารก่อน ซึ่งวัดแห่งนี้มีอายุเก่าแก่ 196 ปี  สร้างขึ้นในช่วงต้นรัตนโกสินทร์ โดยสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยุรวงศ์ (ดิศ บุนนาค) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าพระยาพระคลัง ว่าที่กรมท่า และสมุหพระกลาโหม ได้อุทิศสวนกาแฟสร้างเป็นวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2371

และเมื่อ พ.ศ. 2375 ได้ถวายเป็น พระอารามหลวงในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงพระราชทานนามว่า “วัดประยุรวงศาวาส” หรือชาวบ้านนิยมเรียกกันว่า “วัดรั้วเหล็ก” เหตุเพราะสมเด็จเจ้าพระยาฯ ได้สั่งเข้ามาจากประเทศอังกฤษ เพื่อทูลเกล้าฯถวายรัชกาลที่ 3  เผื่อทรงใช้ล้อมสถานที่ในพระบรมมหาราชวัง โดยเอาน้ำตาลทรายซึ่งเป็นสินค้าไทยที่ยุโรปต้องการมากในสมัยนั้น ไปแลกมา ซึ่งรั้วของวัดนี้จะแปลกกว่าทุกแห่ง ด้วยลักษณะที่เป็นเหล็กหล่อทาสีแดง ทำเป็นรูปอาวุธโบราณ คือ หอก ดาบ และขวาน ที่เราจะพบเห็นในปัจจุบัน

ภายในวัดประยุรฯ ยังมีสถานที่สำคัญ  โดยเฉพาะผลงานสถาปัตยกรรมอันงดงาม ที่ผสมผสานศิลปะฝีมือช่างอยุธยา -รัตนโกสินทร์ และศิลปะจากช่างต่างชาติที่เข้ามาในสยามด้วย  อย่าง พระบรมธาตุเจดีย์  ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2450  รูปทรงองค์เจดีย์เป็นทรงลังกาสีขาวองค์ใหญ่ รายล้อมไปด้วยเจดีย์องค์เล็กอีก 18 องค์ ซึ่งองค์เจดีย์พระประธานแห่งนี้ ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมอันดับ 1 หรือ Award of Excellence จากโครงการประกวดรางวัลเพื่อการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ประจำปีพ.ศ. 2556 จากยูเนสโกด้วย

เชิดสิงโต เปิดงาน

พระอุโบสถ เป็นสถาปัตยกรรมทรงไทย หน้าบันเป็นลายดอกพุดตาน หลังคามุงด้วยกระเบื้องเคลือบ พระประธานในพระอุโบสถเป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะปางมารวิชัย พระพุทธรูปองค์นี้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ ให้ช่างชาวไทยเป็นผู้หล่อ และว่าจ้างช่างจากประเทศญี่ปุ่นให้มาลงรักปิดทอง   กล่าวกันว่ามีฝีมือและกรรมวิธีการปิดทองดีเยี่ยม  ต่อด้วยการเข้าชมพระวิหารหลวงพ่อพระพุทธ ลักษณะสถาปัตยกรรมด้านหน้าบันสลักลวดลายดอกไม้สวยสดงดงามและปิดทองประดับกระจกแพรวพราว ด้านในประดิษฐานพระพุทธรูปหล่อปางมารวิชัย สมัยสุโขทัย มีพระนามว่า พระพุทธนาค เป็นพระพุทธรูปโบราณคู่กับพระศรีศากยมุนี พระประธานในพระวิหารวัดสุทัศนเทพวราราม

พระบรมธาตุเจดีย์ สุดงดงาม

อีกสถาปัตยกรรมของวัด ยังมี”เขามอ” ภูเขาจำลองขนาดเล็ก ได้แนวคิดเกี่ยวกับเค้าโครงของภูเขาจำลองมาจาก หยดเทียนขี้ผึ้ง ที่ รัชกาลที่ 3 ได้พระราชทานแก่สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ สมเด็จเจ้าพระยาฯ จึงนำเค้าโครงของหยดเทียนขี้ผึ้งนี้มาเป็นแบบสำหรับสร้างภูเขาจำลอง ที่ก่อด้วยศิลาตั้งอยู่กลางสระน้ำบริเวณหน้าวัด มีศาลาราย 8 หน้า ตั้งอยู่ริมสระน้ำเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป และเป็นที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจ มีบันไดขึ้นสู่ยอดเขา บนยอดเขาเป็นที่ตั้งพระสถูปหล่อด้วยทองเหลืองลงรักปิดทองสำหรับบรรจุพระพุทธรูปสำคัญไว้ภายใน สระน้ำที่ล้อมรอบภูเขาจำลองเต็มไปด้วยเต่า และตะพาบน้ำ ที่มีผู้นำมาปล่อยไว้แต่นานมาแล้ว จึงรู้จักกันทั่วไปในชื่อว่า ภูเขาเต่า และทางกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนภูเขาจำลองไว้ ในฐานะเป็นถาวรวัตถุสำคัญของชาติด้วย

วันแรกของงาน“สมโภชพระอาราม 196 ปี  วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร”  มีแพทย์หญิงพักตร์พิไล ทวีสิน ภริยานายกรัฐมนตรี นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช ภริยารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และสุรพล เศวตเศรนี ประธานโครงการพัฒนาท่องเที่ยวโดยชุมชน อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นย่านกะดีจีน-คลองสาน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เครือข่ายภาครัฐและเอกชนได้ร่วมเปิดงานในครั้งนี้

บรรยากาศบริเวณเขามอ มีร้านอาหารรายล้อม

ช่วงค่ำ บรรยากาศภายในวัด ถูกเนรมิตให้เป็นงานวัดที่ทุกคนต่างรอคอย  โดยภายในงานสมโภชพระอาราม ๑๙๖ ปี วัดประยุรฯ จัดเต็มด้วยกิจกรรมมากมาย ผู้คนจากทั่วสารทิศเดินทางมาร่วมงานกันอย่างหนาแน่นตั้งแต่ฟ้ายังสว่าง ตั้งแต่ทางเข้าวัดก็จะเริ่มเห็นร้านอาหารที่ตั้งเรียงรายอยู่ตรงกำแพงวัดให้เราได้เลือกทานตามความชอบ เข้ามาที่โซนเขามอ จะเป็นส่วนของร้านอาหารจากวิทยาลัยอาชีวะหลายแห่งที่ทำเมนูอาหารน่าทานพร้อมเสิร์ฟกลิ่นหอมฟุ้ง

ผู้คนทยอยเดินทางมาร่วมงานหนาแน่น

ส่วนตรงโซนลานตรงกลางด้านหน้าองค์พระเจดีย์เต็มไปด้วยเมนูคาวหวานจากร้านอาหารและร้านค้าชุมชนในย่านกุฎีจีน อีกทั้งยังมีบูธการเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรม อาทิ เขียนหัวโขน ทำว่าว เขียนหัวสิงโต และหมูกระดาษ  เดินเข้ามาด้านในเวทีกลาง ก็ยังมีร้านอาหารแบบจัดเต็มให้กินเล่นเพลิน มีเครื่องชิงช้าสวรรค์ ยิงปืน ปาเป้า สร้างความสนุกปะลองฝีมือกันสุดมันส์

โซนตรงกลางมีทั้งร้านอาหารและมุมนั่งทาน

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมประกวดสวดมนต์หมู่ทำนองสรภัญญะ พร้อมรับฟังการเสวนา 3 ศาสนา หัวข้อ คุณธรรมทางศาสนาเพื่อการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน โดยพระพรหมบัณฑิต และผู้นำศาสนาต่าง ๆ พร้อมรับชมการประกวดและการแสดงทางด้านวัฒนธรรมต่างๆ แวะไปถ่ายภาพย้อนวันวาน ณ ห้องภาพถ่ายฉายานิติกร และชมมหรสพและการแสดงมากมาย และที่สำคัญงานนี้ยังเป็นการจัดงานแบบใส่ใจรักษ์โลก มีการเชื่อมโยงโครงการของ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจฯ เข้าไปมีส่วนรวม และได้ต่อยอดไปสู่ sustainability เรื่องการคัดแยกขยะ เก็บ-กลับรีไซเคิล อีกด้วย

.เกมปืนจุก ยิงสนุกได้รางวัล

ผู้ที่สนใจร่วมมาย้อนวันวานเที่ยวงานวัดที่สมโภชพระอาราม 196 ปี  วัดประยุรฯ ติดตาม ความเคลื่อนไหวได้ที่ www.watprayoon.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ประชาสัมพันธ์วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร โทร 02-466-1693

ขึ้นชิงช้าสวรรค์ชมวิวชิวๆ
 ผัดไทยร้อนๆ หอยตัวใหญ่ๆ
เยาวชนเจ้าบ้าน พร้อมทำหน้าที่ไกด์ให้คำแนะนำสถานที่สำคัญของวัด
มุมเรียนรู้วัฒนธรรม พร้อมฝึกทำได้ด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไทยเบฟ ฟุตบอล อะคาเดมี่ เปิดบ้านจัดงานวันเด็ก 'Chang Children’s Day2025'

บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง พร้อมด้วยเหล่าพันธมิตร จัดกิจกรรม ”Chang Children’s Day 2025” พร้อมมอบรางวัล ‘เด็กดี ไทยเบฟ’ ประจำปี 2568 โดยได้รับเกียรติจาก คุณแพทริค หอรัตนชัย ผู้อำนวยการ ผู้บริหาร สายงานกิจการองค์กร ประเทศไทย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยคุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง ผู้ก่อตั้งและที่ปรึกษาโครงการไทยเบฟ ฟุตบอล อะคาเดมี่, คุณต้องหทัย เพชรชาติ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โออิชิ โฮลดิ้ง จำกัด, คุณสมชาติ สุรจิตติพงศ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูโรเปี้ยนฟู้ด จำกัด (มหาชน), คุณก่องกานต์ กาทอง ผู้จัดการฝ่ายขายในประเทศ บริษัท มอลเทน (ไทยแลนด์) จำกัด และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมงาน เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2568 ณ สนาม ไทยเบฟ ฟุตบอล อะคาเดมี่ ซึ่งมีน้องๆเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมในปีนี้กว่า 800 คน

“ซึ้งใจมาหาถึงบ้าน” คาราวาน “ผ้าห่มผืนเขียว” เดินทางข้ามหุบเขา มอบไออุ่นถึงมือพี่น้องชาวพิษณุโลก

หากเอ่ยถึงจังหวัดภาคเหนือนตอนล่าง พิษณุโลกเป็นจังหวัด ที่มีลักษณะเป็นเทือกเขาและที่ราบลุ่ม โดยเฉพาะตำบลบ่อภาค เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่เข้าถึงยาก

กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดงาน'ชัยพัฒนาแฟร์ สัญจร นครนายก'

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ไปยังเขื่อนขุนด่านปราการชล อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ทรงเปิด “ศูนย์ฝึกอบรมสุดาเดือนเพ็ญและที่พักของมูลนิธิชัยพัฒนา” และงาน “ชัยพัฒนาแฟร์ สัญจร จังหวั

เตรียมปักหมุดสัมผัสลมหนาวใกล้เมืองกรุง ในงาน “ชัยพัฒนาแฟร์ สัญจร จังหวัดนครนายก” 12-15 ธันวาคม นี้

เตรียมปักหมุดเดินทางท่องเที่ยวสัมผัสลมหนาวใกล้เมืองกรุงฯ กันได้ในงาน “ชัยพัฒนาแฟร์ สัญจร จังหวัดนครนายก” ที่จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 12 -15 ธันวาคม นี้ ณ เขื่อนขุนด่านปราการชล

คาราวาน “ผ้าห่มผืนเขียว” ปีที่ 25 เดินทางสู้หนาว มอบรอยยิ้ม และไออุ่นถึงมือพี่น้องชาวหนองคาย

นับเป็นเวลา 25 ปี ที่คาราวาน "ผ้าห่มผืนเขียว" ในโครงการ “ไทยเบฟ..รวมใจต้านภัยหนาว" ได้ออกเดินทางส่งมอบรอยยิ้ม และความอบอุ่นไปยังพี่น้องผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่ห่างไกล