13 ม.ค.2567 - พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ร่วมประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกล (VTC) กับ พลเอกอาวุโส มิน อ่อง ไหล่ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมา ณ ห้องรับรอง CAS 63 กองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ โดยการประชุมในวันนี้ มีประเด็นหารือในกรอบความร่วมมือของทั้งสองประเทศ ที่สำคัญใน 4 ประเด็น ได้แก่
ประเด็นการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่าจะมีการยกระดับความร่วมมือในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยให้มีการแลกเปลี่ยนข่าวสารระหว่างหน่วยงานในทุกระดับ ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมา ได้กล่าวขอบคุณทางฝ่ายไทย ที่ได้ทำการจับกุมขบวนการลักลอบขนยาเสพติดจากประเทศเมียนมา เนื่องจากตรวจพบว่ามีการใช้เงินที่ได้จากการค้ายาเสพติด ไปใช้ในการก่อเหตุความไม่สงบ จึงอยากเห็นถึงความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายในการแก้ไขปัญหา โดยที่ผ่านมา รัฐบาลเมียนมาสามารถจับกุมขบวนการลักลอบค้ายาเสพติด คิดเป็นมูลค่าหลายร้อยล้านบาท
สำหรับประเด็นสำคัญอีกประเด็นหนึ่งที่มีการหารือในการประชุมครั้งนี้ คือ เรื่องการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน โดย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมาเสนอให้มีความร่วมมือ ในระดับประเทศ ทั้ง 3 ประเทศ ได้แก่ เมียนมา ไทย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยทางเมียนมาขอให้ฝ่ายไทยเสนอให้ฝ่ายลาวร่วมมือในการแก้ไขปัญหานี้ด้วย
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดจะนำเรียนในระดับรัฐบาลต่อไป เพื่อให้เกิดกลไกความร่วมมือกันของทั้ง 3 ประเทศ
สำหรับประเด็นต่อมา เป็นเรื่องการยกระดับการให้ความช่วยเหลือด้านมนุยธรรม (Up scaling Humanitarian Assistance) โดยฝ่ายเมียนมาเห็นด้วยกับฝ่ายไทย ที่ได้เสนอเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การประชุม โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา หารือกับฝ่ายไทยต่อไป เนื่องจากความสงบสุขและความสัมพันธ์ของประชาชนทั้งสองประเทศเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ซึ่งเมื่อชายแดนมีความสงบเรียบร้อย จะได้มีการเปิดช่องการค้าบริเวณชายแดนเพิ่มขึ้นต่อไป
และในประเด็นสุดท้าย ที่ประชุมได้กล่าวถึงการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดน ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือในสกัดกั้นและปราบปรามการลักลอบค้าสิ่งของผิดกฎหมาย การพนันออนไลน์ และการค้ามนุษย์บริเวณตามแนวชายแดน โดยฝ่ายเมียนมาเตรียมการที่จะปราบปรามอย่างจริงจัง โดยขอให้ฝ่ายไทยได้กวดขันการใช้ท่าข้ามในลักลอบการขนส่งสิ่งของผิดกฎหมาย รวมทั้งขอบคุณที่ฝ่ายไทยไม่ให้ผู้ก่อการร้ายที่เป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ได้ทำการเคลื่อนไหวในพื้นที่ของประเทศไทย และขอบคุณที่ช่วยจับกุมอาวุธกระสุนวัตถุระเบิดและสิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ บริเวณชายแดน อีกด้วย
ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าว ถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์ด้านความร่วมมือทางทหารที่มีมาอย่างยาวนานของทั้งสองกองทัพให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อร่วมกันพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทย–เมียนมา อันจะส่งเสริมบรรยากาศการสร้างความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนและการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในทุกมิติแก่ทั้งสองประเทศ เพื่อให้มีความมั่นคง ยั่งยืน สืบไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บูมเศรษฐกิจ 2 ชาติ ! “อนุทิน” เร่งสร้างสะพานมิตรภาพจันทบุรี-ไพลิน จับมือกัมพูชา กระตุ้นค้าขายชายแดน-ท่องเที่ยว
วันที่ 21 พย. บริเวณสะพานข้ามคลองตะเคียน ด่านผักกาด จุดก่อสร้างสะพานมิตรภาพจันทบุรี-ไพลิน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะผู้บริหาร อาทิ นายอรรษิษฐ์ สัมพัน์รัตน์
ถึงบางอ้อ ดร.เสรี เผยเหตุ 'กัมพูชา' ยอมตกลง MOU44
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงนาม MOU44 มีหรือจะพูดว่า MOU44 ไม่ดีสำหรับประเทศไทย เขาย่อมพูดว่าเป็นผลดี
'แพทองธาร' หารือทวิภาคี 'สี จิ้นผิง' จีนยันสนับสนุนไทยในเวทีระดับโลกทุกมิติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อ 15 พ.ย. 2567 เวลา 10.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงลิมา ประเทศเปรู ซึ่งช้ากว่าไทย 12 ชั่วโมง) โรงแรม Delfines Hotel
'หมอวรงค์' อัด 'ภูมิธรรม' ยังสับสนเรื่องเกาะกูด
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานทราปรึกษาพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า นายภูมิธรรมยังสับสนเรื่องเกาะกูด
'ธีระชัย' เผย MOU44 จุดแข็งคือจุดอ่อน มาถึงบัดนี้ไทยย่อมจะไม่ใช้สิทธิที่จะทักท้วงอีกแล้ว
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังปร
แรง! อดีตกกต. ซัดรัฐบาล หากยอมรับการขีดเส้นของเขมร 'ท่านไม่ได้รักชาติหรอกครับ ท่านขายชาติ'
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต. โพสต์ข้อความหัวข้อ "คลั่งชาติ รักชาติ ขายชาติ" โดยระบุรายละเอียดว่า คนที่ยกเรื่อง MO